วิธีการในการวัดขนาดของร่ม

ร่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายขนาดและหลากหลายรูปแบบ การที่เราจะเลือกซื้อร่มแต่ละแบบนั้น แน่นอนว่าลักษณะการใช้งานที่เราจะนำไปใช้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะเลือก แต่อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ที่เราจำเป็นจะต้องดูเมื่อเราต้องการจะเลือกซื้อร่มสักคัน คือในเรื่องของขนาด โดยเฉพาะร่มที่เรามักจะนำมาใช้ในการออกงาน หรือที่เรียกว่าร่มสนาม เพราะหากเราซื้อมามีขนาดไม่พอดี ใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป เราก็อาจที่จะมีปัญหาในการใช้งานได้

 

ดังนั้นเราจะมาว่ากันด้วยเรื่อง การวัดขนาดร่ม ว่าเราจะสามารถวัดขนาดร่มอย่างไร เพื่อที่สามารถซื้อมาให้ถูกลักษณะการใช้งาน และสะดวกสบายในการพกพาหรือขนย้ายอีกด้วย ในที่นี้จะขอเน้นไปที่แบบสนาม แบบที่นิยมขนย้ายไปไหนมาไหนได้บ่อยๆ เพื่อใช้ในการออกบูธ หรือใช้ในการทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ดีอย่างเช่น ร่มกอล์ฟ ร่มพับ ร่มตอนเดียว และร่มอื่นๆอีกมากมาย

 

เราจะสังเกตแบบอื่นๆ นั้นจะมีหลากหลายขนาดให้เราเลือกกันอยู่แล้ว แต่แบบสนามนั้น เป็นแบบที่เราจำเป็นต้องวัดอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่เราจะทำการหาซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเราต้องการสั่งทำเป็นพิเศษจากบริษัทมืออาชีพที่เขารับผลิตอยู่

 

วัดขนาดตามความโค้งของร่ม

 

อันดับแรกเลยที่เราจะต้องมาให้ความสำคัญคือ เราควรวัดความโค้ง ขั้นตอนแรกให้เราทำการกางร่มเอาไว้ก่อน จากนั้นก็ทำการวางลงบนพื้นโดยที่วางนอนลงไปเลย ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เราวัดขนาดได้ง่ายขึ้น ใช้สายวัดในการเริ่มวัดจากปลายบนสุด แล้วค่อยๆ ปล่อยให้สายวัดโค้งตามตัวลงมาจนถึงบริเวณปลาย การวัดทุกกรณี อาจจะทำการวัด แล้วออกมาคลาดเคลื่อนได้นิดหน่อย ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขอเพียงให้ได้ขนาดที่ใช่พอสังเขปก็เป็นพอ

 

วัดจากบริเวณโครงไปถึงปลาย

 

อันนี้จะใช้ในกรณีของแบบสนามที่มีขนาดใหญ่ ที่เราจะนำมาใช้ออกงาน อย่างแรกคือเราจะประกอบ บริเวณลำตัวเข้ากับแกน จากนั้นก็จะนำไปเสียบเข้ากับขาตั้งพื้น และทำการกางออก จากนั้นเราจะใช้สายวัดขึ้นมาโดยเริ่มจากบริเวณโครง แล้วลากออกมายังบริเวณปลายฝั่งไหนก็ได้ตามแต่ถนัด เพราะรัศมีจะเท่ากันทั้งหมด แต่ข้อสังเกตที่สำคัญของการวัดด้วยวิธีนี้คือ อาจจะต้องใช้ 2 คนในการช่วย เพราะจะต้องมีหนึ่งคนถือสายวัดอยู่ ส่วนอีกคนจะเดินออกมาจากบริเวณโครงไปยังบริเวณปลายนั่นเอง

 

วัดจากบริเวณบนสุดจนถึงปลายสุด

 

วิธีนี้เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่ใช้ในการวัดขนาด โดยสามารถที่จะทำได้ด้วยตัวคนเดียวไม่ต้องมีคนช่วยแต่อย่างใด เราไม่จำเป็นต้องการออก หรือมาประกอบให้เสียเวลา หรือแม้แต่การนำมาเสียบกับขาตั้งก็ไม่ต้อง เราเพียงแค่ต้องนำอุปกรณ์ของเราออกมาจากซองพลาสติกเสียก่อน จากนั้นนำมาวางให้มีความระนาบกับพื้น แล้วนำสายวัดออกมาวัดจากบริเวณบนสุด จนถึงบริเวณปลายสุดด้านล่าง เพียงเท่านี้เราก็จะได้ผลลัพธ์ของการวัดขนาดกันเรียบร้อยแล้ว โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลามากมายเลย เป็นวิธีการที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดที่เราจะวัดขนาดได้

 

สรุปแล้ว การวัดขนาดก็มีอยู่มากมายหลากหลายวิธี และการรู้การวัดขนาดนี้เรารู้ไปเพื่ออะไร หากเราจะซื้อนำมาใช้งานภายในบ้านก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่หากความต้องการใช้งานอย่างจริงจัง ใช้งานภายในองค์กร หรือซื้อทีละมากๆ และต้องการให้โรงงานผลิตออกมาอย่างตรงตามที่เราต้องการ การวัดขนาดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้เราได้ของที่ถูกใจและมีคุณภาพด้วย