เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ร่มพกพาตอนเดียว VS ร่มพับหลายตอน ควรเลือกใช้ดีไซน์แบบไหนทำร่มพรีเมี่ยม ?

หากจะแบ่งประเภทสินค้าอย่างร่ม ซึ่งทุกคนคุ้นเคยกันดีกับประโยชน์ใช้งานสำหรับกางกันแดดกันฝนนั้นอย่างร่มพับ ก็แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้ว เรามักจะแบ่งกันออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือร่มตอนเดียว ที่มีรูปแบบการพับเก็บ และกางใช้งานเป็นแบบตอนเดียวตามชื่อเรียก กล่าวคือกดปุ่มที่ด้ามจับ หรือดันโครงร่มขึ้นเพื่อกางใช้งาน และดึงโครงลงมาเพื่อพับเก็บขณะที่ไม่ใช้งาน กับอีกประเภทคือ ร่มพับหลายตอน ที่การพับเก็บโครง และก้านจับขณะไม่ได้ใช้งานจะเป็นการพับเก็บตั้งแต่ 2 ตอนขึ้นไป ทำให้มีขนาด(ขณะพับเก็บ)ที่กะทัดรัด พกพาสะดวกกว่าแบบตอนเดียว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีแบบร่มพับ 2 ตอน และ 3 ตอน โดยแบบ 3 ตอนจะมีขนาดหลังการพับเก็บที่เล็กกะทัดรัดกว่าแบบ 2 ตอน ทั้งนี้ความแตกต่างกันเรื่องของขนาดดังกล่าวถือเป็นข้อดีข้อเสียที่ผู้บริโภค ผู้ใช้งานหลายคนทราบกันดีอยู่แล้ว หรือสรุปง่ายๆ ได้ว่าแบบหลายตอนนั้นมีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวกกว่านั่นเอง อย่างไรก็ตามหากมองในมุมของการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการผลิตเป็นร่มพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดของแบรนด์ ห้างร้านต่าง ๆ ต้องบอกว่าร่มทั้งสองแบบยังมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันอยู่อีกหลายประการด้วยกัน ในบทความนี้จึงได้เลือกสรุปมาเปรียบเทียบให้ได้ทราบกันว่าทั้งแบบตอนเดียว และแบบพับหลายตอนนั้นมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้แบบไหนทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมมากกว่ากัน
ร่มตอนเดียวมีความแข็งแรงทนทานกว่า ข้อแตกต่างอย่างแรกที่ถือว่าเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบรนด์ ห้างร้านต่าง ๆ นิยมใช้ดีไซน์ร่มตอนเดียวทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมมากกว่าแบบพับหลายตอนก็คือเรื่องของความแข็งแรงทนทาน โดยดีไซน์แบบตอนเดียวนั้นจะทำให้ได้โครง ก้านอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงกว่า ขณะที่แบบพับหลายตอนนั้นจำเป็นต้องทำให้ส่วนโครงพับเก็บได้หลายทบ ทำให้ได้ก้านที่มีรอยต่อเยอะกว่า มีความยืดหยุ่นกว่า ความแข็งแรงมั่นคงจึงลดน้อยลงไปด้วยนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการกางใช้งานขณะที่ฝนรมแรง ดีไซน์แบบพับหลายตอนนั้นเสี่ยงที่จะต้านแรงลมไม่ไหว และก้านโครงหัก ชำรุดจนใช้งานต่อไม่ได้ ดังนั้นในการทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่มีความสัมพันธ์กับการรักษาภาพลักษณ์เรื่องของคุณภาพ แบรนด์ ห้างร้านต่าง ๆ จึงนิยมเลือกใช้ดีไซน์แบบตอนเดียวมากกว่า
ต้นทุนการสั่งผลิต อีกหนึ่งข้อเปรียบเทียบที่ถือว่าเป็นข้อดีของดีไซน์ร่มตอนเดียวก็คือ ต้นทุนการสั่งผลิตนั่นเอง ทั้งนี้ดังที่กล่าวข้างต้นว่าดีไซน์แบบพับหลายตอนนั้นจำเป็นต้องทำให้ส่วนก้านโครงสามารถพับเก็บได้ ซึ่งนั่นก็ย่อมตามมาด้วยขั้นตอนการผลิตที่มีความยากกว่า ละเอียดกว่า ต้นทุนการสั่งผลิตร่มพับ 2 ตอน และร่มพับ 3 ตอน โดยทั่วไปจึงสูงกว่าแบบตอนเดียว แบรนด์ ห้างร้านต่าง ๆ จึงนิยมเลือกใช้ดีไซน์แบบตอนเดียวทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมมากกว่า แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ต้นทุนสุทธิในการสั่งผลิตร่มสักคันก็ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ทั้งขนาด ชนิด เกรดของวัสดุที่เลือกใช้ เป็นต้น
ดีไซน์แบบตอนเดียวเอื้อต่อการโปรโมทแบรนด์ แคมเปญต่าง ๆ มากกว่า อีกหนึ่งข้อเปรียบเทียบที่น่าจะเป็นเหตุผลสนับสนุนให้นักการตลาด แบรนด์ ห้างร้านต่าง ๆ ตัดสินใจเลือกใช้ดีไซน์ร่มแบบตอนเดียวทำเป็นร่มพรีเมี่ยมเช่นกันก็คือ ประสิทธิภาพในการโปรโมทผ่านข้อความ สัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่พิมพ์ลงไปนั่นเอง เพราะดีไซน์พื้นฐานของร่มแบบตอนเดียวในส่วนใบร่มจะมีความโค้งลงมากกว่าร่มพับ 2 และร่มพับ 3 ตอน เมื่อพิมพ์โลโก้ หรือข้อความใด ๆ ลงไปจึงดูโดดเด่น สังเกตเห็นได้ง่ายกว่า เช่นเดียวกับขณะพับเก็บร่มเมื่อไม่ใช้งาน ซึ่งดีไซน์แบบพับหลายตอนนั้นแทบจะสังเกตเห็นข้อความ หรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่พิมพ์ลงบนผ้าร่มไม่ได้ ขณะที่แบบตอนเดียวนั้นยังสามารถสังเกตเห็นโลโก้ หรือความใด ๆ ในบางตำแหน่งได้