ร่มราคาต่างกัน มีอะไรที่ต่างกันบ้าง

หากเราต้องการซื้ออุปกรณ์สามัญประจำบ้านอย่างร่ม สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนหยิบมาพิจารณา เช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว เป็นต้น นอกจากเรื่องของลักษณะการใช้งานที่เราจะนำไปใช้ รูปแบบหรือรูปทรงของร่ม อีกปัจจัยหนึ่งที่ อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าเราจะซื้อหรือไม่ซื้อดีคือเรื่องของราคา แน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นของใช้ทั่วไป มีอยู่ด้วยกันหลายเกรด ดังนั้นราคาจึงแตกต่างกันออกไปด้วย

คำถามต่อมาก็คือ ปัจจัยใดที่ทำให้ราคาของอุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้นั้นแตกต่างกัน จะแค่เรื่องขนาด หรือลักษณะการใช้งานหรือไม่ หรือมีปัจจัยใดที่ทำให้มันแตกต่างกันอีก วันนี้เราจะมาดูกัน ว่าร่มราคาแตกต่างกัน มีปัจจัยใดที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาสำหรับใครที่อยากจะซื้อหามาไว้ใช้เอง หรือสำหรับบริษัท หรือองค์กรที่อยากจะนำร่มมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม

รูปแบบและลักษณะ

เราน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าร่มมีลักษณะที่แตกต่างกันมากมายในท้องตลาด ทั้งในเรื่องของขนาดที่แตกต่างกัน วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำที่แตกต่างกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ค่อนข้างส่งผลต่อราคา ยกตัวอย่างให้เห็นอย่างเด่นชัด ยกตัวอย่างเช่นบริเวณก้าน แบบที่มีก้านน้อยกว่า วัสดุที่ใช้ในการทำก็จะน้อยกว่าตามไปด้วย ทำให้มีราคาที่ถูกกว่า หรือบางอันอาจจะมีออพชั่นเสริมบางอย่าง อย่างเช่นพลาสติกสำหรับใช้หุ้มนั้นมีเกรดที่มีคุณภาพแตกต่างกัน หากคุณภาพดีกว่าก็ย่อมที่จะมีราคาแพงกว่าเป็นธรรมดา

ขนาดที่แตกต่างกัน

เรื่องของขนาดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาด้วยเช่นเดียวกัน หากยิ่งเป็นขนาดที่ใหญ่อย่างร่มสนามก็ต้องใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง และมีความทนทานมากกว่า นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ร่มขนาดเล็กนั้นจะมีราคาถูกกว่า แต่อย่างว่าวัสดุที่มีราคาแพงกว่าและแข็งแรงกว่า ก็ย่อมทำให้อุปกรณ์ของเรานั้นมีความแข็งแรงมากกว่าตามไปด้วย อีกทั้งขนาดที่ใหญ่กว่า เรายังนำไปใช้งานได้ ในลักษณะที่กว้างกว่า ยกตัวอย่างเช่นหากแบบ 14 นิ้ว ก็จะมีราคาถูกกว่าร่มสนามแบบ 38 นิ้ว อะไรแบบนี้เป็นต้น

ปริมาณการสั่งผลิต

อันนี้จะเป็นในกรณีของบริษัทหรือองค์กร สำหรับการนำอุปกรณ์ชิ้นนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม ซึ่งสิ่งนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว สำหรับใครที่สั่งโรงงานผลิต หรือแม้แต่การสั่งซื้อ หากเป็นในปริมาณที่มากหรือสูงกว่า แน่นอนว่าย่อมมีค่าใช้จ่ายต่อตัว หรือต่ออันที่จะถูกลง กลับกันหากซื้อในปริมาณที่น้อยกว่า อาจจะต้องจ่ายราคาแพงกว่า อีกอย่างหากสั่งในปริมาณที่มาก ถึงแม้จะใช้วัสดุที่ใช้ในการทำค่อนข้างดีและมีคุณภาพ แต่ค่าเฉลี่ยออกมาก็อาจจะราคาถูกกว่าก็ได้

ของพรีเมี่ยม กับการสกรีนโลโก้

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณี สำหรับบริษัทหรือองค์กร ที่จะนำสิ่งนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมด้วยเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าการจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมนั้น สิ่งสำคัญคือจำเป็นที่จะต้องใส่ชื่อแบรนด์ หรือโลโก้ลงไปในของของเราด้วย ตัวโลโก้นี้เองทำให้ราคาแตกต่างกันได้ด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ขนาดของโลโก้ที่แตกต่างกันก็ทำให้ราคาแตกต่างกันด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ในเรื่องของการกำหนดจุดที่ต้องการนำโลโก้ไปวาง หรือจำนวนสีที่ใช้ในการสกรีน หรืออาจมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยทำให้ราคาแตกต่างกัน เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องนำมาคิดด้วยเช่นเดียวกัน

และเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งผล และมีส่วนเกี่ยวข้องให้ราคาของอุปกรณ์ชิ้นนี้มีความแตกต่างกันออกไป หากบริษัทหรือองค์กรใด อยากจะนำสิ่งนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม ก็ควรที่จะหยิบข้อเหล่านี้มาพิจารณา และลองดูต้นทุนว่าเราไหวเท่าไหร่ เพื่อที่จะไม่เกินงบ และได้ของตามที่เราต้องการได้ด้วย