เลือกร่มกัน UV สำหรับผู้ต้องการดูแลผิว

เพราะประเทศไทยเราเป็นประเทศเมืองร้อน สภาพอากาศและแสงแดดจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างแรงและยาวนาน โดยสิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัญหาอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอยากจะดูแลผิวของตนเอง ให้ดูมีความขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีวิธีป้องกันแตกต่างกันออกไป ทั้งการใส่เสื้อแขนยาว หรือการทาครีมกันแดด

ซึ่งอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลเช่นเดียวกันเวลาออกไปทำกิจกรรมข้างนอกแล้วต้องเผชิญหน้ากับแสงแดด ก็คือ การพกร่มติดตัว ที่นับเป็นวิธีที่ได้ผลเป็นอย่างมาก

ร่มที่นิยมใช้บังแดดก็มีมากมายเช่นร่ม16ก้าน  ร่มตอนเดียว ร่มกอล์ฟ ร่มพับเป็นต้นอย่างไรก็ตามหากเป็นวันที่แดดแรงมาก การใช้ร่มปกติทั่วไปก็อาจจะไม่สามารถป้องกันความร้อนและรังสี UV ได้ดีเท่าไหร่ หากเทียบกับร่มแบบป้องกัน UV โดยตรง

ร่มปกติ กับ ร่มกัน UV ต่างกันอย่างไร ?
หากดูเผิน ๆ ความแตกต่างระหว่างร่มทั้ง 2 ชนิดนี้ จะแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย แต่หากดูวัสดุที่ใช้ในการผลิต ร่มกัน UV จะมีวัสดุที่ดีกว่าชัดเจน ซึ่งจะใช้ ผ้าโพลีอีสเตอร์ ที่มีคุณสมบัติกรองแสงได้ดี หรือ อาจมีการเคลือบสารป้องกันรังสี UV เข้าไป เพื่อยกระดับการป้องกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ส่วนร่มปกตินั้น จะใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าใบธรรมดาในการผลิต ซึ่งก็สามารถกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ไม่ป้องกัน UVA และ UVB ด้วยเท่านั้น

วิธีเลือกซื้อร่มกัน UV
การเลือกซื้อร่มกัน UV ควรตรวจสอบว่ามีการเคลือบสารป้องกันด้วยหรือไม่ โดยส่วนใหญ่สินค้ามักจะใช้สารเคลือบจำพวก ซิงค์ออกไซด์ หรือ ไทเทเนียมไดออกไซด์ หากมีการยืนยันการใช้สารอย่างที่กล่าวไป ก็จะสามารถมั่นใจในการใช้งานได้ และถ้าจะให้ดีก็ควรจะเลือกรุ่นที่มีสีสว่างจำพวก สีขาว สีครีม หรือสีเงิน เพราะสีจำพวกนี้จะสามารถช่วยสะท้อนแสงแดดได้ดีนั่นเอง

ขณะเดียวกันหากต้องการร่มที่มีความทนทาน ควรมองไปยังวัสดุที่ใช้ทำผ้าร่มด้วย เพราะถ้าได้ผ้าร่มที่แข็งแรง มันก็จะไม่เกิดปัญหาฉีกขาดได้ง่าย โดยควรเน้นไปที่การใช้ ผ้าใบ หรือ ผ้าอะคริลิค ซึ่งมีความเหนียวและแข็งแรง แต่หากพูดถึงสิ่งที่จะรับประกันคุณภาพของสินค้าได้มากที่สุดก็คือการเลือกสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง เพราะแบรนด์เหล่านี้จะมีมาตรฐานการผลิตที่เชื่อถือได้ และสินค้ายังมักมีประกันรับรองมาให้ด้วย

ประโยชน์ของการใช้ร่มกัน UV

1.ช่วยลดปัญหาการเกิดมะเร็งผิวหนัง
รังสี UVA และ UVB ที่อยู่ในแดดหากรับในปริมาณที่มากเกินไปแน่นอนว่ามันย่อมต้องส่งผลเสียต่อผิวหนังของร่างกาย ให้เกิดการเปลี่ยนสีและแห้งกร้าน อีกทั้งใน UVB ยังถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ซึ่งสาร ซิงค์ออกไซด์ และ ไทเทเนียมไดออกไซด์ ที่ถูกเคลือบลงไปบนผิววัสดุร่ม จะช่วยกรองรังสีเหล่านี้ไม่ให้กระทบต่อผู้ใช้ได้นั่นเอง

2.ลดปัญหาอาการดวงตาพร่ามัว
เมื่อดวงตาต้องเจอกับแสงแดดจ้าอาจทำให้เกิดอาการพร่ามัวหรืออาการตาแห้ง ซึ่งทำให้มีผลต่อโรคต้อกระจกตามมาหากต้องทนกับมันไปนาน ๆ เพราะรังสี UVB โดยการใช้ร่มจะช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้

3.ใช้ร่มกัน UV จะเย็นกว่าร่มทั่วไป
หากเป็นร่มปกติมันจะทำได้แค่บังแดดเพียงเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยทำให้ผู้ใช้รู้สึกหายร้อนมากแต่อย่างใด กลับกันถ้าหากเปลี่ยนมาใช้ร่มกัน UV ด้วยวัสดุและสารเคลือบพิเศษจะช่วยให้ร่มไม่สะสมความร้อนด้านใต้ จึงทำให้ผู้ใช้รู้สึกเย็นกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ

ส่วนเรื่องราคานั้นเป็นที่แน่นอนว่าร่มกัน UV จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าร่มทั่วไป โดยแบรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนี้ก็จะมีตั้งแต่ BGG,Xiaomi,Yoco หรือ พวกร่มกอล์ฟเป็นต้น