องค์ประกอบที่ใช้ในการกำหนดราคาร่ม

ร่ม เป็นอุปกรณ์ที่มนุษย์นั้นผลิตเอาไว้เพื่อใช้งานสำหรับการกันแดดกันฝนและเพื่อใช้งานประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ซึ่งร่มนั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศทั่วโลก และมีการพัฒนาร่มมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งร่มแต่ละรูปแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มกลับด้านหรือว่าร่มสนาม ต่างก็มีราคาในการจำหน่ายที่แตกต่างกัน แล้วทราบไหมคะว่า การตั้งราคาของร่มนั้น มีหลักการอย่างไรบ้างในการกำหนดราคาของร่มว่าจะต้องกำหนดอยู่ที่ราคาเท่าไหร่

อันดับแรกนั้น หลาย ๆ คนอาจจะทราบดีอยู่แล้วว่าร่มนั้น มีการใช้วัสดุในการผลิตที่หลากหลายอย่างมาก ทั้งไม้ เหล็ก อลูมิเนียม ซึ่งแน่นอนว่า วัสดุต่าง ๆ นั้น ก็มีราคาของต้นทุนที่แตกต่างกันเช่นกัน นอกจากวัสดุของตัวก้านแล้วก็ยังมีวัสดุของผ้าที่ใช้ในการผลิตร่มที่แตกต่างกัน ดังนั้น วัสดุต่าง ๆ นั้นจึงมีผลอย่างมากในการกำหนดราคาของร่มที่วางจำหน่ายนั่นเอง

นอกจากวัสดุที่เป็นองค์ประกอบหลัก ๆ แล้วนั้น รูปแบบและลักษณะของร่มก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะใช้ในการกำหนดราคาของร่มที่จะวางจำหน่ายในตลาด รูปแบบของร่มที่มีการวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดนั้นก็จะมี ร่ม 8 ก้าน ร่ม 16 ก้าน ซึ่งปริมาณของก้านร่มนั้น ก็จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่มนั้น ๆ หมายความว่า ยิ่งคุณภาพและความแข็งแรงของร่มที่มากขึ้นนั้น ราคาของร่มก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ข้อต่อมาคือขนาดของร่ม เพราะร่มแต่ละประเภทที่ใช้งานนั้นก็จะมีขนาดที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 14 นิ้ว  18 นิ้ว 21 นิ้ว ไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงขนาดสูงสุด 38 นิ้ว ซึ่งแน่นอนว่าร่มที่มีขนาดเล็กกว่าย่อมมีราคาที่ต่ำกว่าร่มที่มีขนาดใหญ่กว่า เพราะมีประโยชน์ในการใช้งานที่คลอบคลุมมากกว่านั่นเอง

องค์ประกอบต่อมาที่มีความสำคัญอย่างมากเช่นกันในการกำหนดราคาของสินค้า ซึ่งองคือประกอบข้อนี้นั้น เป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ช่วยให้ราคาของสินค้านั้นมีความเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือจำนวนในการซื้อ เพราะอย่างที่หลาย ๆ  คนทราบกันดีว่า หากเราซื้อสินค้าในปริมาณที่มากขึ้น สินค้าต่าง ๆ ก็จะมาราคาที่ถูกลง การเลือกซื้อร่มก็เช่นเดียวกัน เพราะหากเราซื้อร่มในจำนวนที่มากขึ้นนั้น ราคาของร่มที่เราได้ก็จะถูกลงเช่นกัน อย่างเช่นในบางกรณีที่มีผู้ประกอบการมาเหมาซื้อร่มเพื่อนำไปแจกเป็นของขวัญใหกับพนักงาน ร่มเหล่านั้นก็จะมีราคาที่ต่ำกว่าราคาตามท้องตลาด แต่ก็ยังคงเป็นราคาที่ผู้ผลิตร่มยังคงได้กำไรอยู่นั่นเอง

ข้อสุดท้าย ที่มีผลต่อการกำหนดราคาร่มก็คือ ปัจจัยทางการค้าที่สำคัญ หรือพูดง่าย ๆ ว่า ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเพิ่มราคาของร่ม เช่น พ่อค้าคนกลาง ค่าเช่าที่ ค่าขนส่ง ค่าแรงต่าง ๆ ซึ่งเหตุเหล่านี้นั้น เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ราคาของร่มนั้นมีความแปรผันไปจากราคาโรงงาน เพราะว่าการจำหน่ายตามโรงงานส่วนใหญ่นั้นมักจะเน้นเป็นการขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลาง เพื่อให้พ่อค้าคนกลางนั้นนำไปจำหน่ายต่อ ซึ่งหากเราสามารถซื้อได้จากพ่อค้าคนกลางโดยตรง เราก็อาจจะได้ร่มที่มีราคาต่ำหน่อย แต่หากว่าเราซื้อจากพ่อค้า – แม่ค้า ที่รับสินค้ามาจากพ่อค้าคนกลางอีกทอดหนึ่ง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าสินค้าเหล่านั้นก็อาจจะมีการเพิ่มทุนในเรื่องค่าแรง ค่าเช่าสถานที่ ค่าขนส่งสินค้า รวมถึงค่าบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ราคาของร่มนั้นก็อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามอุปสงค์หรืออุปทานของสินค้าในช่วงนั้นด้วยเช่นกัน