กว่าจะมาเป็น “ร่ม”

ร่ม ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็จะต้องมีติดบ้านไว้ บางคนถึงกับพกติดรถไว้ หรือบางคนถึงกับพกติดตัวไว้ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงที่ใกล้เข้าหน้าฝนนี้ ใครหลายคนก็มักจะพกร่มไปไหนมาไหนอยู่เสมอ เพราะเราจะได้ใช้ประโยชน์แน่นอน แต่ไม่ใช่แค่เพียงช่วงหน้าฝนเท่านั้นที่เราสามารถหยิบมันมาใช้งานได้ แม้แต่ในช่วงอื่น เราก็สามารถที่จะหยิบอุปกรณ์ชิ้นสำคัญนี้มาใช้งานได้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีแดดจัด หรือช่วงที่มีลมแรงเราก็หยิบมาใช้งานได้ด้วยเช่นเดียวกัน ร่มนั้นมีกลากหลายแบบเช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว เป็นต้น ดังนั้นเราจึงกล่าวได้เลยว่าร่ม ถือเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์อีกชิ้นหนึ่ง

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราใช้งานกันอยู่ทั่วไปอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่าร่มมาจากไหน วิวัฒนาการมาได้อย่างไร กว่าจะมาเป็นอุปกรณ์ให้เราได้ใช้กันในทุกวันนี้ มันได้ผ่านอะไรมาบ้าง มาจากถิ่นฐานได้ แต่เดิมแล้วมาจากชาติไหน ถึงแม้จะไม่มีการศึกษาวิจัยกันอย่างแท้จริง แต่ก็มีบันทึกบางส่วนที่ได้บ่งบอกถึงอุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้

ที่มาของชื่อ

ร่มนั้นในภาษาอังกฤษเราเรียกว่า umbrella มีรากศัพท์มาจากคำว่า umbra ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่า บังแดด ดังนั้นแต่เดิมมันจึงเป็นอุปกรณ์บังแดด เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 3400 ปีก่อน ในดินแดนเมโสโปเตเมีย สถานที่ซึ่งมีอากาศร้อนตลอดทั้งปี ดังนั้นผู้คนจึงได้นิยมใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการบังแดด

ไม่นานมันก็ถูกแพร่หลาย และส่งต่อมายังอารยธรรมอียิปต์ ต่อมาชาวกรีก ได้รับเอาวัฒนธรรมนี้มาจากอียิปต์อีกที ซึ่งชาวอียิปต์เชื่อกันว่า ท้องฟ้านั่นคือร่างกายของเทพธิดาองค์ หนึ่ง ซึ่งปกคลุมโลกดุจร่มอันมหึมา ในตอนแรกสิ่งนี้ใช้ในการทดแทน หรือเป็นตัวแทนของเทพธิดาองค์นี้ เพื่อให้สำหรับปกป้องคุ้มครองผู้ที่อยู่ใต้ร่มเงา ดังนั้นแต่เดิมในอดีตสมัยกรีก ผู้ที่กางร่ม จะต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจเท่านั้น

บริบทที่เปลี่ยนไป

แต่ในยุคหนึ่ง ความหมายของสิ่งนี้ก็เปลี่ยนไป การใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ได้กลับถูกมองว่ามีอำนาจ มันกลับกันด้วยซ้ำ อย่างเช่นในช่วงประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 18 ผู้ที่กางร่ม ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นเป็นผู้หญิงเท่านั้น เพราะเนื่องจากผู้ชาย อาจจะถูกมองว่าอ่อนแอ จึงไม่ค่อยมีใครนิยมใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้กันเท่าไหร่ จนกระทั่งในปี 1750 ก็ได้มีชายชาวอังกฤษคน หนึ่ง ลุกขึ้นมาพบอุปกรณ์ชิ้นนี้ เขาไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง และไม่นาน อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ได้รับความนิยมในอังกฤษ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรือผู้ชายเท่านั้น แต่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ทั้งนั้น

ไม่ได้ใช้เพียงแค่การกันแดดกันฝนแล้ว

จนกระทั่งทุกวันนี้ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์สำหรับการกันแดดหรือกันฝนเพียงเท่านั้น หลายคนยังใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับแฟชั่น เช่น ร่มใส หรือใช้เพิ่มแมตช์กับเสื้อผ้า และแต่งตัวหลากหลายรูปแบบด้วยกัน นอกจากนี้แล้ว หลายคนยังใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ตกแต่งร้านอาหารหรือร้านกาแฟ หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกมากมายหลากหลายอย่างด้วยกัน จากแต่เดิมที่อาจจะเคยใช้เพื่อเป็นตัวแทนของเทพเจ้า หรือใช้ประโยชน์บางอย่างในการบังแดด แต่ทุกวันนี้มันได้เปลี่ยนไป และมีการนำมาใช้งานด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งถือเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

และเรื่องราวที่กล่าวมานี้ เป็นประวัติความเป็นมา ของอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็อาจมีติดบ้านด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ เราอาจจะไม่ต้องรู้เรื่องราวนี้ก็ได้ แต่การรู้ไว้ก็เป็นอะไรที่ดีเหมือนกัน หากใครต้องการที่จะหาของพรีเมี่ยมที่น่าสนใจ อุปกรณ์ชิ้นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลย