เทคนิคออกแบบร่มพรีเมี่ยมให้ดูเรียบหรู โดนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
เมื่อพูดถึงสินค้าอย่างร่ม ก็แน่นอนว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะนึกถึงประโยชน์ใช้สอยของตัวสินค้า ซึ่งถือเป็นประโยชน์พื้นฐานที่หลายคนต้องการ เช่น การพกพาไว้กางกันฝน พกไว้กางกันแดด พกไว้ใช้เป็นตัวช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่มาพร้อมกับแสงแดด เป็นต้น เรียกว่าการจะตัดสินใจซื้อร่มมาใช้สักคันก็เพราะต้องการประโยชน์เหล่านี้นั่นเอง หรือพูดกันง่ายๆ ก็คือคนส่วนใหญ่ไม่ได้ตัดสินใจซื้อร่มโดยใช้ปัจจัยเรื่องของดีไซน์ หรือชื่อเสียงแบรนด์เป็นหลัก อย่างไรก็ตามหากเป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการตลาดด้วยนั้นต้องบอกว่ามีความแตกต่างกันออกไป เพราะหน้าตาดีไซน์ของสินค้ามีผลต่อการดึงดูดให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมาสนใจในตัวแคมเปญที่บริษัท หรือองค์กรของเราต้องการโปรโมท ร่มที่ถูกดีไซน์ให้ออกมาสวยงาม มีสไตล์แมตช์กับรสนิยมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจึงมีแนวโน้มที่จะให้ผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดีกว่า เพราะร่มในปัจจุบันมีสี และรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ร่มพับ 2 ตอน ร่ม 16 ก้าน ร่มตอนเดียว ในบทความนี้จึงได้นำเอาเทคนิคการออกแบบร่มพรีเมี่ยมสไตล์เรียบหรู หนึ่งในสไตล์ที่แมตช์ได้กับรสนิยมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายขนาดใหญ่มาแนะนำให้หลายคนได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการออกแบบสินค้าพรีเมี่ยมของตัวเองกัน
เลือกใช้สีที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมในตัว อย่างที่ทราบกันดีว่าร่มถือเป็นสินค้าที่ดีไซน์มีความสัมพันธ์กับการเลือกใช้สีสันค่อนข้างมาก เพราะเมื่อกางออกใช้งาน ตัวผ้า หรือใบร่มจะมีพื้นที่ค่อนข้างมาก สีสันของตัวสินค้าจึงสังเกตเห็นได้ง่าย และมีอิทธิต่อการกำหนดความรู้สึกของผู้ที่พบเห็นได้มากกว่าสินค้าที่มีขนาดเล็ก ซึ่งสีที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม เรียบหรูในตัวเองก็มีอย่างเช่น สีดำ สีกรมท่า สีขาวครีม นอกจากนี้ก็อาจนับรวมถึงสีที่ให้ความเรียบหรูตามยุคสมัย อย่างในปัจจุบันก็มี สีเขียวโอลีฟ สีโทนพาสเทล เป็นต้น
ใช้วัสดุไม้ทำด้ามจับ โดยทั่วไปแล้ววัสดุที่ใช้ทำร่มคันนึงมักจะประกอบไปด้วยผ้าร่ม โครงอลูมิเนียม และพลาสติกสำหรับทำด้ามจับ ซึ่งตัวผ้า และโครงอลูมิเนียมถือเป็นวัสดุที่ค่อนข้างตายตัว ยากที่จะเลือกใช้วัสดุชนิดอื่นทดแทน แต่สำหรับด้ามจับนั้นนอกจากพลาสติกแล้วเรายังสามารถเลือกใช้วัสดุชนิดอื่นที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมและเรียบหรูมากกว่าได้ ซึ่งหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้หน้าตาสินค้าออกมาสวยหรูขึ้นก็คือ ไม้ หรือไม้เทียมที่มีการตกแต่งลวดลายไม้ธรรมชาตินั่นเอง เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าในความรู้สึกของผู้บริโภคส่วนใหญ่แล้ว ไม้ถือเป็นวัสดุที่มีมูลค่า และมีความสวยงามแข็งแรงมากกว่าวัสดุพลาสติก ดังนั้นหากสินค้าชิ้นใดเลือกใช้วัสดุไม้เป็นส่วนประกอบส่วนใดส่วนนึงแทนที่จะเป็นพลาสติกที่มีราคาถูกกว่าก็มักจะถูกมองว่าเป็นสินค้าที่มีการใส่ใจในการออกแบบ และมีคุณภาพการผลิตดีกว่าสินค้าเกรดทั่วๆไป
ไม่สกรีนข้อความลงบนตัวร่มมากเกินไป หนึ่งในหลักการพื้นฐานการออกแบบสินค้าให้มีสไตล์เรียบหรูก็คือการทำให้หน้าตาสินค้าดูเรียบๆ และไม่พยายามยัดเยียดดีไซน์ หรือการสื่อสารไอเดียใดๆ ลงบนตัวสินค้ามากเกินไปนั่นเอง ดังนั้นแม้ว่าร่มจะเป็นสินค้าที่มีพื้นที่ให้เราได้สื่อสารไอเดีย แคมเปญต่างๆ มาก แต่หากต้องการให้สินค้าออกมามีหน้าตาที่เรียบหรูก็ไม่ควรสื่อสารด้วยการพิมพ์ หรือสกรีนข้อความต่างๆ ลงบนใบร่มมากเกินไป โดยอาจเลือกใช้เพียงชื่อ โลโก้องค์กร และข้อความที่เป็นใจความหลักของแคมเปญนั้นๆ สักหนึ่งประโยค เทคนิคการออกแบบนี้อาจจะทำให้เราเสียประโยชน์ในการใช้พื้นที่ของตัวสินค้า แต่เมื่อแลกกับหน้าตาสินค้าที่จะออกมาสวยงามเรียบหรู ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มาสนใจในแคมเปญการตลาดนั้นๆ ขององค์กรได้ก็ต้องถือว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน