CALL CENTER
    02-408-1377 (อัตโนมัติ 10 คู่สาย)

    blog

    ร่มที่ควรเลือกใช้ในช่วงสภาวะโลกร้อน

    สภาวะโลกร้อนนั้น เป็นปัญหาที่โลกของเราได้มีการเผชิญหน้ากันมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีองค์กรต่าง ๆ มากมายออกมาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา...

    สภาวะโลกร้อนนั้น เป็นปัญหาที่โลกของเราได้มีการเผชิญหน้ากันมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีองค์กรต่าง ๆ มากมายออกมาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ทั้งการรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติก การลดปริมาณขยะมูลฝอยเพื่อลดปริมาณการเผาไหม้ของขยะอันเป็นสาเหตุของการเกิดมลพิษทางอากาศ ซึ่งผลกระทบจากการเกิดภาวะโลกร้อนคือ การที่โอโซนในชั้นบรรยากาศนั้นเกิดช่องโหว่ ทำให้แสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาบนพื้นโลกมีรังสี UV ที่แรงมากเกินความจำเป็นหรือเกิดกว่าที่ผิวของมนุษย์จะสามารถรับไหว ทำให้ผิวของเราเกิดรอยไหม้ ดำคล้ำและเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางผิวหนังต่าง ๆ ได้

    วิธีการในการป้องกันนั้น ก็คือการใช้ร่มกันแดด แต่ว่าร่มทั่วไปที่เราใช้งานอยู่นั้น เป็นเพียงร่มที่สามารถกันได้เพียงแสงแดดเท่านั้น แต่ไม่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ จึงต้องมีการออกแบบร่มรูปแบบพิเศษมาเพื่อที่จะตอบโจทย์การกันแสง UV โดยเฉพาะ แต่ไม่ใช่ว่าร่มทั่วไปนั้นจะไม่สามารถใช้งานได้ หากว่าเราเพียงแค่ใช้ร่มทั่วไปกลางแจ้งเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ 15-30 นาที แต่ถ้านานกว่านั้นก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดเป็นตัวช่วยเพิ่มเติม แต่หากเป็นร่มที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันรังสี UV โดยเฉพาะนั้น ร่มจะสามารถช่วยป้องกันผิวของเราขณะออกแดดได้นานมากกว่านั่นเอง

    ร่มนั้น มีหลายรูปแบบและหลายขนาด ทั้งร่มสนาม ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ซึ่งร่มแต่ละรูปแบบนั้นก็ถูกออกแบบมาเพื่อคุณประโยชน์ในการใช้งานรูปแบบเดียวกัน คือการป้องกันแสงแดด ป้องกันฝน แต่เพียงแค่ลักษณะของการใช้งานอาจจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง คือหากเป็นร่มพับก็อาจจะเหมาะสำหรับการพกไปยังสถานที่ต่าง ๆ แต่หากเป็นร่มสนามก็อาจจะเหมาะสำหรับการใช้งานของบุคคลมากกว่า 1 คนขึ้นไป หรือการใช้งานสำหรับนั่งทานอาหาร เป็นต้น

    ไม่ใช่เพียงแค่ผลเสียที่กระทบต่อผิวหนังของเราเท่านั้น เพราะแสงแดดจากดวงอาทิตย์ที่ส่องมายังโลกโดยไม่ผ่านชั้นโอโซน อาจส่งผลร้ายต่อดวงตาของเราได้ด้วย ผลร้ายที่ว่านี้ไม่ได้เกิดจากการจ้องมองแสงแดดโดยตรงเท่านั้น แต่เกิดจากการมองสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่กลางแจ้งแม้ว่าเราจะกางร่มอยู่ก็ตาม ซึ่งแสงแดดที่มีความแรงมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดกระจกตาอักเสบ ต้อลม ต้อเนื้อในตา สังเกตอาการง่าย ๆ ว่า เมื่อเราออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งถึงแม้จะมีการกางร่มก็ตาม เมื่อเดนกลับเข้าบ้านนั้นจะมีอาการหน้ามืด หรือรู้สึกปวดกระบอกตาเมื่อเปิดประตูไปเจอกับแสงแดด ซึ่งทางแก้นั้นคือการเลือกร่มที่สามารถกันรังสียูวีได้ หรือการใส่แว่นกันแดดก็สามารถช่วยได้เช่นกันค่ะ

    นอกจากการที่ชั้นบรรยากาศของโลกมีการเปลี่ยนแปลงจากการเกิดภาวะโลกร้อนแล้ว การเกิดภาวะโลกร้อนยังส่งผลอย่างมากต่อการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ซึ่งก็เป็นสาเหตุของการเกิดน้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นทื่และถึงแม้ว่าล่าสุดนั้น โอโซนในชั้นบรรยากาศจะมีการปรับตัวที่ทำให้ช่องโหว่นั้นแคบลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ในอนาคตนั้น จะไม่เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นอีก

    ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นมาแล้วนั้น เราต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาและรับมืออยู่ร่วม 10 ปี ซึ่งหากในตอนนี้มลภาวะทางอากาศต่าง  ๆ จะลดน้อยลงและหากโลกของเราจะกลับมาอีกอากาศที่สดใสอีกครั้ง ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารุกลับมาดำเนินวิถีชีวิตต่าง ๆ ได้ตามปกตินะคะ แต่เรายังควรร่วมกันรณรงค์เกี่ยวกับวิธีต่าง ๆ ในการลดโลกร้อนอยู่เรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้โลกของเราต้องกลับไปเจอกับมลภาวะและมลพิษเช่นเดิมอีกนั่นเองค่ะ

    ทำความรู้จักกับ ร่มวะงะสะ

    หากพูดถึงร่มวะงะสะ หลาย ๆ คนอาจจะงงและก็สงสัยว่าหน้าตาของร่มชนิดนี้เป็นแบบไหน แต่หากพูดว่าร่มญี่ปุ่น หลาย ๆ คนน่าจะพอนึกหน้าตาและรูปร่างออกกันบ้างแล้วใช่ไหมละคะ แต่ทราบไหมคะว่าจริง ๆ แล้วนั้น ร่มญี่ปุ่นหรือร่มวะงะสะนั้น...

