CALL CENTER
    02-408-1377 (อัตโนมัติ 10 คู่สาย)

    blog

    เทคนิคเลือกออกแบบ สั่งผลิตร่มสนาม และร่มขนาดใหญ่สำหรับใช้งานกลางแจ้ง

      เมื่อพูดถึงการออกแบบ และสั่งผลิตร่มพรีเมี่ยมสักอัน แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่เรามักจะนึกถึงร่มลักษณะใช้งานเดี่ยว ซึ่งก็คือแบบที่ใช้กางกันแดด กันฝนทั่วไปที่สามารถพับเก็บพกพาไปไหนมาไหนได้ ทว่าในบริบทการใช้งานจริงยังมีร่มอีกประเภทที่มีประโยชน์การใช้งานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน...

    เมื่อพูดถึงการออกแบบ และสั่งผลิตร่มพรีเมี่ยมสักอัน ไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ หรือ ร่มตอนเดียว แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่เรามักจะนึกถึงร่มลักษณะใช้งานเดี่ยว ซึ่งก็คือแบบที่ใช้กางกันแดด กันฝนทั่วไปที่สามารถพับเก็บพกพาไปไหนมาไหนได้ ทว่าในบริบทการใช้งานจริงยังมีร่มอีกประเภทที่มีประโยชน์การใช้งานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ซึ่งก็คือร่มสนาม และร่มขนาดใหญ่ต่างๆ ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้เอื้อต่อการพกพา โดยจะเน้นการใช้งานเฉพาะจุด และรองรับจำนวนคนใช้งานพื้นที่ได้มากกว่า และจะว่าไปแล้วหากมองในแง่ของประโยชน์ทางการตลาด ประเภทหลังนี้ดูจะเหมาะสำหรับทำเป็นของพรีเมี่ยมมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะด้วยขนาดของตัวสินค้าที่ใหญ่ และลักษณะการใช้งานที่มีความเป็นสาธารณะกว่า จึงกระตุ้นให้แบรนด์ หรือข้อความใดๆที่ถูกพิมพ์ไว้บนตัวสินค้าได้รับการจดจำจากผู้คนได้ดีกว่า ในบทความนี้จึงได้เลือกนำเอาเทคนิคการออกแบบ สั่งผลิตร่มสนาม และประเภทใช้งานกลางแจ้งต่างๆที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งมีความแตกต่างไปจากการแบบพกพามาบอกกล่าวให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางในการทำสินค้าชิ้นนี้เป็นของพรีเมี่ยมให้บริษัท หรือองค์กรตัวเองกัน

     

    ออกแบบโดยคำนึงถึงสัดส่วนพื้นที่ตัวสินค้า ความแตกต่างที่ชัดเจนอย่างนึงของร่มสนาม กับแบบพกพาก็คือขนาดนั่นเอง ดังนั้นในการออกแบบสิ่งสำคัญก็คือการคำนึงถึงสัดส่วนที่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ของตัวสินค้า เพื่อให้หน้าตาโดยรวมของสินค้าออกมามีความสมดุล ว่ากันง่ายๆ ก็คือไม่ควรก๊อปปี้ดีไซน์ของร่มพกพาขนาดเล็กมาใช้นั่นเอง แม้ว่าที่ผ่านมาเราอาจจะเคยดีไซน์ร่มพกพาพรีเมี่ยมที่ออกมาสวยงามถูกใจก็ตาม ทั้งนี้หากต้องการใช้ดีไซน์เดิมเป็นต้นแบบเพื่อให้สินค้าพรีเมี่ยมแต่ละชิ้นของบริษัทเราออกมามีหน้าตาแมตช์กันก็ควรคำนวณสัดส่วนพื้นที่ใหม่ เพื่อที่จะสามารถใส่องค์ประกอบต่างๆ ลงไปได้อย่างลงตัว ไม่ดูขาด หรือล้นจากพื้นที่สินค้าจริง

     

    เลือกใช้ผ้าให้เหมาะสม หากเป็นร่มขนาดเล็ก นอกจากคุณสมบัติพื้นฐานอย่างการใช้ผ้าที่กันน้ำได้แล้ว เราอาจจะเลือกผ้าประเภทที่มีน้ำหนักเบา และคืนตัวได้ดี เนื่องจากต้องคำนึงถึงความสะดวกในการพกพา และพับเก็บเมื่อไม่ใช้งาน แต่สำหรับร่มขนาดใหญ่ ร่มสนามนั้นไม่มีความจำเป็นต้องพกพา เนื่องจากโดยลักษณะการใช้งานจะเป็นการเคลื่อนย้ายเป็นครั้งคราว ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกผ้าที่ใช้ผลิตจึงแตกต่างออกไป โดยควรคำนึงถึงความทนทาน และประสิทธิภาพในการกันแดด กันฝน และรังสียูวีต่างๆ เป็นหลัก ตัวอย่างผ้าแนะนำที่เหมาะจะนำมาใช้ก็คือ ผ้า Texsilk, ผ้า Kunilon เป็นต้น ผ้าทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความทนทาน และประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวี ส่วนผ้าที่ไม่แนะนำ เรียกได้ว่าควรหลีกเลี่ยงนำมาใช้ก็คือ ผ้าไนล่อน ซึ่งถือเป็นผ้าที่มีจุดเด่นเรื่องความสวยงามของเนื้อผ้า แต่มีข้อเสียเรื่องความทนทาน ฉีกขาดง่าย และประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีที่ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับผ้าสองแบบที่แนะนำ

     

    ความสะดวก มั่นคงแข็งแรงในการตั้งวาง อย่างทราบกันดีว่าลักษณะการใช้งานร่มสนามจะเป็นการตั้งวางอยู่กับที่ ดังนั้นจุดนึงที่ต้องให้ความสำคัญในการเลือกออกแบบ และผลิตร่มประเภทนี้ก็คือ ความสะดวกในการตั้งวาง และความมั่นคงแข็งแรงของตัวฐาน โดยวัสดุที่ใช้ทำฐานควรมีน้ำหนักประมาณนึงเพื่อให้สามารถทานต่อแรงลม หรือแรงกระทบต่างๆ ที่อาจทำให้ร่มโอนเอนได้เพื่อไม่ให้ร่มล้มลงขณะตั้งวางใช้งาน นอกจากนี้ก็อาจใช้เทคนิคออกแบบอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงมั่นคงให้กับตัวฐานเพิ่มได้ เช่น ออกแบบให้ฐานมีความกว้างมากกว่าขนาดมาตรฐานทั่วไปสักเล็กน้อย เป็นต้น เพราะโดยทั่วไปมักจะออกแบบส่วนฐานให้มีขนาดที่เล็ก เพื่อความสะดวกในการใช้สอยพื้นที่ใต้ร่มเป็นหลัก แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ความมั่นคงแข็งแรงของตัวฐานมีไม่มากและโอนเอนต่อแรงลม แรงกระทบต่างๆได้ง่าย

     

    ทำความรู้จัก ร่มกลับด้าน

    ร่ม นับว่าเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ ที่ใครหลายคนมักจะพกติดตัวกันอยู่เสมอ บางคนใช้อุปกรณ์สำคัญสิ่งนี้ในการกันแดด บางคนใช้ในการกันฝน อีกทั้งยังมีร่มอีกมากมายหลากหลายรูปแบบ ที่สามารถที่จะหยิบมาใช้งานได้อย่างหลากหลาย ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานเพิ่มเติมได้...

