CALL CENTER
    02-408-1377 (อัตโนมัติ 10 คู่สาย)

    blog

    การบำรุงรักษา ร่ม หลังใช้งานหนัก

    ถึงแม้ว่าอุปกรณ์พกพาอย่างร่มจะหาซื้อได้ง่ายซึ่งมีวางขายโดยทั่วไปมีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว แต่จะเป็นการดีกว่าไหมถ้าหากว่าเราได้ค้นพบร่มที่ถูกใจในการใช้งานมีความคุ้นชิน และ ให้การดูแลรักษา เพื่อให้คงทนใช้งาน เป็นเพื่อนคู่ใจไปด้วยกันได้อีกนาน...

    ถึงแม้ว่าอุปกรณ์พกพาอย่างร่มจะหาซื้อได้ง่ายซึ่งมีวางขายโดยทั่วไปมีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว แต่จะเป็นการดีกว่าไหมถ้าหากว่าเราได้ค้นพบร่มที่ถูกใจในการใช้งานมีความคุ้นชิน และ ให้การดูแลรักษา เพื่อให้คงทนใช้งาน เป็นเพื่อนคู่ใจไปด้วยกันได้อีกนาน ๆ
    ซึ่งถึงแม้ว่าร่มจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการเผชิญกับมลภาวะแวดล้อม รวมถึงสภาพอากาศที่ รุนแรงได้ ไม่ว่าในวันที่มีแสงแดดแผดจ้าหรือในวันที่มีพายุฝนโหมกระหน่ำ แต่ร่ม ก็ยังจำเป็นจะต้อง ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีอยู่เสมอ

    ทั้งนี้เรามักจะเคยชินกับรูปแบบการดูแลแบบง่าย ๆ โดยที่บางครั้งอาจมีการใช้งานที่ค่อนข้างสมบุกสมบัน ดังนั้นรูปแบบของการดูแลรักษาก็จะต้อง กระทำเพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกับลักษณะของการใช้งานนั่นเอง

     

    โดยปกติแล้วเวลาใช้ร่มเรามักจะมีการบำรุงรักษาด้วยวิธีพื้นฐานทั่วไป เช่นการหาที่ผึ่งระบายอากาศและกางเอาไว้ แต่สำหรับในบริบทที่จะต้องเผชิญกับงานหนัก มีการใช้ร่มฝ่าลมฝนเป็นระยะเวลายาวนาน หรือมีการใช้งานแบบติดกันซ้ำ ๆ บ่อยครั้งในช่วงฤดูฝน หรือมีการนำไปเผชิญกับคราบสกปรกน้ำโคลน หรือนำไปใช้ในแคมป์งานที่ต้องเผชิญกับสารเคมีหลายชนิด
    กรณีเหล่านี้จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการบำรุงรักษาเป็นพิเศษหลังการใช้งานหนัก

    ก่อนอื่นให้มองหาพื้นที่สำหรับการวางร่มที่เหมาะสมซึ่งจะต้องมี ความกว้างเพียงพอที่จะวางผึ่งไว้ได้อีกทั้งยังควรเป็นพื้นที่ ที่มีการไหลเวียนของอากาศ ได้ดี และเป็นจุดวางที่ไม่สร้างอุบัติเหตุให้กับผู้คนภายในสถานที่

    จากนั้นก็ให้เตรียมอุปกรณ์ได้เลย ซึ่งประกอบไปด้วย ผ้าแห้ง แปรงสีฟันเก่า และน้ำยาครีมหรือสารสำหรับถนอมรักษาโลหะ อย่างเช่น น้ำมันอเนกประสงค์ทั่วไป โดยเมื่อผึ่งร่มได้แห้งดีแล้ว
    ให้ใช้ผ้าแห้ง เช็ดร่มเบา ๆ เช็ดทั่วโครงสร้างทั้ง กิ่งก้านของร่มรวมถึงคันล่ม และซอกมุมต่าง ๆ ที่เป็นโลหะ ให้แห้งสะอาดเรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงใช้น้ำมันอเนกประสงค์สำหรับถนอมโลหะ เข้าชโลมหรือฉีดพ่น ให้ทั่วถึงในซอกมุมต่าง ๆ

    หากมีจุดใดที่เกิดคราบ ใช้แปรงสีฟันเก่าขัดเบา ๆ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดออก โดยไม่ต้องล้างด้วยน้ำเปล่า

     

    อย่าลืม ทำขั้นตอนนี้กับส่วนโลหะที่เป็นส่วนย่อยอาทิเช่นกระดุมสำหรับที่รัดร่มด้วย โดยหากมีวัสดุที่เป็นเนื้อไม้ก็ให้ใช้ น้ำยาสำหรับการถนอมเนื้อไม้โดยเฉพาะ เมื่อเสร็จเรียบร้อยให้ทำการตรวจสอบผ้าใบของร่มว่าอยู่ในสภาพที่ยังคงทนสมบูรณ์ดีหรือไม่ และมีร่องรอยการฉีกขาด หรือร่องรอยการเปื่อยยุ่ยหรือไม่

    หากมีให้ทำการซ่อมตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่ร่องรอยเหล่านั้นจะลุกลาม โดยการซ่อมทำได้ทั้งการเย็บ หรือการปิดเทป
    อีกทั้งยังควรสังเกตลักษณะของร่ม ว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ โดยสภาพที่ดีนั้นหมายถึงไม่ควรจะมีการบิดงอโก่งหรือสึกกร่อนด้วยคราบสนิม

    เมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว ให้ลองทำการ เก็บร่มสลับกางออก สัก 2-3 ครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าการทำงานของกลไกลมีการขับเคลื่อนที่เรียบรื่นดีหรือไม่ หากพบจุดติดขัดให้ทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
    เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ นั่นอาจกระทบในวันข้างหน้าหากคุณเผชิญกับสถานการณ์จำเป็นต้องใช้งานอย่างเร่งด่วน ก็อาจจะมีการชำรุดเกิดขึ้นกะทันหันได้ หรือแม้แต่การกางไม่ออกหรือพับเก็บไม่ได้

     

    โดยการบำรุงรักษาและตรวจสอบ นั้นควรกระทำทุกเมื่อที่มีการใช้งานหนัก
    เพราะการชำรุดเสียหายของร่ม มักจะเกิดขึ้นจากสาเหตุ ที่ผู้ใช้นั้นเมื่อเผชิญกับสภาพดินฟ้าอากาศที่รุนแรงก็มักจะสนใจในประเด็นอื่น ๆ ก่อน แล้วละเลยลืมการบำรุงรักษาร่มไป
    ซึ่งแน่นอนว่าการสนใจในประเด็นอื่น ๆ ก่อนนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกันในหลายประเด็น ไม่ว่าการชำระล้างร่างกายรีบเข้าไปอาบน้ำหรือรีบดูแลทรัพย์สินอื่น ๆ รวมถึงดูแลบุคคลรอบข้าง
    แต่ขอเพียงแค่เมื่อคุณเสร็จสิ้นจากภาระหน้าที่เหล่านั้น ก็อย่าลืมเหลียวมองดู ร่มที่ช่วย ลดผลกระทบต่าง ๆ เป็นของคู่ใจที่ลุยด้วยกันมา ดูแลร่มที่แสนรักอย่างดีในลำดับต่อไป ทั้งนี้ก็ควรมีที่เก็บร่ม เพื่อการเก็บรักษาที่ดียิ่งกว่าเดิม

     

     

     

    5 ความลับเกี่ยวกับร่มกันยูวี ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน

    อย่างที่ทราบกันดีว่าด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดแทบตลอดทั้งปีในบ้านเรานั้น ทำให้ไอเทมตัวช่วยป้องกันความร้อน และอันตรายจากรังสียูวีอย่าง"ร่มกันยูวี" นั้นเป็นไอเทมที่มีค่อนข้างมีความสำคัญกับวิถีชีวิตประจำวันใครหลายคนไปด้วย...

    อย่างที่ทราบกันดีว่าด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดแทบตลอดทั้งปีในบ้านเรานั้น ทำให้ไอเทมตัวช่วยป้องกันความร้อน และอันตรายจากรังสียูวีอย่าง”ร่มกันยูวี” นั้นเป็นไอเทมที่มีค่อนข้างมีความสำคัญกับวิถีชีวิตประจำวันใครหลายคนไปด้วย เพราะการพกพาไอเทมชิ้นนี้ติดตัวไว้และกางใช้งานขณะอยู่กลางแจ้งนั้น จะช่วยลดทอนระดับความร้อนจากแสงแดดที่ส่งมาถึงตัวเราไปได้พอสมควร และยังจะช่วยลดอันตรายจากรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับแสงแดดได้ด้วย การพกพาร่มกันยูวีติดตัวจึงนับเป็นหนึ่งในเทรนด์ไลฟ์สไตล์ดูแลสุขภาพที่สำคัญเทรนด์นึงในบ้านเราไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งนึงที่หลายคนไม่ทราบมาก่อนก็คือ ร่มกันยูวีที่มีวางขายอยู่ทั่วไปในบ้านเราแต่ละคันไม่ได้มีคุณสมบัติที่เหมือนกันซะทีเดียว แม้ว่าจะมีการเขียนคำอธิบายในฉลากว่าเป็นร่มป้องกันรังสียูวีเหมือนกันก็ตาม ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอา 5 ความลับเกี่ยวกับร่มกันยูวีที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน และผู้ขายก็ไม่เคยบอกเราบอกเปิดเผยให้ได้ทราบกัน

    ร่มทุกคันสามารถป้องกันรังสียูวีได้อยู่แล้ว ข้อเท็จจริงประการแรกที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนก็คือร่มที่มีวางขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาดนั้นสามารถป้องกันรังสียูวีได้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ร่มกอล์ฟ ร่มพับ โดยไม่จำเป็นต้องระบุว่าเป็นร่มกันยูวี หรือก็คือไม่จำเป็นต้องผ่านการเคลือบสารป้องกันยูวี ผ้า หรือใบร่มนั้น ๆ ก็สามารถป้องกันยูวีได้ เพียงแต่ประสิทธิภาพจะแตกต่างกันออกไปนั่นเอง โดยมีงานวิจัยที่ทำการทดสอบความสามารถในการป้องกันยูวีของผ้าที่ยังไม่ผ่านการเคลือบสารกันยูวี และผ้าที่ผ่านการเคลือบสารแล้ว พบว่า อย่างแรกสามารถป้องกันยูวีได้กว่า 90% ขึ้นไป ขณะที่อย่างหลังสามารถป้องกันยูวีได้กว่า 95% ขึ้นไป

    ใบร่มแต่ละสีป้องกันยูวีได้มากน้อยไม่เท่ากัน ปัจจัยต่อมาที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันยูวีก็คือ สีของใบร่มนั่นเอง ทั้งนี้แต่ละสีให้ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ได้มากน้อยไม่เท่ากัน โดยการวิจัยทดสอบความสามารถในการป้องกันยูวีของสีชนิดต่าง ๆ พบว่าผ้าสีดำ หรือใบร่มสีดำเป็นสีที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ดีที่สุด รองลงมาก็เป็นสีโทนเข้มอื่น ๆ เช่น แดง น้ำเงิน เป็นต้น ขณะที่โทนสีอ่อน เช่น เขียว เหลือง ชมพู จะให้ความสามารถในการป้องกันยูวีได้น้อยลงมาอีก

    ร่มที่ผ่านการเคลือบสารแล้ว ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันยูวีเท่ากันทุกคัน แม้ว่าการเคลือบสารป้องกันยูวีบนใบร่มจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ซึ่งสามารถทดสอบและพิสูจน์ได้ชัดเจน แต่ความลับนึงที่หลายคนไม่ทราบมาก่อนก็คือร่มที่ผ่านการเคลือบสารแต่ละคันนั้นไม่ได้ให้ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีได้เท่ากันทุกคัน โดยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนั้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพในระหว่างขั้นตอนการเคลือบสารด้วย เช่น ระดับความเข้มข้น ความสม่ำเสมอในการกระจายตัวของสาร ความเหนียวแน่นในการยึดเกาะกับตัวผ้า เป็นต้น

    ใบร่มหนา ๆ สามารถป้องกันยูวีได้ดีกว่า แต่ก็สะสมความร้อนไว้กับตัวมากกว่า ความลับต่อมาที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนเช่นกันก็คือ ขนาดความหนาของใบร่ม ซึ่งแน่นอนว่าขนาดที่หนาย่อมป้องกันรังสียูวีได้ดีกว่าใบร่มบาง ๆ หรือก็คือรังสียูวีมีโอกาสเล็ดลอดผ่านได้น้อยกว่านั่นเอง แต่ขณะเดียวกันปัญหาที่ตามมาก็คือ การสะสมความร้อนไว้กับตัวมีมากกว่าตามไปด้วย การใช้ร่มที่ใบร่มหนา ๆ จึงมักจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกร้อนมากกว่าด้วย

    การเคลือบสารไม่จำเป็นต้องเคลือบด้านในของใบร่ม อีกหนึ่งความลับที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ สารเคลือบป้องกันยูวีสีเงินที่เรามักจะเห็นด้านในของใบร่ม หรือก็คือด้านที่ไม่ได้สัมผัสแสงแดดโดยตรงนั้น ความเป็นจริงมันไม่ได้จำเป็นต้องจะต้องเคลือบที่ด้านในเท่านั้น มันสามารถเคลือบด้านนอก หรือด้านที่สัมผัสแสงแดดโดยตรงได้ด้วย แต่สาเหตุที่ผู้ผลิตร่มส่วนใหญ่เลือกที่จะเคลือบไว้ที่ด้านในก็เพราะเหตุผลเรื่องความสวยงามของตัวสินค้านั่นเอง เพราะด้านนอกมักจะเป็นส่วนที่โชว์สีสัน และพิมพ์ลวดลายต่าง ๆ ลงไป เนื่องจากหลาย ๆ บ้านก็มีร่มทั้งนี้ควรใช้ที่เก็บร่มในการเก็บรักษาร่มเพื่อป้องกันร่มเสียหายจากการวางไม่เป็นที่เป็นทาง

    วิธีตรวจสอบร่ม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาร่มพัง หัก งอ

    ร่มมีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว เป็นต้น เป็นสิ่งที่หลาย ๆ บ้านมี แต่หลาย ๆ คนก็คงพบเจอปัญหาร่มหักงอ ปัญหาร่มหักงอ ถือเป็นประเด็นที่น่าปวดหัวซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้งานร่มไปสักพักหนึ่งแล้ว โดยถึงแม้ว่ามันจะฟังดูเป็นเรื่องธรรมดาที่...

    ร่มมีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว เป็นต้น เป็นสิ่งที่หลาย ๆ บ้านมี แต่หลาย ๆ คนก็คงพบเจอปัญหาร่มหักงอ ปัญหาร่มหักงอ ถือเป็นประเด็นที่น่าปวดหัวซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้งานร่มไปสักพักหนึ่งแล้ว โดยถึงแม้ว่ามันจะฟังดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะต้องเสียเวลาไปหาซื้อร่มใหม่มาใช้แทนเป็นแน่ ทั้งนี้หากอยากจะรักษาร่มให้อยู่กับเราไปนาน ๆ มันก็ต้องเริ่มกันตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพก่อนซื้อใช้ตั้งแต่แรก เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดโดยไม่ต้องมานั่งซ่อมบ่อย ๆ กันทีหลัง

     

    ร่มพังมักมีสาเหตุเกิดจากอะไร ?

    ร่มพังมักจะมีสาเหตุมาจากการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะต้องการลดต้นทุนทางการผลิต จึงทำให้เมื่อใช้งานไปสักพักความแข็งแรงของวัสดุก็จะถึงจุดต่ำลง นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของคุณภาพงานประกอบ ซึ่งมีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง  นั่นจึงทำให้เมื่อมีการกระแทกหรือโดนลมพัดแรง ๆ ร่มก็จะเสียหาย ทำให้เจ้าของต้องซ่อมแซมหรือซื้อใหม่

     

    เพราะเหตุนี้การเลือกร่มจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ก่อนซื้อทุกครั้งเราควรจะมีการตรวจสอบสินค้าให้ดีเสียก่อน แล้วจะมีวิธีการสังเกตอย่างไร ว่าร่มไหนมีความแข็งแรงน่าใช้ วันนี้เราจะพาไปดูเทคนิคการตรวจสอบร่มกัน

     

    วิธีตรวจสังเกตร่มที่แข็งแรงทนทานได้มาตรฐาน

     

    1.วัสดุโครงสร้างร่ม

    เป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้ง่ายที่สุด หากคุณกำลังต้องการร่มที่แข็งแรงซักคัน โดยวัสดุที่ถูกต้องจะต้องเป็นวัสดุอะลูมิเนียม, เหล็ก หรือ ไฟเบอร์กลาส เพราะเป็นวัสดุที่มีความทนทานสูง นอกจากนี้ยังควรสัมผัสเพื่อตรวจสอบความหนาแน่นของวัสดุด้วย

     

    2.ซี่ร่ม

    เพราะเป็นส่วนที่ต้องใช้ชิ้นส่วนค่อนข้างเยอะ อีกทั้งชิ้นส่วนเล็ก ๆ เหล่านี้ยังต้องทำหน้าที่เป็นโครงยึดผ้าใบในการรับมือกับแรงลม ด้วยเหตุนี้ซี่ร่มจึงเป็นส่วนที่ค่อนข้างบอบบางมากกว่าส่วนอื่น ๆ

    การตรวจสอบควรเริ่มจากการสังเกตลักษณะงานประกอบที่จะต้องแน่นไม่หลวมเมื่อขยับ โดยเฉพาะกับบริเวณข้อต่อส่วนต่าง ๆ ด้านวัสดุก็ต้องมีคุณสมบัติยืดหยุ่นไม่แข็งอย่างเดียว ซึ่งจะพบได้ในวัสดุไฟเบอร์ แต่ถ้าหากไม่มี วัสดุอย่าง เหล็ก หรือ อะลูมิเนียม ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่เช่นเดียวกัน

     

    สุดท้ายไม่ควรมองข้ามจำนวนก้านซี่ร่มออกไป เพราะยิ่งมีก้านเยอะ ความแข็งแรงของโครงสร้างเมื่อกางร่มก็จะทนทานต่อลมได้มากยิ่งขึ้น ไม่หักได้ง่าย โดยหากสำรวจดูแล้วรู้สึกว่ามีจำนวนก้านน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ก็ให้ตัดตัวเลือกร่มอันนั้นออกไปได้เลย

     

     

    3.แกนร่ม

    แกนร่มเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่ต้องอาศัยความแข็งแรงในการรับน้ำหนักจากการใช้งาน ซึ่งหากโลกมีความแข็งแรงมันก็จะทนรับแรงตึงเครียดได้เป็นอย่างดี โดยเทคนิคการสังเกตจะเริ่มได้จากดูที่ความยาวของแกนที่ต้องได้สัดส่วนเข้ากับเส้นผ่าศูนย์กลางของผ้าใบ รวมถึงต้องมีองศาความโค้งที่พอดี

     

    และถ้าหากร่มที่คุณเลือกอยู่เป็นร่มประเภทร่มพับ ร่มตอนเดียว, ร่ม2ตอน, หรือ 5 ตอน ก็จะต้องตรวจสอบบริเวณรอยต่อแกนว่าประกอบได้แน่นหนาหรือไม่ ขยับไปมาแล้วต้องไม่รู้สึกถึงความหลวมของชิ้นส่วน ซึ่งมักเป็นส่วนที่พังได้ง่ายของร่มชนิดนี้

     

    นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอีก 2 อย่าง ที่ไม่ควรลืมตรวจสอบด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ ผ้าร่ม ที่ควรจะเลือกผ้าที่ผลิตจากวัสดุ ผ้าผงจี้ หรือ โพลีเอสเตอร์ เพราะเป็นผ้าที่มีความทนทานอีกทั้งยังสามารถเคลือบสารกันแสง UV ได้ด้วย และ ด้ามจับ ที่ถึงแม้จะเป็นส่วนที่พังยากแต่มันก็มักจะมีปัญหาหลุดออกจากด้าม ซึ่งควรตรวจสอบงานประกอบให้ดีว่ามันจะไม่หลุดง่าย เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ รวมถึงลักษณะด้ามจับที่ต้องรับกับสรีระมือของเรา ใช้ไปแล้วไม่ปวดมือ

    ไขความลับ! 5 เหตุผล ที่ทำให้”ร่ม”ยังคงเป็นสินค้าพรีเมี่ยมยอดนิยมในทุกยุคสมัย

    เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในการทำการตลาด จัดกิจกรรมใดเพื่อโปรโมทแบรนด์ ธุรกิจ ห้างร้านต่าง ๆ นั้น มักมีสิ่งนึงที่มาควบคู่กัน ซึ่งก็คือ สินค้าพรีมี่ยมที่แบรนด์ผู้จัดกิจกรรมจัดทำขึ้นสำหรับแจก มอบให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเอง...

    เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในการทำการตลาด จัดกิจกรรมใดเพื่อโปรโมทแบรนด์ ธุรกิจ ห้างร้านต่าง ๆ นั้น มักมีสิ่งนึงที่มาควบคู่กัน ซึ่งก็คือ สินค้าพรีมี่ยมที่แบรนด์ผู้จัดกิจกรรมจัดทำขึ้นสำหรับแจก มอบให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเอง ซึ่งสินค้าที่นิยมเลือกนำมาใช้เป็นสินค้าพรีเมี่ยมก็อาจเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย หรือไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค กลุ่มเป้าหมายธุรกิจต่าง ๆ ในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก็ตามเราจะสังเกตเห็นกันได้ว่า แม้ว่าสินค้าพรีเมี่ยมหลาย ๆ ชิ้นจะผลัดเปลี่ยนกันได้รับความนิยมในแคมเปญการตลาดต่าง ๆ หมุนเวียนกันไป หรือสินค้าบางชิ้นก็อาจเลือนหายไปกับยุคสมัยเลย แต่กลับมีสินค้าชิ้นนึงที่ยังคงอยู่คู่กับแวดวงการตลาดมาเสมอ และแทบไม่เคยเลือนหายไปจากกระแสนิยมเลย ซึ่งสินค้าชิ้นนั้นก็คือ “ร่ม” นั่นเองซึ่งร่มก็มีมากมายหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มสนาม เป็นต้น ในบทความนี้จึงจะชวนไขความลับให้ได้ทราบกันว่า เพราะอะไรสินค้าที่ดูธรรมดา ๆ อย่างร่ม ถึงยังคงเป็นสินค้าพรีเมี่ยมยอดนิยมที่แบรนด์ธุรกิจ ห้างร้านต่าง ๆ เลือกใช้ในทุกยุคสมัย

    เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริงกับทุกกลุ่มเป้าหมาย เหตุผลแรกที่ทำให้ร่ม ยังคงเป็นของพรีเมี่ยมทางการตลาดที่ไม่มีสินค้าชิ้นไหนทดแทนได้ก็คือ ประโยชน์ใช้งานที่ใช้งานจริงได้กับทุกกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง ทั้งนี้นักการตลาดทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัญหาอย่างนึงที่แบรนด์ธุรกิจต่าง ๆ มักเจอกันในการจัดกิจกรรมทางการตลาดและแจกมอบของพรีเมี่ยมให้กับกลุ่มเป้าหมายก็คือ การที่สินค้านั้น ๆ ไม่ได้ถูกนำไปใช้งานจริง และทำให้ประสิทธิผลทางการตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดหวังด้วยนั่นเอง ทว่าร่มกลับเป็นสินค้าเพียงไม่กี่ชิ้นที่ให้ประโยชน์ใช้งานที่กลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่มต้องการจริง ๆ อัตราการนำสินค้าไปใช้งานจริงจึงมีสูงมากกว่าสินค้าชิ้นอื่น ๆ

    ความต้องการไม่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เหตุผลต่อมาที่ทำให้ร่มยังคงเป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ตอบโจทย์การสื่อสารการตลาดในทุก ๆ ยุคสมัยก็คือ ความต้องการ หรือดีมานด์ของสินค้าชิ้นนี้ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยนั่นเอง เพราะตราบใดที่ธรรมชาติยังคงมีแสงแดด และสายฝน ผู้บริโภคแทบจะทุกกลุ่มเป้าหมายก็จะยังคงมีความต้องการใช้ประโยชน์ในการป้องกันแดด และฝนจากร่มนั่นเอง

    ต้นทุนต่ำ คุมงบประมาณได้ง่าย เหตุผลประการต่อมาที่ทำให้ร่มยังเป็นสินค้าป๊อปปูลาร์ที่ถูกเลือกใช้เป็นของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดในทุกยุคสมัยก็คือ ต้นทุนการจัดทำ/สั่งผลิตที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ควบคุมงบประมาณที่จะใช้สำหรับแคมเปญการตลาดในแต่ละครั้งได้ง่ายนั่นเอง นอกจากนี้ตัวเลือกโรงงงานผู้ผลิตที่เชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าชิ้นนี้ก็ยังมีให้ได้เลือกใช้บริการมากมายด้วย

    ดีไซน์โลโก้ แบบอักษร และขนาดได้อย่างยืดหยุ่น เหตุผลต่อมาที่ทำให้ร่มยังคงเป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ตอบโจทย์การตลาดมากกว่าสินค้าหลาย ๆ ชิ้นก็คือ การรองรับดีไซน์ได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบส่วนของโลโก้แบรนด์ ชื่อแบรนด์ ตัวอักษร ข้อความในแคมเปญต่าง ๆ เนื่องจากใบร่มนั้นมีพื้นที่ให้ได้ใช้งานค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทอื่น ๆ

    ความทนทานของตัวสินค้า อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ร่มเป็นตัวเลือกสินค้าพรีเมี่ยมที่ดีกว่าสินค้าหลาย ๆ ชิ้นก็คือ ความแข็งแรงทนทาน และอายุการใช้งานของตัวสินค้าที่ค่อนข้างยาวนานนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร่มตอนเดียวที่มีโครงอะลูมิเนียมที่มั่นคงแข็งแรง ซึ่งมักมีอายุการใช้ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป และสำหรับผู้บริโภคหลายรายที่ใช้สินค้าอย่างทะนุถนอมก็อาจใช้งานสินค้าได้อย่างปกติเป็นเวลานาน 2-3 ปีเลยด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าความทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนานของสินค้าพรีเมี่ยมย่อมส่งผลต่อการสร้างอิมแพคทางการตลาดในระยะเวลาที่ยาวนานตามไปด้วยเช่นกัน

    การใช้ร่มให้ปลอดภัย

    จุดประสงค์ของอุปกรณ์ประเภทร่มไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มสนาม สำหรับผู้ใช้งานในกิจวัตรทั่วไป นั่นก็คือการใช้เพื่อปกป้อง ผลกระทบทางร่างกายจากสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ แต่ทว่า วิธีการใช้งานร่มที่ดูเรียบง่ายนั้น ก็ยังแฝงไว้ด้วยข้อควรระวัง...

    จุดประสงค์ของอุปกรณ์ประเภทร่มไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มสนาม สำหรับผู้ใช้งานในกิจวัตรทั่วไป นั่นก็คือการใช้เพื่อปกป้อง ผลกระทบทางร่างกายจากสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ

    แต่ทว่า วิธีการใช้งานร่มที่ดูเรียบง่ายนั้น ก็ยังแฝงไว้ด้วยข้อควรระวัง ซึ่งอาจกระทบต่ออุบัติเหตุหรือไปเพิ่มผลกระทบของอุบัติเหตุให้รุนแรงมากยิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครหลายคนที่มักพกพาร่มแบบติดตัวไปไหนต่อไหนเป็นประจำ นั่นก็หมายถึงจะต้องมีความใกล้ชิดกับร่มอยู่เสมอ ยิ่งต้องเรียนรู้ข้อควรระวังอย่างมาก แม้ว่าจะสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งในเวลาที่ฝนตกหรือแดดออกไว้คอยกางออกมาใช้ปกป้องสุขภาพร่างกาย หรือแม้กระทั่งใช้ในการช่วยพยุงตัวหรือใช้ ในแง่อเนกประสงค์อื่น ๆ ก็จะต้องเรียนรู้ภาวะที่ควรระวังเป็นอย่างยิ่ง

     

    ด้วยเพราะโครงสร้างและรูปร่างของตัวร่มนั้นจำเป็นจะต้องประกอบไปด้วยกลไก สำหรับขับเคลื่อนขั้นตอนการใช้งาน ทั้งการเก็บพับหรือยืดหุบ อีกทั้งผู้ผลิตยังมักจะต้องเลือกใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่น เรียวบางแต่เหนียวแข็งแรง  ดังนั้นโครงสร้างในลักษณะแบบนี้ของร่ม ก็อาจจะเป็นอันตรายได้หากเกิดการปะทะอย่างรุนแรง

    หรือแม้แต่ในภาวะที่ตัวร่มเกิดการชำรุดมีชิ้นส่วนใด ๆ หักงอ เกิดการโผล่มีส่วนแหลมคมขึ้นมานั้นก็จะกลายเป็นวัตถุที่ล่อแหลมมาอยู่ใกล้ตัวเลยทีเดียว

    และสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวซึ่งมีการพกพาร่มเป็นประจำ จะเป็นการดีกว่าหากเก็บร่มไว้กระโปรงท้ายรถ เพราะในยามที่เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ทางรถยนต์ การมีสิ่งที่มีเหลี่ยมคม อยู่ภายในห้องโดยสารของรถให้น้อยที่สุดจะปลอดภัยกว่า ซึ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่งหากมีการเก็บร่มเอาไว้ในฝั่งใกล้กับเบาะนั่งคนขับหรือผู้โดยสาร

     

    สำหรับการเก็บร่มไว้ในบ้าน หรือที่อยู่อาศัยควรเก็บร่มไว้ในที่แขวน ที่เก็บร่ม หรือหากจะต้องวางกับพื้นหรือสิ่งของใด ๆ ในระดับต่ำ ก็ควรจะต้องวางเป็นแนวระนาบ โดยไม่ควรวางร่มไว้เป็นแนวตั้ง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันการล้มลงใส่ร่มในแนวตั้ง อาจเป็นอันตรายได้อย่างร้ายแรงมาก

    และหากมีการใช้ร่มในขณะที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรงมีลมฟ้าลมฝน ก็ควรจะต้องประเมินดูให้ดีก่อนว่า มีแรงลมปะทะมากเกินไปหรือไม่ เพราะนอกจากร่มจะเกิดการชำรุดหักจากแรงต้านของลมที่แรง ก็ยังอาจเกิดกรณีที่ชิ้นส่วนโครงสร้างต่าง ๆ หักออกมาเป็นส่วนแหลมคมได้เช่นกัน

    นอกจากนี้ยังมีกระแสของแรงลม ที่ไม่ได้เกิดจากภาวะธรรมชาติ แต่เกิดจากการเคลื่อนที่ต้านลม ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเช่นกัน อาทิการกางร่มขนาดขับขี่รถ หรือโดยสารรถ เพราะนอกจากจะเสี่ยงเป็นอันตรายต่อตนเองและคนรอบข้างแล้ว ก็ยังอาจเสี่ยงต่อการที่ร่มหลุดลอยปลิวไปเป็นอันตรายต่อผู้คนอื่น ๆ ได้

    บางคนมีการใช้งานร่มในเชิงประยุกต์ใช้ที่ผิดวิธี เส้นใช้เอื้อมเกาะโหน ปีน หรือพยุงตัว ในบริบทที่เป็นอันตราย ก็จะเป็นภัยได้เช่นกันเพราะโครงสร้างของตัวร่ม ไม่ได้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อการใช้งานแบบนั้นโดยตรง การรองรับน้ำหนักที่ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำได้ ก็จะนำมาซึ่งอันตรายที่คาดไม่ถึงได้

    แม้ในบริบทปกติทั่วไป การจับถือร่มก็ควรจับถืออย่างมั่นคง ไม่ควรแกว่งไปแกว่งมาหรือคล้องไว้กับข้อมือ หรือจับแบบไม่เต็มมือ บางคนมีการใช้นิ้วบางส่วนเกี่ยวถือไว้ก็มี  ซึ่งกรณีนี้อาจมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ต้องเผชิญอย่างฉับพลัน การไม่ได้อยู่ในท่าที่เตรียมพร้อมก็อาจจะกลายเป็นบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น จากการเผชิญแรงกระชาก แรงกระแทก หรือแรงบิด ที่กระทบมายังร่ม

     

    อย่างไรก็ตามแท้ที่จริงแล้ว ร่มไม่ว่าอย่างไรก็ยังถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัย เพียงแต่ว่าข้อควรระวังต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น ก็มีอยู่ในสิ่งของทั่วไปเช่นกัน ขอเพียงแค่เรียนรู้ที่จะใช้งานอย่างเหมาะสม เพียงแค่นี้คุณก็สามารถใช้งานร่มได้อย่างสบายใจและปลอดภัยแล้ว

     

     

     

    ความแตกต่างของร่มแต่ละแบบ

    ร่มเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทุก ๆ บ้านต้องมี ถึงแม้ในหลาย ๆ ช่วง เราจะไม่ได้หยิบมาใช้เลยก็ตาม แต่ช่วงที่ได้ใช้ อย่างช่วงหน้าฝน ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้ รู้หรือไม่ว่า สิ่งนี้นั้นแตกต่างกัน มีอยู่ด้วยกันในท้องตลาดมากมายหลากหลายชนิด วันนี้ผมจะพาคุณมารู้จักกับ ร่มแบบต่าง ๆ...

    ร่มเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทุก ๆ บ้านต้องมี ถึงแม้ในหลาย ๆ ช่วง เราจะไม่ได้หยิบมาใช้เลยก็ตาม แต่ช่วงที่ได้ใช้ อย่างช่วงหน้าฝน ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้ รู้หรือไม่ว่า สิ่งนี้นั้นแตกต่างกัน มีอยู่ด้วยกันในท้องตลาดมากมายหลากหลายชนิด วันนี้ผมจะพาคุณมารู้จักกับ ร่มแบบต่าง ๆ เพื่อที่คุณจะได้หาซื้อมาใช้ได้อย่างถูกวัตถุประสงค์ หรืออาจซื้อเป็นของขวัญให้ผู้อื่นได้

     

    ร่มตอนเดียว

     

    สิ่งนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปมากมาย และเป็นแบบที่ได้รับความนิยมสูงมาก หาซื้อง่าย แถมยังนำไปใช้งานได้ง่ายด้วย มีหลากหลายขนาดให้เราเลือก ซึ่งโดยทั่วไปเราจะเห็นตั้งแต่ 16-24 นิ้ว ส่วนมากแล้ววัสดุที่นำมาใช้ทำจะเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีการเคลือบกันรังสี UV เอาไว้ ดังนั้น จึงมีความทนความร้อน อีกทั้งยังทนฝนได้ด้วย เหมาะจะใช้งานทั่วไป ซึ่งใครก็สามารถใช้ได้ เพียงแต่ให้เลือกขนาดพอดีสำหรับพกพาได้ ไม่เลือกที่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไปก็พอ

     

    ร่มพับ

     

    นี่ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่หลายคนมักจะพกพากัน เนื่องจากพกพาได้ง่ายกว่า ลักษณะจะสามารถหุบก้านเข้ามาเก็บได้ และมีถุงสำหรับใส่เพื่อสะดวกต่อการเก็บ อีกอย่างเพื่อไม่ให้บริเวณข้าง ๆ ไปเกี่ยวกับสิ่งของอื่น เนื่องจากพับเก็บได้ จึงมีรูปทรงค่อนข้างกะทัดรัด อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาด้วย สามารถที่จะพับเก็บใส่กระเป๋าได้อย่างง่ายดาย เราจะเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ในหมู่น้อง ๆ นักเรียน ที่คุณพ่อคุณแม่มักจะซื้อไว้ติดกระเป๋า ทำให้สะดวกสบายต่อการใช้งาน แถมยังน่ารักด้วย

     

    ร่มไม้เท้า

     

    หลายคนมักจะเคยเห็นตามร้านขายของทั่วไป เมื่อเห็นครั้งแรกเราสามารถบอกได้เลย ว่าสิ่งนี้สามารถที่จะเป็นไม้เท้าพยุงหรือค้ำยันได้ในตัว เพราะดูง่ายสะดุดตา มีให้เห็นทั้งแบบธรรมดาและแบบที่สามารถปรับระดับความสูงของด้ามได้ตามใจชอบ สามารถที่จะกันฝนกันแดดได้เหมือนกับแบบทั่วไป ควรเลือกซื้อที่มีความแข็งแรง ไม่บางหรือทำจากวัสดุเปราะหักง่ายจนเกินไป เพื่อให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ไม่เพียงแค่ผู้สูงอายุเท่านั้น แม้แต่คนทั่วไปก็สามารถนำมาใช้ในการพยุง เพื่อช่วยในการเดินได้

     

    ร่มกอล์ฟ

     

