5 ลักษณะการออกแบบร่มกอล์ฟ ให้ดูสวยงาม พรีเมี่ยมกว่าร่มสำหรับใช้งานทั่วไป

หากจะให้แบ่งประเภทของร่มแบบถือใช้งาน(พกพา) ก็แน่นอนว่าเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือร่มสำหรับใช้งานทั่วไปอย่าง ร่มพับ ร่มตอนเดียว ที่มีไว้พกพาติดไว้กันแดด กันฝน และร่มกอล์ฟ ซึ่งมีไว้ใช้งานในสนามกอล์ฟ หรือระหว่างการเล่นกีฬากอล์ฟนั่นเอง ทั้งนี้แม้ว่าหน้าตาโดยรวม และประโยชน์ใช้สอยของสินค้าทั้งสองแบบดูจะไม่มีความแตกต่างกัน กล่าวคือมีไว้ใช้กางกันแดด กันฝนเหมือนกัน แต่เมื่อพูดถึงภาพลักษณ์ของตัวสินค้าแล้ว ถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยร่มกอล์ฟนั้นมีภาพลักษณ์ที่ดูพรีเมี่ยมกว่า และเป็นตัวช่วยในการโปรโมทแบรนด์ สื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ที่เฉพาะเจาะจง ขณะที่ร่มสำหรับใช้งานทั่วไปมักจะถูกใช้ในกิจกรรมการตลาดที่เป็นการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์แบบกว้าง ๆ ไม่มีการเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ในบทความนี้จึงได้นำเอา 5 ลักษณะการออกแบบร่มกอล์ฟ ที่จะทำให้ตัวสินค้าออกมาพรีเมี่ยมกว่าสินค้าสำหรับใช้งานทั่วไป เหมาะที่จะใช้เป็นตัวช่วยในการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์แบบเฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายมาแนะนำให้ได้ทราบกัน
ด้ามจับยาวกว่าขนาดมาตรฐานทั่วไป อย่างที่ทราบกันดีว่าในการใช้งานร่มกอล์ฟนั้นมีความแตกต่างจากการใช้ร่มพกพาทั่ว ๆ ไป โดยร่มกอล์ฟเป็นการถือใช้งานในลักษณะถือกางให้ผู้อื่น หรือก็คือแคดดี้เป็นคนถือกางให้ผู้เล่น ขณะที่ร่มพกพาสำหรับใช้งานทั่วไปมักจะเป็นการถือกางใช้งานเอง ดังนั้นหนึ่งในลักษณะการออกแบบที่ต้องคำนึงถึงสำหรับสินค้าใช้งานสนามกอล์ฟ จึงเป็นส่วนของด้ามจับที่ต้องมีความยาวมากกว่าขนาดมาตรฐานของสินค้าใช้งานทั่วไป เพื่อให้ถือกางใช้งานได้อย่างถนัดและมีระดับความสูงที่เหมาะสมนั่นเอง
ใช้สีโทนเข้ม ดังที่กล่าวข้างต้นว่าภาพลักษณ์ของร่มกอล์ฟนั้นมีความแตกต่างจากสินค้าใช้งานทั่วไปอย่างชัดเจน โดยมีความพรีเมี่ยม และดูเรียบหรูกว่า เพื่อให้เหมาะสำหรับการสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์เฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นการเลือกใช้สีของผ้า หรือใบร่ม จึงควรเลือกใช้โทนสีเข้มต่าง ๆ ที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม เช่น สีดำ สีกรม สีบลอนด์ เป็นต้น
ใช้โครงร่มที่มีจำนวนก้าน 24 ก้านขึ้นไป อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ทำให้การออกแบบร่มกอล์ฟมีความแตกต่างจากร่มใช้งานทั่วไปก็คือ ในส่วนของขนาด หรือจำนวนก้านอะลูมิเนียมของโครงนั่นเอง ทั้งนี้สินค้าสำหรับใช้งานกางกันแดดกันฝนทั่วไปนั้น มักจะเลือกใช้โครงที่มีจำนวนก้าน 14, 16 ก้าน แต่สำหรับร่มกอล์ฟ ซึ่งเป็นการใช้งานแบบถือกางให้ผู้อื่นนั้น จำนวนก้านดังกล่าวถือว่าเป็นขนาดที่เล็กเกินไป โดยควรเลือกใช้โครงที่มีจำนวนก้านตั้งแต่ 24 ก้านขึ้นไป
ดีไซน์ระบบเปิดใช้งานให้สามารถกางใช้งานได้อย่างสะดวก ในการเปิดหรือกางใช้งานร่มทั่วไปนั้น มักจะเป็นระบบก้านกดสำหรับร่มตอนเดียว ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้แรงกดก้านมากหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้าที่ผ่านการใช้งานมาสักพักแล้ว ขณะที่ร่มแบบ 3 ตอน 5 ตอนอาจจะต้องใช้วิธีดันแกนกลางขึ้นไป หรือก็คือต้องใช้สองมือช่วยจับเพื่อกางใช้งาน ซึ่งนับว่าเป็นระบบการเปิดใช้งานที่ไม่ค่อยสะดวกนัก ดังนั้นในการออกแบบร่มกอล์ฟจึงควรเลือกดีไซน์ให้ระบบเปิดใช้งานทำได้อย่างสะดวกด้วยมือเดียว โดยอาจะเป็นระบบทัช หรือออกแรงกดเบา ๆ ที่ด้ามจับ ซึ่งจะช่วยให้ตัวสินค้าออกมาพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น
ใช้เทคนิคทูโทนดีไซน์ใบร่ม อีกหนึ่งลักษณะการออกแบบที่จะช่วยให้ร่มกอล์ฟออกมามีความโดดเด่น สะดุดตากว่าดีไซน์พรีเมี่ยมมาตรฐานก็คือ การใช้โทนสีใบร่มแบบทูโทน ตัดกันระหว่างช่องใบร่มนั่นเอง ตัวอย่างเช่น สีขาวสลับกรม, ขาวสลับดำ เป็นต้น ดีไซน์แบบนี้จะช่วยให้ตัวร่มดูโดดเด่น และดึงความสนใจจากสายตาผู้คนได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพื้นที่กลางแจ้งอย่างสนามกอล์ฟ