    ร่ม นับว่าเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ ที่ใครหลายคนมักจะพกติดตัวกันอยู่เสมอ บางคนใช้อุปกรณ์สำคัญสิ่งนี้ในการกันแดด บางคนใช้ในการกันฝน อีกทั้งยังมีร่มอีกมากมายหลากหลายรูปแบบ เช่น ร่มตอนเดียว หรือ ร่มพับ ที่สามารถที่จะหยิบมาใช้งานได้อย่างหลากหลาย ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานเพิ่มเติมได้ อย่างรวมในรูปแบบของไม้เท้า ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ ด้วยเหตุนี้เอง หลายคนจึงนิยมพกอุปกรณ์ชนิดนี้ติดบ้าน หรือไม่ก็เอาติดรถไว้ด้วยอยู่ตลอดเวลา

     

    และอย่างที่บอกไปแล้วว่า ร่มนั้นถูกประดิษฐ์ออกมามากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีความแตกต่างและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน และวันนี้จะมานำเสนอร่มแบบหนึ่ง เป็นแบบที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในช่วงหนึ่งเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบันก็เห็นผู้คนหยิบมาใช้งานอยู่บ้าง นั่นคือประเภทของ ร่มกลับด้าน เราจะมาทำความรู้จักกัน ว่ามีลักษณะอย่างไร มีการใช้งานที่แตกต่างจากแบบอื่นๆ มากน้อยขนาดไหน เผื่อคุณอยากจะได้ร่มแบบนี้ไว้สักคัน จะได้ไปซื้อมาติดบ้าน หรือที่สำคัญเลยคือ ซื้อมาติดรถไว้

     

    ลักษณะของร่มกลับด้าน

     

    ร่มกลับด้านนี้ จะมีลักษณะทั่วไปที่ดูคล้ายคลึงกับแบบทั่วไปเป็นอย่างมาก หากมองภายนอกเพียงแค่ผิวเผิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ลักษณะที่แท้จริงนั้นกลับแตกต่างกันออกไปเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น บริเวณด้ามจับนั้น จะอยู่ในรูปแบบของปลายร่ม ส่วนบริเวณปลายนั้น จะมีลักษณะที่บ้านออกอยู่ด้านบน ซึ่งหากมองดูดีๆ แล้วมันจะมีการกลับด้านกันอยู่ ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดที่มีความแตกต่างจากแบบปกติทั่วไป ที่มีบริเวณปลายหุบ และบริเวณด้ามจับมีลักษณะบานออก นั่นเองทำให้ อุปกรณ์ชนิดนี้ ถูกเรียกว่าแบบกลับด้านนั่นเอง

     

    การคิดค้นและการใช้งาน

     

    แบบกลับด้านนี้ เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เราสามารถหยิบมาใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนั้น คนส่วนใหญ่จะพกแบบกลับด้านนี้ติดรถกันไว้ ซึ่งสามารถทำให้ง่ายต่อการใช้งานกว่าแบบปกติเป็นอย่างมาก นอกจากที่จะสามารถกันฝนได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสามารถกันแดดได้อีกด้วย และจุดเด่นที่สำคัญ ที่แบบปกติหรือแบบอื่นๆ ไม่สามารถที่จะทำได้เลย คือลักษณะการหุบ หรือการเก็บที่เป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก โดยจะมีลักษณะบานออกไปด้านนอก เพื่อให้น้ำฝนที่เกาะอยู่บริเวณผ้า ไม่ไปกระเด็นโดนผู้ใช้งาน อีกทั้งจุดเด่นอีกอย่างคือ จะมีสีสันที่สดใหม่ และสวยงามอยู่นานกว่าแบบปกติ เหตุผลนั้นเป็นเพราะ บริเวณของด้านนอกเมื่อกลางออกนั้น หากเรานำมาหุบเก็บ มันจะเข้าไปอยู่ด้านใน ทำให้ส่วนบริเวณนั้นไม่โดนแดด นี่เองจึงทำให้ มีสีสันที่สดใสและดูเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา

     

    ข้อดี

     

    ข้อดีที่เห็นได้ชัดและมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก คือสามารถช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้งานมากเลยทีเดียว เราเพียงแค่ทำการยื่นบริเวณส่วนปลายออกมานิดเดียว เราก็สามารถที่จะกางออกได้อย่างง่ายดาย เราไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการกาง เหมือนแบบปกติหรือแบบทั่วไปเลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญนอกจากตอนกางแล้ว ตอนที่เราทำการเก็บหรือทำการหุ้น ฝนก็จะไม่กระเด็นมาโดนเรา ทำให้เราไม่จำเป็นต้องกังวลว่ารถของเราจะเปียก หรือตัวของเราจะเปียกเลย

     

    ข้อดีอีกข้อก็คือ หลายคนน่าจะคิดว่าแบบกลับด้านนี้คงจะมีราคาแพง แต่แท้จริงแล้ว ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด แบกหลักร้อยก็สามารถที่จะหาได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าเราจะซื้อมาใช้งานด้วยตัวเอง หรือซื้อเพื่อนำไปเป็นของขวัญให้ผู้อื่น ไม่ว่าอย่างไรก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก

    ร่ม กับการนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยม กระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี

    ในปัจจุบันนั้น การโฆษณานับว่ามีความสำคัญต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีส่วนในการช่วยเพิ่มยอดขาย และทำกำไรให้กับแบรนด์ได้ โดยแต่ละแบรนด์นั้นก็มีกรรมวิธีหลากหลาย และมีความแตกต่างกันออกไปในการโปรโมทแบรนด์ หรือโปรโมทสินค้าภายใต้ชื่อแบรนด์...

    ในปัจจุบันนั้น การโฆษณานับว่ามีความสำคัญต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีส่วนในการช่วยเพิ่มยอดขาย และทำกำไรให้กับแบรนด์ได้ โดยแต่ละแบรนด์นั้นก็มีกรรมวิธีหลากหลาย และมีความแตกต่างกันออกไปในการโปรโมทแบรนด์ หรือโปรโมทสินค้าภายใต้ชื่อแบรนด์ วิธีการหนึ่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ในการโปรโมตแบรนด์ คือการนำของต่างๆ มาทำเป็นของพรีเมียมสำหรับใช้ในการแจกลูกค้า หรือสมนาคุณลูกค้า หรือแม้แต่เป็นการขอบคุณพนักงานด้วยเหมือนกัน

     