    หากพูดถึงร่มวะงะสะ หลาย ๆ คนอาจจะงงและก็สงสัยว่าหน้าตาของร่มชนิดนี้เป็นแบบไหน แต่หากพูดว่าร่มญี่ปุ่น หลาย ๆ คนน่าจะพอนึกหน้าตาและรูปร่างออกกันบ้างแล้วใช่ไหมละคะ แต่ทราบไหมคะว่าจริง ๆ แล้วนั้น ร่มญี่ปุ่นหรือร่มวะงะสะนั้น ไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น แต่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ในสมัยเฮอัน ซึ่งชื่อที่คนส่วนใหญ่ใช้เรียกกันอาจจะมีความผิดเพี้ยนอยู่บ้างเช่น วากาสะ , วางาสะ , คาราคาสะ เป็นต้น

    ร่มวะงะสะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลาศตวรรษที่ 15 ซึ่งต้นแบบมาจากร่มเท็นไงของประเทศจีน แตกต่างกันตรงที่ร่มของจีนในตอนนั้นยังไม่สามารถหุบได้ ญี่ปุ่นจึงนำต้นแบบมาพัฒนาให้สามารถหุบได้ ความโดดเด่นของร่มวะงะสะคือ ร่มชนิดนี้นั้นใช้กระดาษเป็นวัสดุหลักในการผลิตร่ม แต่กลับสามารถที่จะกันแดด กันฝนได้ และที่สำคัญคือมีความแข็งแรงมากพอสมควร ส่วนตัวโครงร่มและด้ามจับนั้นจะทำจากไม้ไผ่ ซึ่งร่มวะงะสะนั้นได้รับความนิยมอย่างมากทั้งการใช้งานและการใช้เพื่อตกแต่งควบคู่กับการแต่งกายชุดกิโมโน

    ร่มวะงะสะนั้น เป็นร่มที่ผลิตขึ้นโดยกระบวนการงานฝีมือ ไม่ได้อาศัยเครื่องจักรในการผลิต ดังนั้น การที่จะได้ร่ม 1 คันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้ร่มวะงะสะในสมัยก่อนนั้นมีราคาสูงมาก เพราะนอกจากการผลิตที่ใช้ระยะเวลานานและอาศัยแรงคนในการทำงานแล้ว ร่มวะงะสะยังเป็นร่มรุ่นแรกที่ถูกผลิตขึ้นในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย  โดยส่วนใหญ่คนที่ใช้งานร่มวะงะสะนั้นมักจะเป็นกลุ่มนางสนมหรือนางกำนัลที่มียศสูงเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ร่มวะงะสะนั้นผลิตจากกระดาษแต่สามารถกันน้ำได้ นั่นก็เพราะชาวบ้านนั้นได้มีการนำน้ำมันมาเคลือบผิวของกระดาษเอาไว้เพื่อป้องกันน้ำนั่นเอง

    กระบวนการในการผลิตร่มวะงะสะเริ่มจากขั้นแรก ทำโครงของร่มซึ่งจะใช้เชือกเป็นตัวเชื่อมระหว่างไม้แต่ละส่วน ซึ่งส่วนหัวตัวนี้เป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้ร่มนั้นกางหรือหุบได้ แต่ส่วนหัวของร่มนั้นจะถูกทำจากไม้กำยานหรือไม้เนื้อแข็ง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทาน ส่วนต่อมาเป็นการนำกระดาษมาคลุมด้านนอกของตัวร่ม ซึ่งกระดาษจะถูกติดลงบนโครงร่มโดยตรง และมีอีกส่วนหนึ่งที่จะถใช้ติดตรงหัวร่มด้านนอก เพื่อป้องกันการรั่วไหลขณะใช้ในการกันฝน เมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงจะใช้น้ำมันพืชทาให้มั่วกระดาษเพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการกันน้ำ ก่อนจะทาด้วยน้ำยาเคลือบเงาและแลกเกอร์ เมื่อแห้งดีแล้วจึงประกอบส่วนด้ามจับของร่ม ก่อนจะนำมาตกแต่งลวดลายตามชอบ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ร่มวะงะสะนั้นจะนิยมใช้กระดาษสีแดงและตกแต่งเป็นลวดลายดอกไม้ เพื่อเพิ่มความสดใส

    ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีการผลิตและออกแบบร่มมาอย่างหลากหลาย ทั้งร่มกลับด้าน ร่มกอล์ฟ ร่มพับ และถึงแม้ว่าร่มเหล่านั้นจะเปลี่ยนเป็นการใช้โครงเหล็กมาเป็นส่วนประกอบในการผลิตแทนไม้เพื่อให้ร่มนั้นมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเดิมก็ตาม แต่ร่มวะงะสะก็ยังคงถูกใช้ในพิธีการที่สำคัญต่าง ๆ ของญี่ปุ่นอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นพิธีชงชาหรือพิธีกรรมในด้านอื่น ๆ นอกจากนี้ร่มวะงะสะก็ยังคงถือว่าเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่เพิ่มความน่าสนใจ เพิ่มแรงจูงใจในการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ให้กับประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก และถึงแม้ว่าปัจจุบันเราอาจจะไม่ได้เห็นการใช้งานร่มวะงะสะในชีวิตประจำวันเท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่าร่มวะงะสะจะยังคงเป็นร่มที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ระลึกถึงและอยากที่จะรักษาและอนุรักษ์ไว้เพื่อรุ่นลูกรุ่นหลานสืบต่อไปอย่างแน่นอน

    ช่างซ่อมร่ม อาชีพที่เคยได้รับความนิยมมากที่สุด

    ร่ม เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการในการกันแดด กันฝนต่าง ๆ และเป็นอุปกรณ์ที่ยังคงได้รับความนิยมในการใช้งานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มสนามหรือร่มกอล์ฟก็ตาม ซึ่งในสมัยก่อนนั้น การใช้ร่ม...

