ร่ม เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการในการกันแดด กันฝนต่าง ๆ และเป็นอุปกรณ์ที่ยังคงได้รับความนิยมในการใช้งานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มสนามหรือร่มกอล์ฟก็ตาม ซึ่งในสมัยก่อนนั้น การใช้ร่ม จะได้รับความนิยมเฉพาะในกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีฐานะ เนื่องจากร่มในสมัยก่อนนั้นมาราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้การที่จะซื้อร่มสักคันหนึ่งเพื่อมาใช้งานนั้นเป็นการแสดงออกถึงความมีฐานะของคนในสมัยนั้นด้วย และเนื่องจากร่มที่มีราคาสูงอย่างมากนั้นทำให้การใช้งานจึงเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ร่มนั้นเกิดการชำรุด และเมื่อร่มเกิดการชำรุด แทนที่คนในสมัยก่อนจะซื้อร่มคันใหม่เหมือนคนในสมัยนี้ กลับใช้วิธีการซ่อมแทน จึงเกิดเป็นอาชีพช่างซ่อมร่มขึ้นมา
ช่างซ่อมร่มนั้น เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยก่อน เพราะว่าร่มที่ใช้ในสมัยก่อนนั้นไม่ได้มีความแข็งแรงทนทานเท่ากับร่มที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน จึงไม่ทนทานต่อแดด ลม ฝน เท่าไหร่นัก ทำให้อาชีพช่างซ่อมร่มนั้นสามารถทำรายได้อย่างมากให้กับคนในสมัยนั้น และเมื่อช่างซ่อมร่มนั้นได้ซ่อมร่มเป็นประจำจนเกิดความชำนาญก็เลยคิดวิธีที่จะผลิตร่มขึ้นเพื่อจำหน่ายเอง แทนการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ความคิดนั้นเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะเมื่อร่มนั้นถูกผลิตและจำหน่ายขึ้นได้เองทำให้ร่มนั้นมีราคาที่ถูกลงอย่างมากจนกลายเป็นว่าร่มนั้นมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น เพราะราคาที่ลดลงมาจนสามารถเข้าถึงได้ของคนในทุกกลุ่มและทุกชนชนชั้น ทำให้เมื่อร่มนั้นเกิดการชำรุด คนส่วนใหญ่จึงใช้วิธีการเลือกซื้อร่มคันใหม่แทนการซ่อม เนื่องจากราคาต่างกันไม่มากนัก จึงทำให้อาชีพของช่างซ่อมร่มนั้นเริ่มจางหายไปตามกาลเวลา
ปัจจุบันนั้น อาชีพช่างซ่อมร่มเองก็ยังคงมีอยู่ ไม่ได้หมดไปเลยทีเดียว เพราะยังมีร่มสนามหรือร่มที่มีขนาดใหญ่ที่มีราคาสูงที่ยังคงต้องการช่างซ่อมร่มในกรณีที่ร่มเกิดการชำรุดอยู่ เพราะสำหรับร่มขนาดใหญ่นั้น ค่าซ่อมมีราคาถูกกว่าการซื้อใหม่ค่อนข้างมาก ทำให้อาชีพของช่างซ่อมร่มก็ยังพอดำเนินต่อมาได้จนถึงปัจจุบัน แต่อาจจะหาคนที่มีฝีมือในการซ่อมร่มได้ยากกว่าในสมัยก่อนมาก
จริง ๆ แล้วนั้น การที่ร่มมีราคาถูกลงมากกว่าในสมัยก่อน อาจจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค เพราะเมื่อสินค้าราคาต่ำ กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ย่อมมีมากขึ้น แต่ผลเสียที่เกิดขึ้นจากการที่ร่มนั้นมีราคาที่ต่ำกว่าเดิมก็มีมากเช่นกัน เพราะเมื่อร่มมีราคาถูกจนการซื้อร่มคันใหม่นั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าการซ่อม ทำให้อาชีพของช่างซ่อมร่มนั้นไม่สามารถดำเนอนต่อไปได้ ขาดรายได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนอาชีพไปในที่สุด นอกจากนั้นยังเป็นการปลูกฝังนิสัยการทิ้งของของคนไทยอีกด้วย จากการที่ร่มในสมัยก่อนนั้นต้องใช้อย่างถนุถนอมและระมัดระวัง ก็กลายเป็นการใช้งานแบบไม่รักษา เพราะว่าราคาถูก ไม่รู้จักเสียดายของ ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งของนั้น ๆ เพราะคิดว่าสามารถหาซื้อได้ง่าย เป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ไม่ดีให้กับสังคมไทย
ถึงแม้ว่าร่มนั้นจะเป็นสิ่งของที่มีราคาถูกมากก็ตาม แต่อย่าลืมว่าร่มนั้นก็สามารถช่วยกันแดดกันฝนให้กับเราได้ในเวลาที่เราต้องการ และถึงแม้ว่าเงินหลักสิบหลักร้อยของเรานั้นอาจจะเป็นเงินที่เราสามารถหาเลี้ยงชีพได้ง่าย หรือเป็นเพียงแค่เงินจำนวนเล็กน้อยของเราก็ตาม แต่สำหรับอีกหลาย ๆ ชีวิตที่ยังอดอยาก ลำบากในการใช้ชีวิตอยู่นั้น เงินเหล่านี้อาจจะสามารถต่อชีวิตของพวกเขาไปได้อีกหลายวันเลยก็ได้ ดังนั้นเราจึงควรรู้จักประหยัดและเห็นคุณค่าของเงินที่เรามีอยู่และใช้สอยด้วยความระมัดระวัง เพื่อในอนาคตเราจะได้ไม่ลำบากนั่นเอง