    เราจะเห็นได้ชัดจากหลายบริษัท หรือหลายแบรนด์กันอยู่แล้วว่า กลยุทธ์การใช้ของพรีเมี่ยมเหล่านี้ สามารถที่จะกระตุ้นยอดขายได้จริง เนื่องจากเป็นเหมือนการโฆษณาแบรนด์ของตนเอง กล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว มีของชิ้นหนึ่งที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก กับการนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยม และสร้างการมองเห็นในหมู่มาก เนื่องจากเป็นของที่ผู้คนจะหยิบมาใช้งานได้ในทันที และหยิบมาใช้งานกันอยู่ตลอดด้วย เรากำลังพูดถึงร่ม อุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ และถูกหยิบมาโฆษณาอยู่บ่อยๆ ดังนั้นวันนี้เราจะมารู้จักกับร่ม ในมุมของการนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยม เพื่อใช้สำหรับกระตุ้นยอดขาย และสร้างการรู้จักในแบรนด์มากขึ้น

     

    ร่ม กับการใช้เป็นสื่อในการโฆษณา

     

    ร่มนั้น เรียกได้ว่าถูกใช้เป็นสื่อหนึ่งในการทำการตลาด และใช้เพื่อการโฆษณาได้เป็นอย่างดี มันสามารถที่จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ โดยที่ทางแบรนด์ไม่จำเป็นต้องลงทุนกับพื้นที่โฆษณาได้เลย และเปรียบเสมือนการลงทุนครั้งเดียว ก็สามารถที่จะใช้งานสิ่งนี้ได้แบบยาวๆ สามารถที่จะเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายได้ ใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณามากขึ้น อย่างน้อยก็หักเทียบกับวิธีการอื่นๆ

     

    การเลือกร่ม สำหรับใช้ในการโฆษณาแบรนด์

     

    อย่างที่บอกว่าร่มเป็นตัวเลือกที่ดี ที่จะนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยม และใช้ในการโฆษณาแบรนด์ด้วย แต่ก็มีข้อกำหนดบางอย่างที่อยากจะมาแนะนำ

     

    อย่างแรกให้เรานึกถึงคอนเซปต์ก่อน การทำตรงตามคอนเซปต์ จะช่วยให้งาน หรือสิ่งอื่นง่ายขึ้นมาก เราต้องเข้าใจ ว่าเราทำไปเพื่ออะไร และมีการวางแผนอย่างไร กลุ่มเป้าหมายลูกค้าของเราเป็นใคร และมีกรอบเวลา หรือกำหนดสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ต่อไปเป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือในเรื่องของสี เราอยากให้ร่มของเรามีสีอะไร ซึ่งโดยส่วนมากนั้น ผู้คนก็มักนิยมใช้สีเดียวกับแบรนด์ หรือสีเดียวกับสีของบริษัท เนื่องจากทำให้ระลึกถึงแบรนด์หรือบริษัทของเราได้ง่ายดายมากที่สุด

     

    การสร้างความแตกต่างก็เป็นสิ่งสำคัญ อาจจะเริ่มต้นด้วยการออกแบบที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร อาจมีการใส่รูปภาพ ข้อความ โลโก้ หรืออาจมีการดัดแปลง และมีการออกแบบที่สะดุดตามีเอกลักษณ์มากกว่านั้น ก็สามารถที่จะทำได้ด้วยเช่นกัน แต่อย่าลืมว่า การสร้างความแตกต่างเป็นสิ่งที่จะดึงดูดลูกค้าของเรา หากในท้องตลาดมีของแบบเดียวกันทั้งหมดในปริมาณที่มาก การสร้างของที่แตกต่างอย่างหนึ่ง อาจเป็นการดึงดูดลูกค้า เข้ามาได้มากเลยทีเดียว

     

    ราคาและคุณภาพ สองสิ่งนี้มาด้วยกัน และเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ บางองค์กรหรือบางบริษัทนั้น อาจจะเลือกร่มมาทำจริง แต่กลับใช้แบบที่มีคุณภาพต่ำราคาถูก แบบนี้ใช้ไม่กี่ครั้งก็น่าจะพังแล้ว และแน่นอนว่า จะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับผู้รับ และส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างแน่นอน ดังนั้นข้อนี้ก็เป็นข้อสำคัญที่อยากให้ทุกคนระวัง ทางที่ดีที่สุด เลือกแบบที่ราคาสอดคล้องกับคุณภาพ ซึ่งร่มก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ หรือ ร่มตอนเดียว สิ่งสำคัญคือการเลือกให้เหมาะสมกับธุรกิจหรือองค์กรที่ต้องการจะสื่อความหมายไปถึงลูกค้าหรือผู้รับ หรือ จะเพิ่มเติมเป็นอุปกรณ์เสริมที่ให้พร้อมกับร่มก็ได้

    ประโยชน์อื่นของร่ม นอกจากเอามากันฝน

    อุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่ง ที่คนมักจะพกติดตัวกันอยู่เสมอนั่นก็คือร่ม ไม่ว่าจะในช่วงฤดูฝน หรือแม้กระทั่งฤดูอื่น ผู้คนก็มักจะพกพาร่มกัน ใช่แล้วครับ ผู้คนไม่ได้พกพาร่มแค่เอาไว้ใช้สำหรับกันฝนเพียงเท่านั้น แต่ร่มยังมีประโยชน์อื่นอีกมากมายด้วย...

    อุปกรณ์สำคัญชิ้นหนึ่ง ที่คนมักจะพกติดตัวกันอยู่เสมอนั่นก็คือร่ม ไม่ว่าจะในช่วงฤดูฝน หรือแม้กระทั่งฤดูอื่น ผู้คนก็มักจะพกพาร่มกัน ใช่แล้วครับ ผู้คนไม่ได้พกพาร่มแค่เอาไว้ใช้สำหรับกันฝนเพียงเท่านั้น แต่ร่มยังมีประโยชน์อื่นอีกมากมายด้วย ตามลักษณะการใช้งานของอุปกรณ์ชิ้นนี้นั้น มีการจำแนกและมีประเภทออกมามากมายหลากหลาย นอกจากแบบที่สามารถใช้ในการกันฝนได้แล้ว ยังมีแบบที่ใช้ในการกันแสงยูวี หรือการลมแรง ด้วยความหลากหลายที่มีอยู่ด้วยกันมากมายเหล่านี้เอง ทำให้อุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้มีประโยชน์มากมาย

     

    ดังนั้นวันนี้ เราจะมาคุยกันในเรื่องของประโยชน์อื่น ของอุปกรณ์ชิ้นสำคัญนั่นก็คือร่ม นอกจากเราจะเอามากันฝนแล้ว เราสามารถที่จะใช้ประโยชน์ใดจากอุปกรณ์ชิ้นนี้ได้อีก วันนี้เรามาดูกัน

     

    ใช้ในการมอบ เพื่อเป็นของขวัญหรือของที่ระลึก

     

    ข้อแรกนี้เป็นข้อที่เรามักจะเห็นบริษัท องค์กรต่างๆ หรือแบรนด์ต่างๆ นำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมเพื่อมอบให้กับลูกค้าอยู่มาก ไม่เพียงแค่ในบรรดาแบรนด์เหล่านั้นเท่านั้น เรายังสามารถนำอุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้ มามอบให้กับคนสำคัญของเราได้ด้วยเช่นกัน หากในแง่ของแบรนด์ แกนนำอุปกรณ์ชิ้นนี้มาทำเป็นของพรีเมี่ยม สามารถช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้มากขึ้น และให้ผู้คนรู้จัก และมองเห็นแบรนด์ได้มากขึ้นด้วย ในแง่ของการมอบของขวัญให้คนสำคัญนั้น เปรียบเสมือนการมอบสิ่งดีๆ และมอบคำขอบคุณให้แก่คนคนนั้น ซึ่งเป็นของขวัญที่ดีไม่น้อยเช่นเดียวกัน

     

    ใช้ในการตกแต่งสถานที่

     

    นอกเหนือจากประโยชน์ในการกันแดดกันฝน สิ่งที่เราน่าจะเคยเห็นก็คือ ในบางสถานที่ท่องเที่ยว ได้มีการนำร่มมาเป็นของประดับตกแต่ง เพื่อสร้างเอกลักษณ์หรือจุดเด่นของพื้นที่นั้น อย่างตามโรงแรม รีสอร์ท หรือตามคาเฟ่ ที่ต้องการให้สถานที่ของตนเองนั้นมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมา บางที่ถึงกับเป็นสถานที่ชื่อดัง ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเข้ามาเยี่ยมเยือนกันสักครั้งทั้งนั้น

     

    ร่มพับสกรีน กับการโปรโมทธุรกิจ

     

    อย่างที่บอกไปแล้วว่า ผู้คนนิยมนำอุปกรณ์ชิ้นนี้ มาใช้ประโยชน์ในแง่ของการเป็นของพรีเมี่ยมเพื่อแจกลูกค้ากัน นอกจากนี้แล้ว ยังนิยมที่จะสกรีนโลโก้ลงบนอุปกรณ์ เพื่อใช้โปรโมทธุรกิจของตนเอง อย่างที่บอกว่าอุปกรณ์ชนิดนี้เป็นอุปกรณ์ที่ผู้คนมักจะพกพาไปไหนมาไหน ดังนั้นจึงสร้างการจดจำได้อย่างแน่นอน นับว่าเป็นไอเดียที่มีประโยชน์ และหยิบมาใช้ได้อย่างง่ายดายด้วย

     

    นำมาดัดแปลง สามารถใช้เป็นอุปกรณ์อื่นได้ด้วย

     

    นอกจากนี้แล้ว ยังมีร่มในรูปแบบอื่นๆ อย่างรูปแบบของการเป็นไม้เท้าได้ด้วย โดยจะทำการเปลี่ยนด้ามจับของร่มตอนเดียว ให้กลายเป็นลักษณะเดียวกับไม้เท้า และเปลี่ยนบริเวณปลายให้สามารถทนต่อแรงกระแทกได้ ทั้งนี้จึงสามารถนำมาพยุงผู้สูงอายุได้ นับว่าเป็นไอเดียที่ดี นอกจากจะใช้เป็นไม้เท้า ยังใช้ในการกันแดดกันฝนได้ด้วย

     

    พ่อค้าแม่ค้า ยังใช้ในการทำมาหากินกันด้วย

     

    มีอุปกรณ์กันแดดอีกชนิดหนึ่ง ที่เร็วเรียกว่าแบบร่มสนาม เรามักจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ ตามตลาด หรือบูธขายสินค้ามากมาย โดยประโยชน์ก็คือใช้สำหรับกางในการออกบูธ หรืออาจเป็นการขายของของพ่อค้าแม่ค้าก็ได้ โดยจะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้มีความทนทานสูง แข็งแรง บางรุ่นถึงขนาดกับปรับระดับความสูงต่ำได้ตามสะดวกอีกด้วย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้าเป็นอย่างมาก

     

    ใช้เป็นอุปกรณ์ในการถ่ายรูป

     

    หลายคนอาจจะยังนึกไม่ถึง ถึงประโยชน์ในข้อนี้ คือการใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับการถ่ายรูป หรือการถ่ายวิดีโอต่างๆ ใช้ในการจัดแสงตามที่ผู้ถ่ายต้องการ โดยใช้ในการสะท้อนแสงแฟลช ส่วนมากมักจะ ส่วนมากมักจะมีสีขาวดำ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดแสง

    ชนิดของผ้าสำหรับใช้ทำร่ม และข้อดีข้อเสียของผ้าแต่ละแบบ

      เมื่อพูดถึงสินค้าอย่างร่ม ก็แน่นอนว่าคงมีน้อยคนนักที่จะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของวัสดุ และขั้นตอนการผลิตร่มขึ้นมาสักอัน อาจเรียกว่าไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องรู้ก็ได้ เพราะโดยทั่วไปแล้วสินค้าชิ้นนี้เรานิยมซื้อจากแหล่งที่มีวางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ...

    เมื่อพูดถึงสินค้าอย่างร่ม ก็แน่นอนว่าคงมีน้อยคนนักที่จะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของวัสดุ และขั้นตอนการผลิตร่มขึ้นมาสักอัน อาจเรียกว่าไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องรู้ก็ได้ เพราะโดยทั่วไปแล้วสินค้าชิ้นนี้เรานิยมซื้อจากแหล่งที่มีวางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า หรือร้านทั่วไปในตลาดมาใช้งาน มากกว่าที่จะเลือกหาวัสดุมาผลิต ตัดเย็บเพื่อใช้งานเอง กล่าวคือเมื่อเปรียบเทียบกับราคาของตัวสินค้าแล้ว ร่มถือว่าไม่ใช่สินค้าที่คุ้มค่ากับการจัดหาวัสดุ  และเสียเวลากับการผลิตขึ้นมาใช้งานเอง อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันการผลิตสินค้าขึ้นสักชิ้น ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่ประโยชน์ในการใช้งานสินค้านั้นๆ เองเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลักษณะการดำเนินธุรกิจปัจจุบันของบรรดาผู้ผลิต โรงงานผลิตสินค้าประเภทต่างๆ ที่เอื้อให้ลูกค้าเข้าถึงการผลิตสินค้าใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจได้ง่ายขึ้น หรือว่ากันง่ายๆก็คือ ลูกค้ารายย่อยอย่างเราก็สามารถสั่งผลิตสินค้าอย่างร่ม หรือสินค้าประเภทอื่นๆ โดยตรงจากโรงงาน เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ หรือใช้เพื่อเป็นสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ได้ ความรู้เกี่ยวกับวัสดุ และขั้นตอนในการผลิตสินค้าที่ดูธรรมดาๆ จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากกว่าที่หลายคนเคยคิดไว้ และในบทความนี้เองก็ได้เลือกนำเอาข้อมูลเกี่ยวกับผ้าชนิดต่างๆที่ใช้ในการทำร่ม และข้อดีข้อเสียของผ้าแต่ละแบบมาแนะนำกัน เพื่อให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกสั่งผลิตสินค้าชิ้นนี้จากโรงงานผู้รับผลิต และได้สินค้าที่ออกมาตรงตามสเปคที่ต้องการ