    ร่ม เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการในการกันแดด กันฝนต่าง ๆ และเป็นอุปกรณ์ที่ยังคงได้รับความนิยมในการใช้งานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มสนามหรือร่มกอล์ฟก็ตาม ซึ่งในสมัยก่อนนั้น การใช้ร่ม จะได้รับความนิยมเฉพาะในกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีฐานะ เนื่องจากร่มในสมัยก่อนนั้นมาราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้การที่จะซื้อร่มสักคันหนึ่งเพื่อมาใช้งานนั้นเป็นการแสดงออกถึงความมีฐานะของคนในสมัยนั้นด้วย และเนื่องจากร่มที่มีราคาสูงอย่างมากนั้นทำให้การใช้งานจึงเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ร่มนั้นเกิดการชำรุด และเมื่อร่มเกิดการชำรุด แทนที่คนในสมัยก่อนจะซื้อร่มคันใหม่เหมือนคนในสมัยนี้ กลับใช้วิธีการซ่อมแทน จึงเกิดเป็นอาชีพช่างซ่อมร่มขึ้นมา

    ช่างซ่อมร่มนั้น เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยก่อน เพราะว่าร่มที่ใช้ในสมัยก่อนนั้นไม่ได้มีความแข็งแรงทนทานเท่ากับร่มที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน จึงไม่ทนทานต่อแดด ลม ฝน เท่าไหร่นัก ทำให้อาชีพช่างซ่อมร่มนั้นสามารถทำรายได้อย่างมากให้กับคนในสมัยนั้น และเมื่อช่างซ่อมร่มนั้นได้ซ่อมร่มเป็นประจำจนเกิดความชำนาญก็เลยคิดวิธีที่จะผลิตร่มขึ้นเพื่อจำหน่ายเอง แทนการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ความคิดนั้นเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะเมื่อร่มนั้นถูกผลิตและจำหน่ายขึ้นได้เองทำให้ร่มนั้นมีราคาที่ถูกลงอย่างมากจนกลายเป็นว่าร่มนั้นมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น เพราะราคาที่ลดลงมาจนสามารถเข้าถึงได้ของคนในทุกกลุ่มและทุกชนชนชั้น ทำให้เมื่อร่มนั้นเกิดการชำรุด คนส่วนใหญ่จึงใช้วิธีการเลือกซื้อร่มคันใหม่แทนการซ่อม เนื่องจากราคาต่างกันไม่มากนัก จึงทำให้อาชีพของช่างซ่อมร่มนั้นเริ่มจางหายไปตามกาลเวลา

    ปัจจุบันนั้น อาชีพช่างซ่อมร่มเองก็ยังคงมีอยู่ ไม่ได้หมดไปเลยทีเดียว เพราะยังมีร่มสนามหรือร่มที่มีขนาดใหญ่ที่มีราคาสูงที่ยังคงต้องการช่างซ่อมร่มในกรณีที่ร่มเกิดการชำรุดอยู่ เพราะสำหรับร่มขนาดใหญ่นั้น ค่าซ่อมมีราคาถูกกว่าการซื้อใหม่ค่อนข้างมาก ทำให้อาชีพของช่างซ่อมร่มก็ยังพอดำเนินต่อมาได้จนถึงปัจจุบัน แต่อาจจะหาคนที่มีฝีมือในการซ่อมร่มได้ยากกว่าในสมัยก่อนมาก

    จริง ๆ แล้วนั้น การที่ร่มมีราคาถูกลงมากกว่าในสมัยก่อน อาจจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค เพราะเมื่อสินค้าราคาต่ำ กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ย่อมมีมากขึ้น แต่ผลเสียที่เกิดขึ้นจากการที่ร่มนั้นมีราคาที่ต่ำกว่าเดิมก็มีมากเช่นกัน เพราะเมื่อร่มมีราคาถูกจนการซื้อร่มคันใหม่นั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าการซ่อม ทำให้อาชีพของช่างซ่อมร่มนั้นไม่สามารถดำเนอนต่อไปได้ ขาดรายได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนอาชีพไปในที่สุด นอกจากนั้นยังเป็นการปลูกฝังนิสัยการทิ้งของของคนไทยอีกด้วย จากการที่ร่มในสมัยก่อนนั้นต้องใช้อย่างถนุถนอมและระมัดระวัง ก็กลายเป็นการใช้งานแบบไม่รักษา เพราะว่าราคาถูก ไม่รู้จักเสียดายของ ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งของนั้น ๆ เพราะคิดว่าสามารถหาซื้อได้ง่าย เป็นการปลูกฝังค่านิยมที่ไม่ดีให้กับสังคมไทย

    ถึงแม้ว่าร่มนั้นจะเป็นสิ่งของที่มีราคาถูกมากก็ตาม แต่อย่าลืมว่าร่มนั้นก็สามารถช่วยกันแดดกันฝนให้กับเราได้ในเวลาที่เราต้องการ และถึงแม้ว่าเงินหลักสิบหลักร้อยของเรานั้นอาจจะเป็นเงินที่เราสามารถหาเลี้ยงชีพได้ง่าย หรือเป็นเพียงแค่เงินจำนวนเล็กน้อยของเราก็ตาม แต่สำหรับอีกหลาย ๆ ชีวิตที่ยังอดอยาก ลำบากในการใช้ชีวิตอยู่นั้น เงินเหล่านี้อาจจะสามารถต่อชีวิตของพวกเขาไปได้อีกหลายวันเลยก็ได้ ดังนั้นเราจึงควรรู้จักประหยัดและเห็นคุณค่าของเงินที่เรามีอยู่และใช้สอยด้วยความระมัดระวัง เพื่อในอนาคตเราจะได้ไม่ลำบากนั่นเอง

    ประวัติความเป็นมาของตลาดร่มหุบ

    ตลาดร่มหุบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในจังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากมีความพิเศษกว่าตลาดอื่น ๆ ตรงที่ตลาดนั้น ตั้งอยู่บนทางรถไฟ พ่อค้า – แม่ค้าต่างก็ตั้งแผงขายของริมทางรถไฟ และเมื่อถึงเวลาที่รถไฟมานั้น พ่อค้า...

    ตลาดร่มหุบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในจังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากมีความพิเศษกว่าตลาดอื่น ๆ ตรงที่ตลาดนั้น ตั้งอยู่บนทางรถไฟ พ่อค้า – แม่ค้าต่างก็ตั้งแผงขายของริมทางรถไฟ และเมื่อถึงเวลาที่รถไฟมานั้น พ่อค้า – แม่ค้าก็จะทำการเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่บนราง รวมถึงร่มเพื่อให้รถไฟสามารถผ่านไปได้ ซึ่งความพิเศษนี้แหละที่ทำให้ตลาดนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและตื่นตาตื่นใจอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

