จาก ร่มกระดาษ สู่ ร่มพลาสติกใส วัฒนธรรมความนิยมต่างยุคสมัยของญี่ปุ่น

วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นถือเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์ และได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ด้วยเอกลักษณ์ทาง ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต รวมถึงศิลปะที่มีความเฉพาะตัว ได้ดึงดูดให้ไม่ว่าใครต่างก็อยากที่จะเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ในแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้กันสักครั้ง

ซึ่งถ้าหากใครที่เคยไปญี่ปุ่นก็อาจจะสังเกตเห็นได้ว่าผู้คนที่นั่นจะนิยมใช้ร่มพลาสติกใสกันอยู่เป็นจำนวนมากไม่เหมือนคนไทยที่มีการใช่ร่มหลากหลายสีอย่างเช่นร่ม16ก้านก็อาจะมี16 สีในร่มเดียวเลยก็ว่าได้ มันจึงทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า การใช้ร่มแบบนี้มันได้รับความนิยมจนกลายเป็นวัฒนธรรมอันโดดเด่นของญี่ปุ่นได้อย่างไร

ร่มกระดาษญี่ปุ่นโบราณ
ก่อนที่จะมาดูความเป็นมาของร่มพลาสติกใสในยุคปัจจุบัน เราคงต้องพาย้อนไปดูร่มที่ได้รับความนิยมกันในอดีตของญี่ปุ่นกันก่อน โดยร่มที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้นถูกเรียกว่า “วากะสะ” หรือมีมีอีกชื่อหนึ่งว่า “วะงะสะ” เป็นร่มโบราณที่ถูกกล่าวถึงและเป็นที่รู้จักกันในระดับโลก โดยมันได้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 ประเทศญี่ปุ่นได้มีการนำเข้า “ร่มเท็นไง” จากประเทศจีน ซึ่งถือเป็นสินค้าที่มีความแปลกใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากคนญี่ปุ่นในอดีตยังคงใช้หมวกกับผ้าคลุมในการกันแดดและฝนกันอยู่

ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงหันมาประดิษฐ์ร่มจากกระดาษ โดยนำไม้ไผ่มาทำเป็นโครงสร้าง จนเรียกมันว่า “ร่มวากะสะ” เวลาผ่านไปก็ได้รับความนิยมจนถูกพัฒนาต่อให้สามารถกันแดดและฝนได้ดีขึ้น ผ่านการทาน้ำมันบนกระดาษ รวมถึงมีการใช้เชือกเย็บติดกันในบริเวณโครงสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแรง อีกทั้งยังมีการตกแต่งด้วยสีสันพร้อมทั้งวาดลวดลายธรรมชาติ จนถูกใจสาวญี่ปุ่นให้ต้องนำมาใช้เป็นของประดับควบคู่กับชุดกิโมโน

ร่มพลาสติกใส จากความนิยมจนกลายเป็นเอกลักษณ์
กลับมาที่ยุคปัจจุบันเราคงจะเห็นภาพชาวญี่ปุ่นใช้ร่มใสกันจนชินตา ซึ่งถ้าหากใครถามพวกเขาบางคนก็อาจแทบไม่รู้เลยว่ามันมีจุดเริ่มต้นมาจากไหน บ้างก็คิดว่าเดิมทีเป็นร่มที่นำเข้าจากต่างประเทศตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ ซึ่งความจริงแล้วถิ่นกำเนิดของมันไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล แต่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นนี่แหละ

ที่มาของร่มพลาสติกใส จะต้องย้อนกลับไปในช่วงยุค 1940 โดยในสมัยนั้นชาวญี่ปุ่นจะให้ความนิยมกับร่มที่ทำจากผ้า จำพวก ป่าน ฝ้าย หรือ ไหม ซึ่งมีความสวยงามและง่ายต่อการย้อมสี ทว่าเมื่อมันถูกใช้ในเวลาฝนตกบ่อย ๆ สีบนร่มจะเกิดการละลายและตกลงมาโดนเสื้อ ทำให้เสื้อผ้าเปื้อนสกปรก บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่มีนามว่า White Rose จึงคิดค้นนำพลาสติกซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับที่ใช้เป็น ผ้าปูโต๊ะของทหารฝ่ายสัมพันธมิตร มาทดลองทำเป็นผ้าคลุมร่ม ซึ่งมันก็ช่วยแก้ปัญหาร่มเปียกหรือสีตกได้เป็นอย่างดี และด้วยประสิทธิภาพด้านการใช้งาน ผ้าคลุมร่มของบริษัทจึงเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากของผู้คนในยุคนั้น

จนกระทั่งในปี 1955 บริษัทต้องรับมือกับการมาของร่มยุโรปที่ผลิตจากวัสดุผ้าไนลอน ที่มีประสิทธิภาพกันน้ำได้ดีกว่า ซึ่งพวกเขาก็ได้พยายามพัฒนาออกแบบเพื่อสร้างร่มพลาสติกเป็นของตัวเองมาแข่งขันในตลาดร่ม ซึ่งก็ทำจนแล้วเสร็จในปี 1958 โดยรูปร่างหน้าตาของมันจะยังคงเป็นร่มที่มีสีขาวขุ่น ๆ อยู่ ส่วนกระแสตอบรับก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่นัก

จุดเปลี่ยนสำคัญได้เริ่มในปี 1959 ที่ญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก เมื่อบรรดานักท่องเที่ยวและพ่อค้าชาวอเมริการู้สึกสะดุดตากับร่มขาวขุ่นของทาง White Rose จึงได้ติดต่อเพื่อนำไปขายในนิวยอร์ก ซึ่งมันก็ได้รับการตอบรับจากผู้คนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับลูกค้าสายแฟชั่นที่ถูกใจจนมักนำใช้ในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ขึ้นแสดงบนเวทีแฟชั่นโชว์ เนื่องจากเป็นร่มที่ดูเข้ากับเสื้อผ้าหลายรูปแบบ จนฮิตกลายเป็นกระแส และได้รับการพัฒนาต่อกลายเป็นร่มพลาสติกใส ก่อนที่ชาวญี่ปุ่นจะให้ความนิยมตามมาจนถึงยุคปัจจุบัน

เวลานี้ร่มพลาสติกใสก็ยังคงเป็นที่แพร่หลายของชาวญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นร่มที่เข้ากับผู้คนได้ทุกรูปแบบ แอบมีความสดใสสวยงามอยู่ในตัวถึงแม้จะไม่มีสีอยู่เลยก็ตาม อีกทั้งยังมีร่มหลายเกรดหลายราคาให้เลือกซื้อตามความสะดวกของลูกค้า จึงไม่แปลกที่เวลามีฝนหรือหิมะตก เราจะพบเห็นร่มพลาสติกใสได้อยู่เกือบทุกที่ ประเทศไทยของเรานั้นมีการใช่ร่มที่หลากหลายแบบมาก เช่น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มกลับด้าน เป็นต้น