    สิ่งนี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในสนามกอล์ฟโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงมีลักษณะเฉพาะตัวมาก อย่างแรกเลยคือ ทำจากวัสดุที่ทนทานและแข็งแรงกว่าแบบทั่วไปมาก แถมยังมีขนาดใหญ่กว่าด้วย นอกจากจะเพื่อให้สามารถกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยในการกันลมที่ค่อนข้างแรงในสนามกอล์ฟได้ด้วย ดังนั้น นี่จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการไปออกรอบตีกอล์ฟ หรือแม้กระทั่งคนทั่วไปที่ต้องการอุปกรณ์กันแดดกันฝนที่มีความแข็งแรงทนทานกว่า ก็สามารถซื้อไปใช้ได้เช่นกัน แต่ก็จะมีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่าแบบทั่วไป อีกทั้งยังมีน้ำหนักมากกว่าและพกพายากกว่าด้วย

     

    ร่มสนาม

     

    จะมีขนาดใหญ่กว่าอันที่กล่าวมาทั้งหมด นอกจากมีขนาดใหญ่กว่าแล้ว ยังมีความแข็งแรงทนทานมากกว่า สามารถที่จะบรรจุคนได้หลายคนพร้อม ๆ กัน ส่วนมากแล้วจะไม่ถือเดินไปเดินมา จะตั้งไว้กับที่มากกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง หรือต้องการให้ร่มเงากับคนหรือสิ่งของจำนวนมากหน่อย และจะต้องอยู่กับที่ ไม่มีการเคลื่อนย้ายด้วย ส่วนใหญ่เราจะเห็นแม่ค้าแม่ขายใช้สิ่งนี้ในการบังแดดอาหารหรือขนม ทั้งยังสามารถพบเห็นได้บริเวณชายหาดที่มีนักท่องเที่ยวเยอะด้วย

     

    ร่มกลับด้าน

     

    นี่เป็นนวัตกรรมที่ขอนำเสนอ มีความพิเศษในตัว ตรงที่วิธีการกางและวิธีการหุบ โดยปกติแล้ว แบบทั่วไปเมื่อเราจะหุบเก็บ เราจะหุบเข้ามาหาเราด้านใน แต่อันนี้ เมื่อหุบจะชี้ออกไปด้านนอก ทำให้ไม่เจอปัญหาเปียกฝน ในขณะที่เราหุบหรือกางเลย เหมาะมากสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางไปที่ต่าง ๆ เนื่องจากหุบและกางแบบกลับด้าน ดังนั้นจึงตัดปัญหาเรื่องฝนตกและทำให้เราเปียกฝนในขณะใช้งาน

    ความแตกต่างของร่มแต่ละแบบ

    ร่มเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทุก ๆ บ้านต้องมี ถึงแม้ในหลาย ๆ ช่วง เราจะไม่ได้หยิบมาใช้เลยก็ตาม แต่ช่วงที่ได้ใช้ อย่างช่วงหน้าฝน ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้ รู้หรือไม่ว่า สิ่งนี้นั้นแตกต่างกัน มีอยู่ด้วยกันในท้องตลาดมากมายหลากหลายชนิด วันนี้ผมจะพาคุณมารู้จักกับ ร่มแบบต่าง ๆ...

    ร่มเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทุก ๆ บ้านต้องมี ถึงแม้ในหลาย ๆ ช่วง เราจะไม่ได้หยิบมาใช้เลยก็ตาม แต่ช่วงที่ได้ใช้ อย่างช่วงหน้าฝน ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้ รู้หรือไม่ว่า สิ่งนี้นั้นแตกต่างกัน มีอยู่ด้วยกันในท้องตลาดมากมายหลากหลายชนิด วันนี้ผมจะพาคุณมารู้จักกับ ร่มแบบต่าง ๆ เพื่อที่คุณจะได้หาซื้อมาใช้ได้อย่างถูกวัตถุประสงค์ หรืออาจซื้อเป็นของขวัญให้ผู้อื่นได้

     

    ร่มตอนเดียว

     

    สิ่งนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปมากมาย และเป็นแบบที่ได้รับความนิยมสูงมาก หาซื้อง่าย แถมยังนำไปใช้งานได้ง่ายด้วย มีหลากหลายขนาดให้เราเลือก ซึ่งโดยทั่วไปเราจะเห็นตั้งแต่ 16-24 นิ้ว ส่วนมากแล้ววัสดุที่นำมาใช้ทำจะเป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีการเคลือบกันรังสี UV เอาไว้ ดังนั้น จึงมีความทนความร้อน อีกทั้งยังทนฝนได้ด้วย เหมาะจะใช้งานทั่วไป ซึ่งใครก็สามารถใช้ได้ เพียงแต่ให้เลือกขนาดพอดีสำหรับพกพาได้ ไม่เลือกที่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไปก็พอ

     

    ร่มพับ

     

    นี่ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่หลายคนมักจะพกพากัน เนื่องจากพกพาได้ง่ายกว่า ลักษณะจะสามารถหุบก้านเข้ามาเก็บได้ และมีถุงสำหรับใส่เพื่อสะดวกต่อการเก็บ อีกอย่างเพื่อไม่ให้บริเวณข้าง ๆ ไปเกี่ยวกับสิ่งของอื่น เนื่องจากพับเก็บได้ จึงมีรูปทรงค่อนข้างกะทัดรัด อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาด้วย สามารถที่จะพับเก็บใส่กระเป๋าได้อย่างง่ายดาย เราจะเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ในหมู่น้อง ๆ นักเรียน ที่คุณพ่อคุณแม่มักจะซื้อไว้ติดกระเป๋า ทำให้สะดวกสบายต่อการใช้งาน แถมยังน่ารักด้วย

     

    ร่มไม้เท้า

     

    หลายคนมักจะเคยเห็นตามร้านขายของทั่วไป เมื่อเห็นครั้งแรกเราสามารถบอกได้เลย ว่าสิ่งนี้สามารถที่จะเป็นไม้เท้าพยุงหรือค้ำยันได้ในตัว เพราะดูง่ายสะดุดตา มีให้เห็นทั้งแบบธรรมดาและแบบที่สามารถปรับระดับความสูงของด้ามได้ตามใจชอบ สามารถที่จะกันฝนกันแดดได้เหมือนกับแบบทั่วไป ควรเลือกซื้อที่มีความแข็งแรง ไม่บางหรือทำจากวัสดุเปราะหักง่ายจนเกินไป เพื่อให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ไม่เพียงแค่ผู้สูงอายุเท่านั้น แม้แต่คนทั่วไปก็สามารถนำมาใช้ในการพยุง เพื่อช่วยในการเดินได้

     

    ร่มกอล์ฟ

     

    สิ่งนี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในสนามกอล์ฟโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงมีลักษณะเฉพาะตัวมาก อย่างแรกเลยคือ ทำจากวัสดุที่ทนทานและแข็งแรงกว่าแบบทั่วไปมาก แถมยังมีขนาดใหญ่กว่าด้วย นอกจากจะเพื่อให้สามารถกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยในการกันลมที่ค่อนข้างแรงในสนามกอล์ฟได้ด้วย ดังนั้น นี่จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการไปออกรอบตีกอล์ฟ หรือแม้กระทั่งคนทั่วไปที่ต้องการอุปกรณ์กันแดดกันฝนที่มีความแข็งแรงทนทานกว่า ก็สามารถซื้อไปใช้ได้เช่นกัน แต่ก็จะมีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่าแบบทั่วไป อีกทั้งยังมีน้ำหนักมากกว่าและพกพายากกว่าด้วย

     

    ร่มสนาม

     

    จะมีขนาดใหญ่กว่าอันที่กล่าวมาทั้งหมด นอกจากมีขนาดใหญ่กว่าแล้ว ยังมีความแข็งแรงทนทานมากกว่า สามารถที่จะบรรจุคนได้หลายคนพร้อม ๆ กัน ส่วนมากแล้วจะไม่ถือเดินไปเดินมา จะตั้งไว้กับที่มากกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง หรือต้องการให้ร่มเงากับคนหรือสิ่งของจำนวนมากหน่อย และจะต้องอยู่กับที่ ไม่มีการเคลื่อนย้ายด้วย ส่วนใหญ่เราจะเห็นแม่ค้าแม่ขายใช้สิ่งนี้ในการบังแดดอาหารหรือขนม ทั้งยังสามารถพบเห็นได้บริเวณชายหาดที่มีนักท่องเที่ยวเยอะด้วย

     

    ร่มกลับด้าน

     

    นี่เป็นนวัตกรรมที่ขอนำเสนอ มีความพิเศษในตัว ตรงที่วิธีการกางและวิธีการหุบ โดยปกติแล้ว แบบทั่วไปเมื่อเราจะหุบเก็บ เราจะหุบเข้ามาหาเราด้านใน แต่อันนี้ เมื่อหุบจะชี้ออกไปด้านนอก ทำให้ไม่เจอปัญหาเปียกฝน ในขณะที่เราหุบหรือกางเลย เหมาะมากสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางไปที่ต่าง ๆ เนื่องจากหุบและกางแบบกลับด้าน ดังนั้นจึงตัดปัญหาเรื่องฝนตกและทำให้เราเปียกฝนในขณะใช้งาน

    ร่มดาบ ไอเทมยอดนิยมของชาวคอสเพลย์

    เพราะ ' คอสเพลย์ ' คือการแสดงออกหรือสวมบทบาทเป็นตัวละครในการ์ตูนหรือภาพยนตร์ที่ตนเองชื่นชอบ ที่นอกจากเสื้อผ้าและการแสดงแล้ว...

    เพราะ ‘ คอสเพลย์ ‘ คือการแสดงออกหรือสวมบทบาทเป็นตัวละครในการ์ตูนหรือภาพยนตร์ที่ตนเองชื่นชอบ ที่นอกจากเสื้อผ้าและการแสดงแล้ว บางครั้งมันก็จำเป็นจะต้องพึ่งพาอุปกรณ์ที่ช่วยเติมเต็มให้การคอสเพลย์มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นด้วย

     

    ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์คอสเพลย์ที่เรามักจะพบเห็นกันได้บ่อย ๆ นั่นก็คือ ดาบซามูไร ซึ่งแน่นอนว่านั่นไม่ใช่ของจริงหรอก แต่บางครั้งมันก็ไม่ใช่ของเล่นซะทีเดียว เพราะถ้าหากสังเกตดี ๆ มันก็คือร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว ร่มทั่วไปที่ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับดาบซามูไร ดูแล้วเท่สุด ๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ

     

    โดยร่มดาบที่มีวางจำหน่ายซึ่งสามารถหาซื้อกันได้ทั่วไปมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบดังต่อไปนี้

     

    1.ร่มดาบซามูไร

    ร่มดาบซามูไร ด้วยความที่ต้องการให้มีรูปลักษณ์เหมือนกับดาบของจริงมากที่สุด ร่มชนิดนี้จึงมีขนาดยาวและใหญ่พอสำหรับใช้กางอยู่ด้วยกัน 2 คนได้แบบสบาย ๆ สีที่ใช้มักเป็นสีดำ ใช้วัสดุเหล็กแข็งแรงทนทาน ให้น้ำหนักที่มากกว่าการถือร่มแบบธรรมดาทั่วไป แต่ก็ทำให้ได้ฟิวคล้ายกับการถือดาบของจริงอยู่เหมือนกัน

     

    ระบบร่มจะใช้เป็นระบบกางแบบอนุมัติที่ได้รับความนิยม เพราะมีความสะดวกในด้านการใช้งาน ส่วนด้ามจับนั้นสินค้าส่วนใหญ่จะใช้ดีไซน์จากด้ามดาบคาตานะกันเป็นส่วนมาก แต่สำหรับด้ามจากแบบอื่น ๆ จากวิดีโอเกมหรือการ์ตูนดัง ก็มีเหมือนกัน แต่อาจจะต้องใช้ความพยายามตามหากันสักนิดนึง

     

     

    2.ร่มดาบสั้นญี่ปุ่น

    เป็นร่มที่มีการออกแบบคล้ายกับร่มดาบซามูไร แต่สิ่งที่ต่างออกไปอย่างชัดเจนก็คือขนาดที่มีความกะทัดรัดและสั้นกว่ามาก ซึ่งมีความสะดวกต่อการพกพา หรือใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า ส่วนรูปแบบด้ามจับก็มีให้เลือกด้วยกันอย่างหลากหลายไม่น้อยไปกว่าร่มดาบแบบยาวเลย

     

    โดยร่มดาบสั้นนี้จะเป็นการนำร่มแบบพับมาประยุกต์ใช้ ซึ่งการใช้งานก็จะคล้ายกันกับรุ่นปกติเลย คือเมื่อกดปุ่มแล้วร่มจะยืดออกแล้วกางออกมาโดยอัตโนมัติ และเมื่อไม่ต้องการใช้งานก็แค่กดปุ่มเพื่อให้ร่มหุบลงจากนั้นก็ใช้มือหดร่มกลับลงมาเพื่อพับเก็บ หากไม่ต้องการถือก็สามารถใส่กระเป๋าได้ไม่ยาก เรียกได้ว่าหากคุณมีความชื่นชอบในดาบญี่ปุ่น และต้องการใช้งานในชีวิตประจำวันบ่อย ๆ ด้วย ร่มชนิดนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างสุด ๆ

     

     

    3.ร่มไลท์เซเบอร์

    ถ้าคุณเป็นสาวกภาพยนตร์หนัง Star wars และต้องการอยากจะพกดาบไลท์เซเบอร์ไว้ข้างกายตลอดเวลา แต่ไม่อยากให้มันดูโดดเด่นจนสะดุดตามากเกินไป ร่มไลท์เซเบอร์ จึงเป็นทางเลือกที่มีความน่าสนใจอยู่พอสมควร

     

    โดยร่มไลท์เซเบอร์จะมีการติดตั้งหลอดไฟ LED ที่บริเวณแกนกลางซึ่งสามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 3 สี ได้แก่ สีเขียว, สีฟ้า และสีแดง ห่อหุ้มด้วยพลาสติกคุณภาพสูงเพื่อป้องกันน้ำเข้า โดยในบางรุ่นอาจมีการติดตั้งไฟฉายที่บริเวณด้ามจับมาให้ด้วย

     

     

    ข้อควรระวังเรื่องการใช้ร่มดาบคอสเพลย์

    แน่นอนว่าการออกแบบร่มเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความบันเทิงของผู้ใช้ แต่เพราะมันดูมีความใกล้เคียงกับอาวุธของจริง ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงในการใช้มันในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย หรือหากจะพกใช้ในชีวิตประจำวันก็ควรที่จะพกอย่างมิดชิดไม่ให้ผู้อื่นรู้สึกถึงความอันตราย เพราะมันอาจนำมาสู่ปัญหาเกี่ยวกับการระบบรักษาความปลอดภัยในสถานที่ได้ เนื่องจากมันมีความใกล้เคียงกับอาวุธจริงก็ควรเก็บไว้ที่เก็บร่ม ไม่ควรวางในพี่ที่โล่งเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิด

     

    ร่มคอสเพลย์หรือร่มที่เลียนแบบดาบเหล่านี้เหมาะสำหรับซื้อเป็นร่มคันที่ 2 ต่อจากร่มที่ใช้งานปกติในชีวิตประจำวัน เพราะมันเหมาะสำหรับใช้ในการออกงานคอสเพลย์หรือใช้เล่นในบางโอกาสมากกว่า ส่วนราคาของแต่ละรุ่นนั้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพงานและการเลือกใช้วัสดุ หรืออาจมีในเรื่องของแบรนด์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งก็มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักพันเลยทีเดียว

    ชนิดของผ้าใบที่ใช้ในร่มสนาม

    เพราะแดดประเทศบ้านเรานั้นรุนแรงไม่เหมือนใคร การทำกิจกรรมกลางแจ้งจึงต้องได้รับการป้องกันมากเป็นพิเศษ ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณทำกิจกรรมได้ยาวนานท่ามกลางแสงอาทิตย์อันร้อนระอุ นั่นก็คือ ร่มสนาม จะแตกต่างจากร่มจากร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว หรือร่มทั่ว ๆ...

    เพราะแดดประเทศบ้านเรานั้นรุนแรงไม่เหมือนใคร การทำกิจกรรมกลางแจ้งจึงต้องได้รับการป้องกันมากเป็นพิเศษ ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณทำกิจกรรมได้ยาวนานท่ามกลางแสงอาทิตย์อันร้อนระอุ นั่นก็คือ ร่มสนาม จะแตกต่างจากร่มจากร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว หรือร่มทั่ว ๆ ไปเนื่องจากร่มสนามเป็นร่มขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับฐานตั้งซึ่งช่วยสร้างร่มเงาได้กว้างมากพอที่จะจุคนได้มากกว่า 3 คน ขึ้นไป และด้วยความกว้างขนาดนี้ ไม่ว่าจะยืน นั่ง นอน หรือทำอะไรก็สะดวกไปหมดโดยที่ตัวไม่โดนแดดเผา

     

     

    แต่ถึงแม้ว่าร่มสนามที่เราเห็นวางจำหน่ายหรือใช้กันอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ จะดูคล้ายกัน แต่ความจริงแล้วร่มสนามแต่ละตัวกลับมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานโดยตรง ดังนั้นการเลือกจึงควรตรวจสอบสเปคของร่ม ทั้งขนาด และชนิดผ้าใบที่ใช้ให้ดี เพื่อที่จะได้สินค้าอันตรงกับความต้องการมากที่สุด

     

    ชนิดของผ้าใบร่มสนาม

     

    1.ผ้าคูนิลอน

    เนื้อผ้าผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ที่มีความแข็งแรงสูง เหนียวทนทาน ฉีกขาดยาก สามารถรับแรงปะทะของลมได้ดี พื้นผิวมีความแวววาวสะท้อนแสง มักมีการเคลือบสารป้องกันรังสี UV ได้ถึง 100 % มาให้ และด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงทำให้ผ้าคูนิลอน ได้รับความนิยมในการนำมาผลิตร่มสนามเป็นอันดับต้น ๆ

     

    2.ผ้าร่ม

    เป็นวัสดุที่พบได้มากที่สุดในการนำมาทำเป็นร่ม รวมถึงวัสดุสินค้าอื่น ๆ ที่ต้องการคุณสมบัติกันแดดและฝน เนื่องจากมีราคาถูกจึงช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก แถมยังมีน้ำหนักเบา ใช้งานได้ไม่ยาก ลักษณะผิวมีความเรียบเนียน ลื่น ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ มีให้เลือกทั้งแบบปกติที่ไม่กันรังสี UV กับแบบเคลือบสารกันรังสี UV ซึ่งจะถูกทาเคลือบสีเงินเอาไว้ในด้านใดด้านหนึ่ง โดยจะมีประสิทธิภาพกันรังสี UV ได้ที่ 80%

     

    3.ผ้าออกฟอร์ด

    เป็นผ้าใบร่มที่ให้อารมณ์ความหรูหรา และสร้างบรรยากาศความเป็นพรีเมี่ยมได้มากที่สุด ด้วยพื้นผิววัสดุที่มีความหยาบ เมื่อโดนแสงแดดจะสะท้อนออกมาเป็นประกายเหมือนกับกากเพชร แต่ทั้งนี้มันก็มีข้อเสียตรงที่มีความหนาของพื้นผิวบาง และค่อนข้างโปร่งแสงเมื่อเทียบกับผ้าใบร่มอื่น ๆ โดยมีคุณสมบัติกันรังสี UV ที่ 60% ดังนั้นร่มสนามที่ใช้ผ้าออกฟอร์ด จึงเหมาะสำหรับใช้ตั้งในพื้นที่ ซึ่งแสงแดดส่องไม่แรงมาก

     

    4.กระดาษสา

    เป็นการประยุกต์นำประเพณีการทำร่มด้วยวัสดุกระดาษสาอันเก่าแก่ มาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งแน่นอนว่าร่มสนามที่ใช้วัสดุกระดาษสาย่อมมีประสิทธิภาพการกันแดดและฝนได้ต่ำกว่าผ้าชนิดอื่น ๆ ถึงแม้จะได้รับการเคลือบสารมาแล้วก็ตาม แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าร่มสนามจากกระดาษสานั้น สามารถช่วยสร้างความสวยงามให้แก่สถานที่ได้จริง ๆ โดยมันได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาใช้ประดับในพื้นที่ โรงแรม รีสอร์ท สถานที่ท่องเที่ยว และ ร้านอาหาร

     

     

    ขนาดของร่มสนาม

     

    ปกติแล้วการเลือกร่มสนามของคนส่วนใหญ่จะเลือกแบบเน้นอันใหญ่ที่สุดไปเลย เพื่อความคุ้มค่าจะได้ไม่ต้องมาคอยซื้อใหม่หลาย ๆ รอบ แต่ในบางกรณี อย่างในส่วนของพื้นที่ธุรกิจ หรือ ร้านค้า อาจมีความจำเป็นต้องใช้ร่มสนามที่มีขนาดเล็กรองลงมาเนื่องจากมีพื้นที่จำกัด โดยร่มที่วางจำหน่ายในยุคปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 3 ขนาดได้แก่

     

    ขนาดเล็ก : ไซส์ 36 นิ้ว ขนาดความกว้าง 1 เมตร 70 เซ็นติเมตร

    ขนาดกลาง : ไซส์ 40 นิ้ว – 45นิ้ว ขนาดความกว้าง 1 เมตร 80 เซ็นติเมตร และ 2 เมตร 10 เซ็นติเมตร

    ขนาดใหญ่ : ไซส์ 50 นิ้ว – 60 นิ้ว ขนาดความกว้างตั้งแต่ 2 เมตร 30 เซ็นติเมตร และ 3 เมตร

     

    สรุปได้ว่าหากต้องการร่มสำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง ร่มสนามที่ผลิตจากผ้าคูนิลอน คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่ถ้าหากต้องการอยากประหยัดต้นทุน วัสดุผ้าร่มก็ใช้งานได้ดีเหมือนกันแม้จะกันแดดได้ไม่ดีเท่า และถ้าหากต้องการอยากจะเพิ่มความสวยงามให้แก่สถานที่ ร่มผ้าออกฟอร์ด กับร่มสนามกระดาษสา ก็เป็นอีกตัวเลือกที่รอให้คุณพิจารณาอยู่