    ตลาดร่มหุบตั้งอยู่บนทางรถไฟสายแม่กลองจังหวัดสมุทรสงคราม โดยตลาดร่มหุบนั้นก่อกำเนิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2444 ซึ่งเดิมทีนั้น เป็นเพียงการตั้งตลาดอยู่พื้นที่ข้าง ๆ ทางรถไฟเท่านั้น จนเมื่อปี พ.ศ. 2527 ได้มีการปรับปรุงและขยายพื้นที่ในการขายในมาวางขายอยู่บนทางรถไฟ โดยมีจำนวนร้านค้าอยู่ประมาณ 250 – 300 ร้าน โดยตลาดร่มหุบนั้นเป็นตลาดเดียวในโลกที่มีการก่อตั้งอยู่บนทางรถไฟ จึงถูกจัดให้เป็นตลาดที่น่าหวาดเสียวที่สุดในโลก ซึ่งรถไฟนั้นจะวิ่งผ่านตลาดประมาณ 8 เที่ยวต่อวันในสมัยก่อนแต่ปัจจุบันได้มีการปรับและลดจำนวนเที่ยวลงเหลือประมาณ 4 เที่ยวต่อวัน โดยเวลาเฉลี่ยที่เราจะสามารถเดินทางไปและเจอกับช่วงที่ชาวบ้านหุบร่มนั้น จะมี 06.30น. 08.30น. 11.30น. 15.30 น. ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะมีบางช่วงเวลาที่มีทั้งขบวนขาเข้าและขาออกที่เวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ตลาดร่มหุบจึงมีความคึกคักอยู่ตลอดทั้งวัน เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมา เพราะต้องการที่จะมาเก็บบรรยากาศขณะที่รถไฟวิ่งผ่านตลาด

    ในปัจจุบันนั้น ร่มที่พ่อค้า – แม่ค้าใช้งานนั้นจะเป็นในลักษณะของผ้าใบที่นำมาขึงเพื่อกันแดด แต่จากสมัยก่อนนั้น จะเป็นร่มที่ใช้งานจริง ๆ ทั้งร่มกอล์ฟ ร่มสนาม และยังมีร่มพับชนิดต่าง ๆ ของนักท่องเที่ยวที่มีเดินซื้อของ แต่เมื่อรถไฟมา ทั้งนักท่องเที่ยวและพ่อค้า – แม่ค้าต่างก็ต้องรีบหุบร่มเพื่อให้รถไฟผ่านไปได้ ตลาดนี้จึงได้ถูกเรียกว่าตลาดร่มหุบจนมาถึงปัจจุบัน

    ของขึ้นชื่ออย่างมากสำหรับตลาดร่มหุบที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจได้แก่ ปลาทูแม่กลอง เป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมในการซื้อเพื่อรับประทานและการซื้อเพื่อเป็นของฝากอย่างมาก เนื่องจากปลาทูแม่กลองนั้นจะมีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างจากปลาทูทั่วไป โดยมีเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อคือ หน้างอ คอหัก และรสชาติของปลาทูแม่กลองจะมีความมันและเค็มปลาย ทำให้หลาย ๆ คนนั้นติดใจจนกลายเป็นของดังขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม

    นอกจากตลาดร่มหุบแล้ว จังหวัดสมุทรสงครามเองก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังอยู่มาก ที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงกับตลาดร่มหุบ เช่น วัดบางกุ้งที่รวบรวมรูปปั้นคนดังของไทยไว้ ตลาดน้ำอัมพวาที่เป็นตลาดน้ำโบราณโด่งดังเรื่องการนั่งเรือชมหิ่งห้อยกลางคืน และพิพิธภัณฑ์ขนมไทย ที่จัดตั้งเพื่ออนุรักษ์ความเป็นไทยไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาศิลปะการทำขนม เป็นต้น

    การเดินทางไปตลาดร่มหุบนั้น สามารถเดินทางได้ง่ายผ่านหลายช่องทาง เช่น การเดินทางโดยรถโดยสารส่วนตัว ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถนนพระราม 2 ไปจนถึงหลักกิโลเมตรที่ 63 ชิดซ้ายเพื่อใช้ทางคู่ขนานต่างระดับ ก่อนจะเข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม หรือหากจะเดินทางมากับขบวนรถไฟก็สามารถเลือกขบวนเป็นสถานีบ้านแหลม – แม่กลอง โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจะถึงสถานีแม่กลอง หรือรถประจำทางสาธารณะต่าง ๆ เช่น รถตู้กรุงเทพฯ – สมุทรสงคราม ก็สามารถใช้บริการได้เช่นเดียวกัน

    เรียกได้ว่าตลาดร่มหุบนั้นเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและมีความน่าสนใจอย่างมาก สำหรับใครที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ ก็ลองใช้เวลาว่างเดินทางไปเที่ยวตลาดร่มหุบกันดูได้นะคะ เพื่ออนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของเราสืบต่อยังรุ่นต่อ ๆ ไป

    ทำความรู้จักกับ “ร่มบ่อสร้าง” สินค้าพื้นเมืองของไทย ที่โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ

    ร่ม  เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกประเทศ และร่มนั้นยังเป็นสินค้าที่มีการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานหลายรูปแบบ ทั้ง ร่มพับ เพื่อการใช้งานสำหรับพกพาขณะเดินทาง ร่มสนาม สำหรับการใช้งานในที่แจ้งและใช้พื้นที่กว้าง...

    ร่ม  เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกประเทศ และร่มนั้นยังเป็นสินค้าที่มีการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานหลายรูปแบบ ทั้ง ร่มพับ เพื่อการใช้งานสำหรับพกพาขณะเดินทาง ร่มสนาม สำหรับการใช้งานในที่แจ้งและใช้พื้นที่กว้าง หรือแม้แต่ร่มกลับด้าน ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ง่ายกว่าขณะเดินทาง ซึ่งร่มแต่ละประเภทก็ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้งานในแต่ละรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน แต่ยังมีร่มอีกประเภทหนึ่ง ที่เป็นการออกแบบมาเพื่อแสดงเอกลักษณ์ของพื้นเมือง แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และความสวยงามด้านศิลปะและภูมิปัญญาท้องถิ่น นั่นก็คือ “ร่มบ่อสร้าง” หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อ หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นแต่อาจจไม่รู้จักชื่อ วันนี้เราจะรวบรวมข้อมูลของร่มบ่อสร้างที่น่าสนใจมาทุกคนได้ศึกษากันค่ะ

    ร่มบ่อสร้าง เป็นสินค้าพื้นเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นสินค้าที่สร้างชื่อเสียงที่โด่งดังอย่างมากให้กับชาวภาคเหนือและชาวอำเภอสันกำแพง โดยร่มบ่อสร้างนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ชาวบ้านในชุมชนบ้านบ่อสร้างนั่งทำร่มกันใต้ถุนบ้าน และลองวาดลวดลายต่าง ๆ ที่สวยงามลงไปบนร่มก่อนจะนำไปตากแดดเรียงรายกันไว้กลางลานบ้านเพื่อให้สีที่ระบายนั้นแห้ง จนไปสะดุดตานักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนที่เดินทางมาท่องเที่ยว และเริ่มโด่งดังจนกลายมาเป็นร่มบ่อสร้างในปัจจุบัน