    คุณสมบัติเด่นของผ้าสำหรับใช้ทำร่ม หากมองในเรื่องของความหลากหลายของประเภท หรือชนิดของผ้าสำหรับใช้ผลิตสินค้าชิ้นนี้ ก็ต้องบอกว่าไม่ได้แตกต่างจากผ้าสำหรับผลิต หรือตัดเย็บเป็นสินค้าอื่นๆ เช่น เสื้อ กางเกง เครื่องนอน เป็นต้น แต่คุณสมบัติเด่นอย่างนึงที่ถือเป็นข้อบังคับพื้นฐานที่ทำให้ผ้าสำหรับใช้ทำร่มแตกต่างไปจากผ้าสำหรับผลิตสินค้าอื่นๆ ก็คือคุณสมบัติกันน้ำนั่นเอง หรือว่ากันง่ายๆ ก็คือขอเพียงเป็นผ้าที่กันน้ำได้ก็สามารถใช้ในการทำร่มได้นั่นเอง แต่ข้อดีข้อเสีย เช่น เรื่องของความทนทาน สีสัน ความสวยงามของเนื้อผ้าก็ย่อมแตกต่างกันออกไปตามชนิดของผ้า

    ผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ้าชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นผ้าที่ได้รับความนิยมนำมาทำเป็นร่มมากที่สุดก็ว่าได้ โดยคุณสมบัติเด่นของผ้าชนิดนี้ก็คือกันน้ำได้ดี มีความทนทาน และเนื้อผ้าเรียบสวย คืนรูปได้ง่าย แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถกันรังสียูวีได้ จึงไม่เหมาะสำหรับนำมาทำร่มประเภทกันแดด แม้ว่าตัวเนื้อผ้าจะไม่เสียหายเมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานานก็ตาม ร่มกันฝน แบบ ร่มพับ เช่น ร่มพับ2ตอน ร่มพับ5ตอน

    ผ้า Texsilk เป็นผ้าที่ถือว่าเป็นเกรดคุณภาพ เหมาะสำหรับใช้ผลิตร่มที่มีราคาสูงขึ้นมาหน่อย ด้วยคุณสมบัติเด่นของเนื้อผ้าที่สามารถกันรังสียูวีได้ดี สามารถใช้ผลิตได้ทั้งร่มแบบกันฝน และแบบใช้งานกลางแจ้งเพื่อกันแดดเช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว

    ผ้า Kunilon เป็นผ้าอีกประเภทที่มีคุณสมบัติกันรังสียูวีได้ดี โดยตัวเนื้อผ้าถูกพัฒนาขึ้นมาจากเส้นใยของผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทำให้ผ้ามีความทึบแสง จึงกลายเป็นผ้าที่มีคุณสมบัติกันรังสียูวีได้ดังกล่าว และยังมีข้อดีเรื่องความสวยงามของเนื้อผ้า สีสันที่สดใสเด่นชัด สามารถพิมพ์ข้อความ หรือสกรีนลวดลายต่างๆ ลงบนผ้าได้สวยเด่นและติดทนนาน แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียเรื่องน้ำหนักที่มากขึ้น จึงเหมาะสำหรับใช้ผลิตเป็นร่มขนาดใหญ่ ใช้งานกลางแจ้งเท่านั้น เช่น ร่มชายหาด ร่มสนาม หรือเต้นท์กิจกรรมกลางแจ้ง เป็นต้น

    ความแตกต่าง ระหว่างร่มกันฝน และร่มกันแด

    ร่มนั้นนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่ในหน้าฝน หรือในช่วงที่มีฝนตกบ่อยเพียงเท่านั้น ร่มยังสามารถใช้ในการกันแดด หรือบางคนใช้ในการกันลม หรืออาจเอาไปดัดแปลงทำเป็นอุปกรณ์แบบอื่นยังได้เลย ดังนั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้จึงมีความสำคัญมากกว่าการกันฝน...

    ร่มนั้นนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่ในหน้าฝน หรือในช่วงที่มีฝนตกบ่อยเพียงเท่านั้น ร่มยังสามารถใช้ในการกันแดด หรือบางคนใช้ในการกันลม หรืออาจเอาไปดัดแปลงทำเป็นอุปกรณ์แบบอื่นยังได้เลย ดังนั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้จึงมีความสำคัญมากกว่าการกันฝน ไม่เพียงแค่นั้น ร่มยังถูกประดิษฐ์ หรือถูกทำออกมาให้แตกต่างกันมากมายหลากหลายรูปแบบ เช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว หรือร่มสนาม เพื่อตอบรับกับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นเหล่านี้ และเพื่อให้มีความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้นด้วย

     

    ฟังก์ชันการใช้งานหลัก ของร่ม ที่หลายคนมักจะนำไปใช้ น่าจะเป็นการนำมากันฝน และการนำมากันแดดด้วย เป็นสองสิ่งที่เรามักจะใช้กันอยู่เสมอ แต่รู้หรือไม่ ว่ามีร่มที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้สามารถกันแดดได้โดยเฉพาะ แล้วมันแตกต่างจากร่มที่เราใช้ในการกันฝนอย่างไร แล้วแบบที่สามารถกันแดดได้ เรานำมากันฝนได้ด้วยหรือไม่ หรือนำมาทำอย่างอื่นได้ด้วยหรือไม่ วันนี้เราจะมาคุยกัน ในเรื่องของความแตกต่าง ระหว่างร่มที่เรานำมาใช้ในการกันฝน และนำมาใช้ในการกันแดด

     

    แบบที่ใช้สำหรับกันฝน

     

    แบบที่เราใช้สำหรับกันฝนนั้น เป็นแบบที่เราสามารถหาซื้อ และสามารถที่จะพบเจอได้โดยทั่วไปอยู่แล้ว มักจะมีมากในท้องตลาด เกือบจะทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ โดยแบบที่สามารถกันฝนได้ ก็อาจมีฟังก์ชันใช้ในการกันลมได้ แต่เราต้องแน่ใจว่า ร่มของเรามีความแข็งแรงมากพอ และแน่นอนว่า คุณสมบัติเด่นของแบบที่ใช้ในการกันฝน คือเรื่องของความแข็งแรงนี้เอง และขนาดของบริเวณผ้าก็สำคัญเหมือนกัน จำเป็นที่จะต้องมีขนาดใหญ่ บริเวณโครงก็ต้องมีความใหญ่ตามมาในระดับนึงด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถป้องกันเราจากการที่ฝนตกลงมาใส่ได้ ไม่เพียงแค่เรื่องฝนเท่านั้น บางครั้งหากฝนตกหนัก ก็อาจมีลมแรงตามมาด้วย ดังนั้นการออกแบบมาให้มีความแข็งแรงสูง จึงสามารถที่จะกันลม ในวันที่ฝนตกหนักๆ ได้ด้วย เช่น ร่ม 16 ก้าน

     

    ลักษณะการออกแบบและการนำเสนอ หากเป็นแบบที่ใช้ในการกันฝนโดยเฉพาะ เราอาจที่จะทำมันในรูปแบบใดก็ได้ แม้แต่แบบใสก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเราไม่จำเป็นต้องใช้ไปกันแดด การทำออกมาในรูปแบบใสนั้น จะเพิ่มความสวยงามให้อุปกรณ์ของเราเป็นอย่างมาก และเพิ่มความแปลกตา สามารถที่จะใช้ได้ในทุกสถานการณ์เลยทีเดียว นับว่าเป็นอะไรที่ดีและยอดเยี่ยมไม่น้อย

     

    แบบที่ใช้สำหรับกันแดด

     

    มีน้อยในท้องตลาด เพราะเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ และยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไรนัก โดยปกติแล้วผู้คนทั่วไป หากจะนำไปใช้ในการกันแดด ก็มักจะใช้แบบที่กันฝนนั่นแหละในการกันแดด แต่แท้จริงแล้วมันถูกออกแบบมาให้มีลักษณะ และการใช้งานที่มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แบบที่ใช้สำหรับกันแดดนั้น จะมีคุณสมบัติโดดเด่นที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่แบบที่ใช้สำหรับกันฝนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำได้ นั่นคือการกันแสงแดดและกันรังสียูวี เช่น ร่มพับที่ผลิตจากผ้ายูวี เหตุผลที่สามารถกันรังสียูวีได้นั้น เนื่องจากบริเวณผ้า ที่ได้มีการเคลือบสาร สำหรับกันรังสียูวีไว้ และรังสียูวีนี้เองก็เป็นตัวร้าย พี่อาจจะทำร้ายผิวของเราได้

     

    แน่นอนว่าลักษณะการออกแบบและการนำเสนอ ก็จะมีข้อจำกัด และจะแตกต่างจากแบบที่กันฝนได้โดยสิ้นเชิง คือไม่สามารถทำสี่ใส่ได้แน่นอน ส่วนมากจะออกแบบมาให้มีสีสันสวยงาม เพื่อเป็นการบังแสงแดดไม่ให้เข้ามากระทบกับผิวของผู้ใช้งาน และหากถามว่า นำมากันฝนได้หรือไม่ หากมีความแข็งแรงมากพอก็น่าจะนำมากันได้เช่นเดียวกัน

    ว่าด้วยเรื่องของ การสกรีนร่ม

    ร่มเป็นอุปกรณ์ ที่นอกจากผู้คนจะซื้อมาใช้งานกันจริง แบรนด์ต่างๆ หรือบริษัทผลิตของต่างๆ ต่างใช้ร่มในการนำมาทำเป็นของสัมมนาคุณ ของแจก หรือของพรีเมี่ยมมากมายหลากหลาย ทั้งนี้ก็เนื่องจากการที่คนหยิบมาใช้งานร่มกันมากมายนี่เอง และการที่ผู้คนหยิบร่มมาใช้งาน...

    ร่มเป็นอุปกรณ์ ที่นอกจากผู้คนจะซื้อมาใช้งานกันจริง เช่น ร่มกลับด้าน ร่มพับ แบรนด์ต่างๆ หรือบริษัทผลิตของต่างๆ ต่างใช้ร่มในการนำมาทำเป็นของสัมมนาคุณ ของแจก หรือของพรีเมี่ยมมากมายหลากหลาย ทั้งนี้ก็เนื่องจากการที่คนหยิบมาใช้งานร่มกันมากมายนี่เอง และการที่ผู้คนหยิบร่มมาใช้งาน ไอเดียการนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมจึงดีมาก สามารถที่จะสร้างการมองเห็นให้กับคนจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากบนร่มพรีเมี่ยมเหล่านี้ จะมีการสกรีนชื่อบริษัท โลโก้ หรือสัญลักษณ์แสดงความเป็นองค์กร หรือแบรนด์นั้นอยู่

     

    แล้วการสกรีนร่มนั้น เขาทำกันอย่างไร มีอยู่ด้วยกันกี่แบบ วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ เทคนิคในการสกรีนร่ม ว่าเราจะสกรีนร่มออกมาอย่างไร และแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร

     

    เทคนิคการสกรีน

     

    แค่การสกรีนนั้น ก็มีวิธีการในการทำมากมายหลากหลายเทคนิคแล้ว เช่นเดียวกับการสกรีนวัสดุอื่นๆ อย่างเสื้อผ้าหรือกระเป๋า แต่ละแบบก็จะให้ผลลัพธ์ ที่มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป หลักๆ จะมีวิธีการอยู่ประมาณ 3 แบบ ดังนี้

     

    เทคนิคการสกรีนด้วยบล็อกสกรีน หรือเรียกอีกชื่อว่า เทคนิคซิลค์สกรีน เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีความสะดวกสบายมากที่สุด มีการสกรีนได้ครั้งละจำนวนมากๆ อีกทั้งสีที่สกรีนออกมามีคุณภาพ และจะไม่หลุดลอกไปด้วย วิธีการเป็นการปาดสี โดยเริ่มจากการใช้บล็อกที่ขึงด้วยผ้าหรือฟิล์ม สำหรับสกรีนนั้นให้ตึง จากนั้นจะทำการใช้ไม้ปาดสี เพื่อให้ซึมผ่านลงไปในวัสดุที่เราต้องการ และทำการป่าวให้แห้ง วิธีการนี้เป็นวิธีการที่จำเป็นที่จะต้องใช้ความละเอียดเป็นอย่างสูง และเหมาะสำหรับการสกรีนที่ใช้สีไม่เกิน 3 สี

     

    เทคนิคการสกรีนด้วยระบบรีดร้อน ระบบนี้เป็นเทคนิคการสกรีนโดยจะเพิ่มลวดลายจากเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต หรือเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ลงบนกระดาษ transfer ซึ่งจะสามารถนำไปรีดร้อน เพื่อให้หมึกติดลงบนวัสดุได้ จากนั้นก็จะทำการเคลือบด้วยแผ่นฟิล์ม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรักษาสีสันให้อยู่ได้ยาวนานคงทน เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับทำลวดลายที่มีความละเอียดอ่อน เพราะจะใช้สีได้ไม่จำกัด แต่มีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ค่อนข้างสูง

     

    เทคนิคการสกรีนด้วยเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดยการพ่นหมึก เทคนิคนี้เป็นเทคนิคการสกรีนโดยจะใช้เครื่องพิมพ์ โดยเครื่องพิมพ์นั้นจะทำการพ่นหมึกลงบนวัสดุ ให้ออกมาได้รูปร่าง หรือลักษณะตามที่ต้องการ แน่นอนว่าเป็นเครื่องพิมพ์ ดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะใช้สำหรับงานที่มีลวดลายค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะการสกรีนโลโก้ เนื่องจากเครื่องพิมพ์จะทำงานตามคำสั่งอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสียังไม่ได้มีการผิดเพี้ยนไปมาก แต่การสกรีนรูปแบบนี้จะมีต้นทุนค่อนข้างสูงที่สุด กว่ารูปแบบอื่นๆ

     

    ประเภทของสีที่ใช้

     

    สีน้ำมัน เป็นสีที่มีคุณสมบัติทนทาน และมีการติดแน่น เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันเป็นหลัก ทำให้สีนั้นแห้งง่ายตามอุณหภูมิห้อง อีกทั้งยังสามารถที่จะปรับความเข้มข้นของสี เพียงแค่การเติมน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัสดุที่สีติดยาก โดยจะทำการใช้ร่วมกับสารเคลือบอื่นๆ เพื่อเพิ่มความเงาด้วยก็ได้