    ร่มบ่อสร้างนั้น มักจะนิยมการวาดลวดลายเป็นรูปดอกไม้ โดยใช้วัสดุในการผลิต 3 ชนิดด้วยกันคือ ร่มบ่อสร้างที่ทำจากผ้าฝ้าย ร่มบ่อสร้างที่ทำจากกระดาษสา และ ร่มบ่อสร้างที่ทำจากผ้าแพร ซึ่งร่มแต่ละชนิจะมีขั้นตอนและวิธีการทำเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่เปลี่ยนวัสดุที่ใช้เพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยปัจจุบันก็ได้มีการสาธิตวิธีการทำร่มบ่อสร้าง โดยสามารถเดินทางไปรับชมได้ที่ศูนย์อุตสาหกรรมทำร่ม จ.เชียงใหม่

    สาเหตุที่การทำร่มบ่อสร้างนั้น ใช้ไม้เป็นก้านร่มและไม่มีการเปลี่ยนเป็นโครงเหล็กเช่นเดียวกับร่มสมัยใหม่นั้น เกิดจาก ในครั้งแรกของการผลิตร่มขึ้นที่บ้านบ่อสร้างนั้น เกิดจากการที่มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาปักกลดที่บ้านบ่อสร้าง แต่ได้เกิดลมแรงพัดจนกลดนั้นปลิวเสียหายใช้การไม่ได้ และได้มีชาวบ้านที่เล่าต่อกันมาว่าชื่อนายเผือกได้ทำการซ่อมกลดให้กับพระธุดงค์องค์นั้นโดยได้ทำการเพิ่มไม้ดามเข้าไปเพื่อให้พระธุดงค์องค์นั้นสามารถถือได้สะดวกมากกว่า จนกลายเป็นความคิดริเริ่มในการผลิตร่มครั้งแรกในสมัยนั้น จนกลายมาเป็นสินค้าพื้นเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ และชาวบ้านในพื้นที่เองก็ต้องการรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของร่มบ่อสร้างนี้ไว้จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงวัสดุที่ใช้ ถึงแม้ว่าการใช้เหล็กทำโครงร่มจะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าก็ตาม แต่ร่มบ่อสร้างก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบและสะดุดตาจนกลายเป็นสินค้า OTOP ประจำจังหวัดเชียงใหม่มาจนถึงปัจจุบัน โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคนที่ตั้งใจเดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาดูวิธีการทำร่มบ่อสร้าง และซื้อสินค้านี้กลับไปยังประเทศของตนเอง จนทำให้ร่มบ่อสร้างของไทยนั้น เป็นสินค้าที่โด่งดังและมีชื่อเสียงอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลก

    นอกจากนี้แล้ว ร่มบ่อสร้างนั้น ยังเป็นสินค้ามที่ช่วยในการดำรงชีพของกลุ่มชาวบ้านมากมายในบ้านบ่อสร้าง เป็นทั้งการส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น การสร้างรายได้ การรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทย และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งของได้อีกด้วย ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมสินค้าดี ๆ ของไทยจึงสามารถเอาชนะใจคนไทยและต่างประเทศได้จนผ่านมาหลายสิบปี ร่มบ่อสร้างก็ยังคงเป็นสินค้าที่มีการพูดถึงและถามหาจากชาวต่างชาติที่มาเยี่ยมชมประเทศไทยอยู่อย่างไม่ขาดสาย

    ร่มกลับด้านมีข้อดีและมีความแตกต่างจากร่มทั่วไปอย่างไร

    ร่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่คนส่วนใหญ่มักจะพกพาติดตัวไปยังสถานที่ต่าง ๆ อยู่เสมอเพื่อป้องกันแดด ป้องกันฝน...

    ร่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่คนส่วนใหญ่มักจะพกพาติดตัวไปยังสถานที่ต่าง ๆ อยู่เสมอเพื่อป้องกันแดด ป้องกันฝน ซึ่งผู้สูงอายุบางคนก็อาศัยความยาวของร่มใช้เป็นไม้เท้าคอยพยุงระหว่างการเดินทางด้วย ร่มจึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างมากที่ทุกบ้านมักจะพกติดบ้านและรถไว้ตลอด แต่ทราบไหมคะว่าร่มนั้น มีหลายชนิดและหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มใส หรือร่มกลับด้าน ซึ่งร่มแต่ละรูปแบบนั้นก็มีการออกแบบเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันตามสถานการณ์ แต่ร่มที่อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมมากนักหรืออาจจะไม่ค่อยเห็นคนใช้งานมากในประเทศไทยคือ “ร่มกลับด้าน”

    ร่มกลับด้านนั้น  จะมีลักษณะที่คล้ายกับร่มทั่วไปหากมองเพียงแค่ภายนอก แต่ความจริงแล้วร่มกลับด้านนั้นแตกต่างจากร่มทั่วไปตรงที่ ด้ามจับของร่มนั้นจะอยู่ในรูปแบบของปลายร่ม ส่วนปลายร่มที่บานออกจะอยู่ด้านบน ซึ่งหากมองเผิน ๆ อาจจะดูเหมือนร่มกำลังกลับด้านอยู่ ซึ่งตรงกันข้ามกับร่มทั่วไปที่ ปลายร่มหุบและส่วนด้ามจับจะบานออก ทำให้ร่มชนิดนี้ถูกเรียกว่า ร่มกลับด้านนั่นเอง

    ร่มกลับด้านนั้นเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อการใช้งานที่ง่ายมากกว่าเดิม ซึ่งการใช้งานร่มกลับด้านส่วนใหญ่นั้นจะใช้ไว้พกพาติดรถยนต์ เพราะร่มกลับด้านนั้น สามารถใช้งานได้ง่ายกว่าร่มทั่วไป แถมร่มกลับด้านยังถูกออกแบบมาเพื่อความคุ้มค่าในการใช้งาน เพราะนอกจากการกันฝนได้ดีแล้ว ยังสามารถกันแดดได้ดีอีกด้วย เพราะส่วนที่ถูกแดดจะถูกเก็บเข้าด้านในเมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้เมื่อหุบร่มก็ยังคงเห็นร่มที่มีสีสันสดใสและดูเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา

    ข้อดีของการใช้ร่มกลับด้าน

    ข้อดีของการใช้ร่มกลับด้านคือ ร่มกลับด้านสามารถช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้งานได้มากกว่า เพียงแค่ยื่นส่วนปลายร่มออกมานิดเดียวก็สามารถกางร่มได้แล้ว ไม่ต้องรอจนเปิดประตูกว้างเหมือนร่มอื่น ๆ ที่ต้องยื่นร่มออกมาทันคันจนถึงด้ามจับจึงจะสามารถกางได้ ซึ่งกว่าจะกางได้รถก็คงเปียกหมดแล้ว และที่สำคัญคือ เมื่อเราหุบร่ม ส่วนที่เปียกฝนจะถูกเก็บเข้าด้านใน ทำให้เราสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกลัวว่ารถเราจะเปียก

    เห็นข้อดีของร่มกลับด้านแล้ว อาจจะคิดว่าร่มกลับด้านต้องมีราคาที่สูงอย่างแน่นอนเลยใช่ไหมคะ จริง ๆ แล้วร่มกลับด้านนั้น ราคาแค่หลักร้อยเท่านั้นเองค่ะ โดยนอกจากจะสามารถใช้งานส่วนตัวแล้ว ร่มกลับด้านยังสามารถใช้เป็นของขวัญที่ทันสมัยมากอีกอย่างหนึ่งด้วยค่ะ หรืออาจจะใช้เพื่อเป็นของฝากหรือของชำร่วยในงานมงคลต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน รับประกันได้เลยว่าจะต้องเป็นของที่ถูกใจผู้รับหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน

    ในปัจจุบันหลาย ๆ คนอาจจะใช้งานร่มเพื่อการกันแดดกันฝนกันลมต่าง ๆ เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ร่มนั้นยังสามารถใช้งานด้านอื่น ๆ ได้อย่างหลากหลายมาก ทั้งการตกแต่งเพดานตามบ้าน หรือสถานที่ต่าง  ๆ การสร้างอาชีพจากร่มตามครัวเรือนหรือชุมชนในท้องถิ่นจากการนำศิลปะมาประยุกต์ใช้ หรือแม้แต่การโปรโมทธุรกิจ ซึ่งเราอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วสำหรับการสกรีนโลโก้ขององค์กรต่าง ๆ ลงบนร่มและนำไปใช้งาน ซึ่งการโปรโมทในรูปแบบนี้ เป็นการโปรโมทเชิงจิตวิทยารูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะการที่คนทั่วไป พบเจอ ได้ยิน มองเห็นแบรนด์ธุรกิจของเราอย่างสม่ำเสมอนั้น จะช่วยให้คนสามารถตัดสินใจใช้งานบริการของธุรกิจเราได้ดีมากกว่านั่นเอง

    การมอบร่มเป็นของขวัญในโอกาสต่าง ๆ มีความหมายว่าอะไร

    ช่วงเทศกาลที่ผ่านมานั้น เป็นเทศกาลแห่งการส่งมอบความสุข หรือเทศกาลปีใหม่ เทศกาลที่คนส่วนใหญ่มอบของขวัญต่าง ๆ ให้กันเพื่อเป็นการอวยพรการเริ่มต้นปีที่ดี ซึ่งร่มนั้นก็เป็นสิ่งของกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการเลือกใช้เป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ หลาย ๆ...

    ช่วงเทศกาลที่ผ่านมานั้น เป็นเทศกาลแห่งการส่งมอบความสุข หรือเทศกาลปีใหม่ เทศกาลที่คนส่วนใหญ่มอบของขวัญต่าง ๆ ให้กันเพื่อเป็นการอวยพรการเริ่มต้นปีที่ดี ซึ่งร่มนั้นก็เป็นสิ่งของกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการเลือกใช้เป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ หลาย ๆ คนอาจจะมีความกังวลใจว่า การมอบร่มให้เป็นของขวัญหรือของสมนาคุณในโอกาสต่าง ๆ นั้นจะมีความหมายในเชิงลบหรือไม่ จริง ๆ แล้วการมอบร่มให้เป็นของขวัญนั้นมีความหมายว่าอะไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ

    ร่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างมากสำหรับการพกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพราะนอกจากร่มจะช่วยกันแดดกันฝนให้กับเราในสถานการณ์ต่าง ๆ แล้ว ร่มยังเป็นสิ่งที่ควรพกติดรถไว้ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้ โดยปัจจุบันนั้นก็มีการผลิตและออกแบบร่มมามากมายหลายแบบ ทั้งร่มใส ร่มตอนเดียว หรือร่มพับ ซึ่งร่มพับอาจจะเป็นร่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งการพกพาและการมอบให้เป็นของขวัญ อาจจะด้วยรูปทรงที่เล็กกะทัดรัดและพกพาสะดวก

    ร่มเป็นอุปกรณ์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยในสมัยก่อนนั้นการใช้ร่มเพื่อเดินจับจ่ายซื้อของ ป้องกันแดดและฝน จะเป็นที่นิยมสำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น เนื่องจากในสมัยก่อน ร่มถือว่าเป็นสิ่งของที่มีราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้การพกร่มไปยังที่ต่าง ๆ ทำให้สามารถแบ่งแยกชนชั้นได้อย่างชัดเจน เพราะกลุ่มคนที่จะใช้ร่มส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มขุนนางหรือสนมเอกเท่านั้น สมัยก่อนนั้นการใช้ร่มจะเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเพราะในสมัยก่อนในการเดินทางกลางคืนสำหรับผู้หญิงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างมาก ผู้หญิงจึงมักใช้ร่มเพื่อบดบังใบหน้า ป้องกันไม่ให้มีคนเห็นได้อีกด้วย

    การมอบร่มให้เป็นของขวัญหรือของชำร่วยในโอกาสต่าง ๆ นั้น เป็นการมอบให้โดยมีความหมายเชิงบวก คำว่าร่ม สามารถสื่อความหมายได้ถึงความสงบ ร่มเย็น ความสบายใจ หากเป็นคนที่อายุมากกว่ามอบของขวัญให้กับคนที่อายุน้อยกว่านั้น ร่มก็จะสื่อถึงการอวยพร ให้ชีวิตพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุข มีแต่ความสบายใจ ไม่ทุกข์ร้อน เป็นการแสดงออกถึงความรักอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะร่มสามารถสื่อได้ถึงการปกป้องดูแลคนรักจากอันตรายต่าง ๆ หรือป้องกันสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามาในชีวิต แต่หากเป็นคนที่อายุน้อยกว่ามอบร่มให้เป็นของขวัญให้กับผู้สูงอายุนั้น เป็นการแสดงออกถึงการเคารพและให้เกียรติ ยกย่องและเชิดชูให้เปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรของทุกคนในบ้าน ทำให้ร่มกลายเป็นของขวัญที่คนส่วนใหญ่ให้ความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นของขวัญที่มอบความสุขใจให้ได้ทั้งผู้ให้และผู้รับ

    เรียกได้ว่าร่มนั้น สื่อความหมายถึงความร่มเย็นเป็นสุข และเต็มไปด้วยความปรารถนาดี ความห่วยใย นอกจากนี้ในการทำธุรกิจการมอบร่มให้เป็นของสมนาคุณต่าง ๆ ก็ยังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะการมอบร่มเป็นของขวัญในเชิงธุรกิจยังสามารถแสดงออกได้ถึงความใส่ใจ ความมีน้ำใจต่อกัน และการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีต่อกันได้อีกด้วย

    เท่านี้ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วนะคะ สำหรับการเลือกร่มเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เพราะนอกจากจะสื่อความหมายที่ดีแล้ว ร่มก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย และการมอบของขวัญในโอกาสพิเศษนั้นก็ยังทำให้ผู้รับนั้นมีความระลึกถึงเราทุกครั้งที่มีการใช้งานของขวัญที่เราให้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีงามสืบต่อไป

     

    ทำความรู้จักกับประเภทของร่มแต่ละประเภท

    เข้าหน้าฝนทีไรเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงนึกถึงอุปกรณ์เล็ก ๆ พกพาง่ายอย่าง “ร่ม”...

    เข้าหน้าฝนทีไรเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงนึกถึงอุปกรณ์เล็ก ๆ พกพาง่ายอย่าง “ร่ม” ตัวช่วยชั้นดีในการป้องกันเราจากสายฝนที่ตกกระหน่ำเมืองไทยในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ร่มเป็นผู้ช่วยในการปกป้องร่างกาย เสื้อผ้า และทรัพย์สินสำคัญต่างๆ จากฝนได้เป็นอย่างดี แต่คุณรู้ไหมคะว่านอกจากร่มที่เราใช้กันทั่วๆ ไปแล้ว ยังมีร่มอีกหลายชนิด หลากหลายการใช้งาน บทความของเราวันนี้จึงขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับร่มประเภทต่าง ๆ กันให้ดีกว่าเดิม

    ร่มเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพราะมีประโยชน์หลากหลายด้าน ทั้งการช่วยป้องกันแสงแดดและฝน อันจะเป็นตัวการทำลายทั้งสุขภาพร่างกายและทรัพย์สินของเรา แต่การเลือกใช้ร่มให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้นก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะของการใช้งานและประเภทของร่มด้วย ซึ่งร่มทั่วไปนั้นเราจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ก็คือ ร่มขนาดเล็กและร่มขนาดใหญ่จะมีร่มประเภทไหนบ้างนั้นไปดูกัน

    ร่มพับ

    1.ร่มขนาดเล็ก

    ร่มขนาดเล็กหรือร่มสำหรับพกพา เป็นร่มที่เราสามารถพับเก็บให้มีขนาดเล็กลง กระทัดรัด สามารถถือได้ด้วยมือหรือพกใส่กระเป๋าติดตัวไปไหนมาไหนด้วยได้ง่าย ๆ หรือร่มแบบยาวที่ไม่สามารถพับได้ก็ยังถือว่าเป็นร่มขนาดเล็กเช่นเดียวกัน จุดเด่นของร่มขนาดเล็กนั่นก็คือ มีขนาดเล็กกระทัดรัดพกพาได้สะดวก น้ำหนักเบา มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน เช่น ร่มพับ ร่มญี่ปุ่น ร่มแฟชั่น ร่มพับรุ่นน้ำหนักเบา ร่มพับมินิ ร่มแบบยาว ร่มตอนเดียว ร่มกอล์ฟ ร่มยูวี ร่มใส ร่มกลับด้าน ร่ม 16 ก้าน ร่ม LED ร่มพัดลม เป็นต้น

    ร่มสนาม

    2.ร่มขนาดใหญ่

    สำหรับร่มประเภทนี้เราอาจจะไม่ได้นำมาใช้งานในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไปเหมือนกับร่มขนาดเล็ก เพราะร่มใหญ่นั้นเป็นร่มที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ไม่สามารถพกพาหรือนำติดตัวไปไหนมาไหนด้วยได้ จะพกพาไปไหนจำเป็นจะต้องมีรถยนต์เพื่อขนย้าย ไปตามสถานที่ต่าง ๆ จะเหมาะกับผู้ที่ใช้งานในลักษณะตั้งเพิงขายของ การออกบูท งานอีเวนท์หรืองานกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ร่มแม่ค้า ร่มชายหาด ร่มสนาม ร่มยักษ์ ร่มรีสอร์ท ร่มโรงแรม ร่มสระว่ายน้ำ เป็นต้น

    นอกจากการแบ่งร่มตามขนาดและการใช้งานแล้ว ร่มยังมีทั้งแบบธรรมดาที่เราสามารถใช้งานได้ทั่ว ๆ ไป หรือร่มยูวีซึ่งจะมีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันและสะท้อนรังสียูวีโดยเฉพาะ นอกจากนี้แล้วยังมีการแบ่งประเภทร่มตามเนื้อสีของร่มอีกด้วยตัวอย่างเช่น ร่มสีทึบและร่มใส อีกด้วย การเลือกใช้งานร่มควรเลือกใช้งานให้ถูกลักษณะ ตามความเหมาะสมกับสภาพอากาศหรือสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ของท่าน รวมไปถึงความจำเป็นในด้านต่าง ๆ ทำให้เราสามารถใช้งานร่มได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด และยังจะเป็นการดึงเอาประโยชน์ของร่มออกมาใช้งานอย่างเต็มที่ได้ดีอีกด้วย แต่หากเราใช้งานร่มผิดประเภทแล้วล่ะก็ เช่น การนำเอาร่มยักษ์มาใช้งานในสนามกอล์ฟ โดยถือติดตามผู้เล่น ก็จะเป็นการเปลืองแรงของผู้ถือร่ม ไม่สะดวกในการใช้งานในสนามเพราะต้องมีการเคลื่อนย้ายที่ตลอดเวลา หรือการนำเอาร่มใสมากันแดดย่อมไม่มีทางกันแสงแดดได้อย่างแน่นอน เป็นต้น ดังนั้นแล้วทุกท่านอย่าลืมเลือกใช้งานร่มให้ถูกประเภทและถูกต้องเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนะคะ ไม่ว่าจะเป็นร่มประเภทไหน ร่มขนาดเล็ก ร่มขนาดใหญ่ ต่างล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ในการปกป้องเราทั้งนั้น แม้แต่สิ่งมีชีวิตตัวน้อย ๆ ที่อาศัยร่มเงาจากต้นไม้เพื่อหลบแสงแดดในแต่ละวัน

     

    ร่มสามารถออกแบบและตกแต่งได้จริงหรือไม่

    ร่ม คืออุปกรณ์ที่สามารถใช้เพื่อกันฝน กันแดด และกันลม...