     

    สียาง เป็นสีที่มีคุณสมบัติโดดเด่น จะมีสีสันสดใส และมีความยืดหยุ่นสูง แต่จะทึบแสง เมื่อสกรีนลงบนวัสดุแล้ว จะมีลักษณะนูนขึ้นมา ทำให้เราสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่นูนขึ้นมาได้ และเหนือสิ่งนี้มักจะยืดหยุ่นตามวัสดุ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสกรีนลงบนผ้าโพลีเอสเตอร์

     

    สีจม เป็นสีที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของเนื้อสีที่มีความละเอียดสูง เมื่อสกรีนลงบนผ้า สีจะซึมลงไปในเส้นใยผ้าด้วย เนื้อสีจะมีลักษณะมีความโปร่งใส เมื่อสกรีนไปแล้วจะดูกลมกลืนเรียบเหรียญเป็นเนื้อเดียวกันกับวัสดุ เหมาะสำหรับวัสดุที่มีสีอ่อน อย่างวัสดุสีขาว หรือสีครีม

     

    สีลอย จะเป็นสิ่งที่มีความละเอียดน้อยกว่าสีจม เมื่อนำไปสกรีนแล้วจะสัมผัสได้ถึงเนื้อสีที่นูนขึ้นมา และมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า เมื่อดึงเนื้อผ้าที่สกรีนจะเห็นรอยแยกของสี ทำให้เหมาะจะสกรีนลงบนวัสดุสีเข้ม

     

    สีนูน เป็นสีที่มีคุณสมบัติที่ผิวสัมผัสค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากในกระบวนการ จะนำสีไปผสมกับ สารที่ทำให้เนื้อสีฟู และจะนำไปอบด้วยความร้อน เราจะสามารถสัมผัสได้ถึงเนื้อสีที่นูนขึ้นมาแบบ 3 มิติเลยทีเดียว

     

    ร่มที่นำมาสกรีนนั้น สามารถทำได้ทุกร่ม ไม่ว่าจะเป็น ร่มสนาม ร่มกอล์ฟ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

    เรื่องควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อร่มสนาม

    ร่มสนามนั้น เป็นร่มที่ค่อนข้างมีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยเหมาะสมอย่างยิ่งกับการใช้งานสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ หรืออาจเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ท หรือแม้กระทั่งใช้ในการออกบูธ หรือนำไปใช้ในการกางเต็นท์ นอนอาบแดดที่ชายหาดก็ยังได้เหมือนกัน...

    ร่มสนามนั้น เป็นร่มที่ค่อนข้างมีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยเหมาะสมอย่างยิ่งกับการใช้งานสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ หรืออาจเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ท หรือแม้กระทั่งใช้ในการออกบูธ หรือนำไปใช้ในการกางเต็นท์ นอนอาบแดดที่ชายหาดก็ยังได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยคุ้นชินกับร่มชนิดนี้มากนัก แต่อย่างที่เห็นว่า ประโยชน์ของเขามากมายเลยทีเดียว

     

    ก่อนหน้านี้เราเคยพูดถึง ร่มพับ หรือ ร่มตอนเดียว ดังนั้นวันนี้เราจะมาชวนคุยกัน ว่าถ้าหากเรานั้น อยากจะซื้อร่มสนามสักคัน เราจะมีวิธีการเลือกอย่างไร เพื่อที่จะสามารถซื้อมาแล้วได้ใช้งานจริง และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

     

    รู้จักแต่ละประเภทก่อน

     

    ถึงแม้จะเป็นร่มสนามเหมือนกัน แต่รู้หรือไม่ว่า อุปกรณ์ชนิดนี้มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายประเภท โดยอุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดอยู่ 3 ประเภท นั่นคือร่มสนามทรงกลม 8 ช่อง ร่มสนามทรงสี่เหลี่ยม 4 ช่อง และร่มสนามทรงสี่เหลี่ยม 8 ช่อง โดยทั้งสามชนิดนี้ ก็มีขนาดแตกต่างกันอยู่อีก โดยจะมีด้วยกันตั้งแต่ขนาดเล็ก ซึ่งมีความกว้างอยู่ที่ 36 นิ้ว ขนาดกลาง ความกว้างอยู่ที่ 40-45 นิ้ว และขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีความกว้างอยู่ที่ 60 นิ้ว นอกจากนี้แล้ว เรายังต้องรู้ด้วยว่า อุปกรณ์แต่ละแบบนั้น มีที่ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกันมากมาย อย่างเช่นผลิตจากไม้ หรือผลิตจากเหล็ก ซึ่งทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปอีก

     

    เราจะนำไปใช้งานกับขาตั้งแบบใด

     

    เราน่าจะรู้กันว่า เนื่องจากอุปกรณ์ชนิดนี้เป็นอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องใช้งานร่วมกับขาตั้งเสมอ ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะซื้อพร้อมกันเป็นเซ็ตไปเลย แต่หากเราไม่ได้ซื้อมาพร้อมกัน เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า อุปกรณ์ชนิดนี้ที่เราซื้อนั้น เราจะนำไปใช้งานกับขาตั้งแบบใด โดยปกติแล้ว ขาตั้งนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ๆ นั่นคือขาตั้งแบบพับเก็บได้ และขาตั้งแบบที่ไม่สามารถพับเก็บได้ โดยทั้งสองประเภทนี้ ก็จะมีแบบขาตั้งที่แยกย่อยออกไปอีกมากมาย

     

    ขาตั้งแบบพับเก็บได้นั้น สามารถแบ่งแยกย่อยไปได้อีก 3 แบบ ได้แก่ ขาตั้งแบบ 4 ขาชุบซิงค์แบบบาง ขาตั้งแบบ 4 ขาชุบซิงค์แบบหนา และขาตั้งแบบ 4 ขาชุบโครเมี่ยม ขาตั้งแบบไม่สามารถพับเก็บได้ ก็จะสามารถแบ่งแยกย่อยออกไปได้ 2 แบบ นั่นคือ ขาตั้งแบบแพขนาดเล็ก และขาตั้งแบบแพขนาดใหญ่

     

    การเลือกขาตั้งให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ของเรา เราควรพิจารณาจากขนาด หากอุปกรณ์ของเรามีขนาดเล็ก เราสามารถเลือกใช้งานร่วมกับขาตั้งแบบใดก็ได้ แต่หากเป็นอุปกรณ์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ เราก็จะต้องมาดูกันอีกที

     

    เราจำเป็นต้องรู้ว่า เราจะนำอุปกรณ์ไปใช้งานแบบใด

     

    สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้แน่ชัดเลยเกี่ยวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์สนามพร้อมขาตั้งของเรานั่นก็คือ เราจะนำอุปกรณ์นี้ไปใช้งานในลักษณะใด และมีจุดประสงค์การใช้งานแบบ ยกตัวอย่างเช่น หากเรานำอุปกรณ์ของเรามาใช้ในงานกิจกรรม ที่จัดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หรือเป็นงานชั่วคราวเพียงเท่านั้น และอาจใช้สถานที่ไม่กว้างมาก หรือมีจำนวนคนมาร่วมงานไม่มาก เราอาจเลือกเป็นแบบขนาดเล็กหรือขนาดกลางได้ และอาจดูเป็นขาตั้งแบบพับเก็บได้ เพื่อที่จะสามารถที่จะขนย้ายได้อย่างสะดวกสบาย แต่หากกิจกรรมที่เราจะนำไปใช้นั้น เป็นกิจกรรมที่เราไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายอะไรไป ต้องการที่จะตั้งอยู่กับที่ อาจเลือกอุปกรณ์สนาม คู่กับขาตั้งแบบแพ เพราะสามารถที่จะรับน้ำหนักได้ และมีความมั่นคงแข็งแรงมากกว่า จะเห็นได้ชัดเลยว่าร่มสนาม ก็มีความสำคัญไม่แพ้พวก ร่มตอนเดียว หรือ ร่มพับ เพียงแต่แค่นำไปใช้ต่างกัน

     

    เรื่องงบประมาณก็สำคัญ

     

    สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณาเป็นอันดับแรกๆ ในการเลือกซื้อเลย นั่นคือเรื่องของงบประมาณที่เรามี สำหรับใช้ในการลงทุนกับอุปกรณ์สนามต่อคัน หากเราต้องการซื้อในปริมาณมาก เราจำเป็นต้องดูงบประมาณในกระเป๋าของเราด้วย เพื่อที่จะได้จัดสรรจำนวนตามความเหมาะสมในการใช้งาน

    ร่มกันยูวี ตัวเลือกที่ดีกว่าในการกันแดด

    อุปกรณ์สำคัญอย่างร่มนั้น มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ใช้กันปกติ แบบที่สามารถพับเก็บได้ หรือแบบที่มีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้ และก็มีร่มชนิดหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ที่จะนำมาใช้งาน หรือไม่ก็อาจนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยม...

    อุปกรณ์สำคัญอย่างร่มนั้น มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ใช้กันปกติ แบบที่สามารถพับเก็บได้ หรือแบบที่มีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้ และก็มีร่มชนิดหนึ่ง นอกจาก ร่มใส ร่มพัดลม ร่มกลับด้าน ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ที่จะนำมาใช้งาน หรือไม่ก็อาจนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยม หรือของแจกได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ร่มกันยูวี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างมาแรงในการกันแดดเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาคุยกันถึงร่มชนิดนี้

     

    เหตุใด ร่มกันยูวีจึงเป็นทางเลือกที่ดี

     

    เหตุผลแรกที่ร่มกันยูวีเป็นทางเลือกที่น่าสนใจก็คือ ตรงตามชื่อเลย มันสามารถที่จะกันรังสียูวีจากแสงแดด อยู่ที่มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ และแน่นอนว่าป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ด้วย ร่มแบบธรรมดา ก็อาจที่จะสามารถกันรังสียูวีได้ในระดับหนึ่ง แต่หากเป็นร่มที่ใช้สำหรับกันยูวีโดยเฉพาะแล้ว มีตัวเลขที่น่าสนใจคือ  สามารถที่จะกันรังสียูวีได้มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งอย่างที่เรารู้ ถึงความอันตรายของรังสียูวี เป็นสาเหตุที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ นอกจากนี้แล้ว ยังไปทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้อาจเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือจุดด่างดำของผิวหนังได้ นอกจากนี้ ร่มกันยูวียังลดความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายต่อดวงตาของผู้ใช้ได้ เนื่องจากยูวีในแสงแดดนั้น อาจทำให้เกิดความเสี่ยงกระจกตาอักเสบ ต้อกระจก ต้อเนื้อ หรือต้อลมได้

     

    และที่สำคัญ สามารถที่จะกันความร้อนได้ดีกว่าแบบทั่วไปอีกด้วย โดยได้มีการนำทดลอง ได้นำแบบที่สามารถกันรังสียูวีได้ มาตากแดด พบว่า อุณหภูมิที่อยู่ภายใต้ จะต่ำกว่าอุปกรณ์กันแดดแบบทั่วไปที่ไม่ได้เคลือบกันยูวี อยู่ที่ประมาณ 2-4 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

     

    นอกจากนี้ยังมีอีกประโยชน์ที่น่าสนใจ คือสามารถที่จะนำไปดัดแปลงทำอย่างอื่นได้ นอกจากจะสามารถกันแดดกันฝนได้แล้ว สำหรับช่างภาพมืออาชีพ ยังสามารถนำไปใช้ในการเป็นรีเฟล็กซ์ถ่ายรูปได้ โดยไม่ต้องใช้รีเฟล็กซ์ที่ใช้ในสตูดิโอ เรียกว่าเป็นการดัดแปลงที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก

     

    ไม่ใช่แค่สามารถกันยูวีได้

     

    อัตราการกันรังสียูวี สามารถที่จะกันรังสีได้ถึงระดับ UPF99 หรือก็คือคิดเป็น SPF120 เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังสามารถที่จะกันรังสีจากแสงแดดอื่นๆ รวมถึงสามารถที่จะกันความร้อนได้ในระดับที่มากกว่าปกติ อีกทั้งยังสามารถที่จะช่วยลดอุณหภูมิภายใต้ได้อีกด้วย สามารถที่จะลดอุณหภูมิภายใต้ได้มากถึง 2-4 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

     

    วิธีการเลือก อุปกรณ์กันแดดแบบกันรังสียูวีและความร้อน

     

    ต่อไปจะเป็นวิธีการในการเลือก ในขั้นต้นนั้น การเลือกจะไม่ได้แตกต่างจากแบบปกติมากเท่าไหร่นัก คือ ดูวัสดุที่ใช้ในการทำก่อนเป็นอันดับแรก ให้มั่นใจว่า วัสดุที่นำมาใช้ในการทำ จะมีความแข็งแรง และไม่เกิดสนิมหรือผุพังได้ง่าย และเลือกขนาดที่พอเหมาะพอดีกับตัวเรา หรืองานที่เราจะนำไปใช้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก

     

    และที่มีความสำคัญที่สุด ในการเลือกอุปกรณ์กันแดดแบบกันรังสียูวี คือส่วนของผ้า ที่นำมาใช้ในการทำ สำคัญที่สุดคือ ต้องมีการเคลือบกันรังสียูวีไว้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าผ้านั้นมีการเคลือบกันรังสียูวี อย่างง่ายที่สุด ให้นำไปทดลองกลางดูเลย หากมีเวลามากพอ ให้นำน้ำใส่ลงไปในแก้ว โดยน้ำนั้นเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง แล้วนำไปตั้งไว้กลางแดด จากนั้นนำอุปกรณ์กันแดดมากาง ทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง ให้นำเทอร์โมมิเตอร์มาวัด หรือหากไม่มี อาจใช้วิธีการ เอามือไปจุ่ม หากอุณหภูมิยังคงคงที่เหมือนเดิม หรืออาจมีการลดลง แปลว่าอุปกรณ์กันแดดนี้ได้คุณภาพ