    ร่ม คืออุปกรณ์ที่สามารถใช้เพื่อกันฝน กันแดด และกันลม ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นของใครหลายคนที่มักจะพกติดตัวไว้อยู่เสมอ โดยปกติแล้วร่มจะสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั่ว ๆ  ไป แต่ร่มที่มีอยู่ตามท้องตลาดนั้นมักจะมีรูปแบบ สีสัน หรือลวดลายที่คล้ายคลึงกันไปเสียหมด แต่เชื่อหรือไม่ว่าร่มในทุกวันนี้มีการพัมนาที่ก้าวไกลจากสมัยก่อนที่ให้คุณสามารถออกแบบและตกแต่งได้จริง

    การออกแบบและตกแต่งร่มคือการปรับเปลี่ยนรูปแบบของร่มจากเดิมนั้นให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น ซึ่งภายในร่มคันหนึ่งนั้นเราจะสามารถออกแบบและปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ เริ่มต้นกันที่ผืนของผ้าร่มที่ถือว่าเป็นส่วนที่มีพื้นที่มากที่สุดในอุปกรณ์ร่มเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อเราทำการกางร่มออกมานั้นจะทำให้เราเห็นสีสันได้อย่างชัดเจน สำหรับท่านที่อยากจะออกแบบสีให้ตรงกับความต้องการนั้นสามารถทำได้อย่างหลากหลาย เช่น สีเดียวกันทั้งผืน ไม่ว่าจะเป็น สีแดง สีขาว สีดำ สีเขียว สีส้ม สีชมพู สีเหลือง หรือสีฟ้า สามารถทำได้ทั้งสิ้น หากใครอยากจะได้ความโดดเด่นขึ้นมาสักเล็กน้อยแนะนำให้เลือกออกแบบสีแบบสลับกันระหว่างช่อง จะช่วยสร้างความแตกต่างและน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนั้นแล้วคุณยังสามารถเพิ่มลวดลายให้กับร่มได้ทำให้ร่มดูสวยงาม แตกต่าง และมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นได้ โดยผู้คนนิยมออกแบบลวดลายให้ร่มดูสวยงามมากยิ่งขึ้นเมื่อกางออก เช่น ลายแตงโม ลายมะนาว ลายกีวี่ ลายดอกไม้ ลายเส้น ลายอวกาศ ลายท้องฟ้า ลายการ์ตูน และลายธงชาติต่าง ๆ เมื่อได้สีสันหรือลวดลายที่คุณพอใจแล้ว คุณยังสามารถเพิ่มข้อความ โลโก้หรือตราสัญลักษณ์ของบริษัทให้กับร่มได้อีกด้วย เหมาะสำหรับองค์กรหรือสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องการเพิ่มโลโก้เพื่อเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปด้วยในตัว โดยคุณสามารถนำโลโก้ที่มีอยู่หรือให้ทางนักออกแบบทำการออกแบบให้ชัดเจนยิ่งขึ้นได้ หลังจากออกแบบและตกแต่งเพื่อความสวยงามเป็นที่เรียบแล้ว ยังสามารถออกแบบขนาดของร่มได้เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานหรือวัตถุประสงค์มากขึ้น เช่น ร่มพับเหมาะสำหรับใช้เป็นของชำร่วยหรือพกพาสะดวก ร่มตอนเดียว เหมาะสำหรับใช้ในการเดินทางในยามที่สภาพอากาศเต็มไปด้วยฝนตกหนัก ร่มกอล์ฟ เหมาะสำหรับการป้องกันแสงแดดที่มีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการปกปิดหลายคน ร่ม LED ใช้สำหรับเดินทางในเวลากลางคืน ร่มพัดลม เหมาะสมสำหรับอุณหภูมิในบ้านเราที่มีอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว ร่มใส สำหรับใช้ในยามฝนตก ตกแต่งสถานที่ ถ่ายละคร ร่ม 16 ก้าน ร่มสายรุ้ง ที่มาพร้อมสีสันสดใส ใช้ตกแต่งสถานที่ให้โดดเด่นขึ้นมาในพริบตาเดียว ร่มสนาม ใช้สำหรับป้องกันแสงแดดกลางแจ้ง ตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ จัดงานปาร์ตี้สังสรรค์ สำหรับโรงแรม รีสอร์ท สนามกีฬา สระว่ายน้ำ และนอกจากนั้นร่มยังสามารถปรับเปลี่ยนด้ามจับหรือชนิดโครงร่มเพื่อให้มีความคงทนเหมาะสมกับการใช้งานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

    ปัจจุบันร่มนั้นไม่ได้เป็นเพียงของใช้คู่ตัวของแต่ละคนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะด้วยการออกแบบที่หลากหลายมากขึ้น มีความสวยงาม ทันสมัย สามารถเพิ่มข้อความหรือสกรีนรูปภาพต่าง ๆ เพิ่มลงไป ช่วยทำให้ร่มสามารถนำมาใช้ในโอกาสพิเศษอื่น ๆ เช่น นำร่มมาใช้ภายในองค์กร เป็นของชำร่วย ของที่ระลึก ของสมนาคุณ หรือเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบของร่มให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้นนั้น ลองเลือกใช้บริการจากบริษัทออกแบบและผลิตร่มที่ที่มีโรงงานผลิตร่มในตัวจะช่วยสร้างสรรค์ผลงานร่มให้ตรงกับที่คุณลูกค้าทุกคนต้องการได้อย่างแน่นอนและโรงงานผู้ผลิตร่มนั้นยังมีบริการจัดส่งสินค้าให้คุณถึงที่บ้านอีกด้วย