ร่มกลับด้านนั้นเป็นร่มที่มีความสวยงาม มีดีไซน์ที่ทันสมัย และสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานในวันที่ฝนตกได้เป็นอย่างดี หากเราลองย้อนกลับไปในเมื่อ 3,400 ปีก่อนหน้านี้ ในตอนที่เริ่มมีการผลิตร่มขึ้นมาเป็นครั้งแรก ในดินแดดที่เต็มไปด้วยแสงแดดอันร้อนจัด ทำให้ต้องผลิตร่มออกมาเพื่อนำร่มมาใช้ในการบังแดดและแสดงถึงอำนาจของผู้ใช้งานเท่านั้น

คำว่า Umbrella หรือ ร่ม นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินจากคำว่า Umbra ที่แปลว่า บังแดด โดยเริ่มแรกร่มมิได้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อกันฝน แต่ใช้ร่มเพียงเพื่อกันแดดเพียงเท่านั้น และในเวลาต่อมาร่มได้ถูกพัฒนาขึ้นให้สามารถกันได้ทั้งแดดและฝน จนมาในยุคปัจจุบันที่นวัตกรรมการผลิตร่มเปลี่ยนไป ทำให้ผู้ผลิตได้คิดค้นร่มรูปแบบใหม่อย่างร่มกลับด้านขึ้น ที่มีความแตกต่างจากร่มทั่วไปเป็นอย่างมาก

และระหว่างร่มกลับด้าน และร่มทั่วไปนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรล่ะ ?

ในความเป็นจริง ร่มทั้ง 2 ชนิดนี้มีความคลายกัน แต่มีคุณค่าที่แตกต่างกันอย่างมาก โดยร่มกลับด้านนั้น ในตอนที่ผู้ใช้งานทำการหุบร่ม ปลายของร่มจะชื้ออกด้านนอก ต่างจากร่มธรรมดาทั่วไป เมื่อเวลาหุบร่ม ปลายของร่มจะหุบเข้ามายังตัวผู้ใช้งาน จึงทำให้ร่มกลับด้านมีลักษณะที่แตกต่างจากร่มธรรมดาทั่วไปอยู่บ้าง แต่รูปแบบและประโยชน์การใช้งานยังครบถ้วน โดยประโยชนืที่สำคัญ ๆ ของร่มกลับด้านมีดังนี้

ร่มกลับด้านสามารถใช้งานได้ง่ายในพื้นที่แคบ ๆ หากเปรียบเทียบร่มกลับด้านกับร่มทั่ว ๆ ไป เราจะสังเกตได้ว่า ร่มทั่วไปเมื่อใช้ในวันที่ฝนตกด้วยรูปแบบของร่มที่กางออกในพื้นที่แคบ ทำให้น้ำฝนมีโอกาสที่จะไหลลงมาเปียกเสื้อผ้าของผู้ใช้งานได้ แต่หากเป็นร่มกลับด้านแล้วล่ะก็ ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดไป ด้วยลักษณะของรูปแบบการกางร่มที่สลับจากด้านในสู่ด้านนนอก ทำให้การกางร่มในพื้นที่แคบเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้งานกับรถยนต์

ดีไซน์ในการออกแบบที่สวยงามของร่มกลับด้าน

นอกจากร่มกลับด้านจะมีรูปแบบการใช้งานที่สะดวกสบายสามารถใช้งานในพื้นที่แคบได้แล้ว ร่มกลับด้านยังมีดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย สวยเก๋ แตกต่างจากร่มธรรมดาทั่วไปอีกด้วยแต่ลวดลายของร่มกลับด้านนั้นจะถูกซ่อนเอาไว้ด้านใน หากลองมองแบบผิวเผิน เราจะเห็นร่มกลับด้านเป็นเพียงแค่ร่มสีพื้นธรรมดาทั่วไปเท่านั้น เพราะไม่สามารถมองเห็นลวดลายที่อยู่ด้านในด้านในขณะที่ยังไม่ได้ทำการกางร่มกลับด้าน แต่ถ้าหากร่มกลับด้านถูกใช้งานเมื่อไหร่ ลวดลายอันสวยงามที่ถูกซ่อนอยู่ภายในร่มกลับด้านก็จะปรากฏออกมาให้คนรอบข้างและคนที่ผ่านไปผ่านมาได้เห็นในทันที

ร่มกลับด้านมีความแข็งแรงสามารถต้านทานลมแรงได้เป็นอย่างดี การออกแบบร่มกลับด้านที่ปลายร่มพลิกเข้าไปด้านในนั้น ทำให้ส่วนประกอบของร่มมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานในสถานการณ์ที่ผู้ใช้งานพบเจอกับกระแสลมแรง ร่มกลับด้านสามารถต้านทานได้เป็นอย่างดี และร่มกลับด้านชนิดนี้นั้นสามารถต้านทานลมแรงได้ดีเยี่ยม โดยที่โครงร่มไม่หักงอ หรือพลิกกลับด้านเหมือนร่มธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน

ปัจจุบันร่มกลับด้านจึงเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนมีติดตัวไว้ โดยเฉพาะผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัว ร่มกลับด้านสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี บางคนมีร่มติดรถยนต์มากกว่า 1 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นร่มกลับด้าน ร่มพับสำหรับพกพายามฉุกเฉิน ร่มตอนเดียวสำหรับเพื่อนผฝูงหรือผู้ติดรถมาด้วย ร่มใส ร่มกอล์ฟ ร่ม 16 ก้าน เป็นต้น

หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักร่มกลับด้าน หรือ เคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว มีใครทราบบ้างหรือไม่ว่าร่มกลับด้านมีต้นกำเนิดและที่มาจากไหน หลายคนอาจคงคิดว่า ร่มกลับด้านนั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบเอเชีย Asia เนื่องจากว่า ร่มกลับด้านได้รับความนิยมเป็นอยากมากสำหรับประเทศแถบเอเชีย ซึ่งอันที่จริงแล้วร่มกลับด้านนั้นไม่ดีมีต้นกำเนิดมาจากประเทศแถบเอเชียแต่อย่างใด แต่ต้นกำเนิดที่แท้จริงของร่มกลับด้านนั้นอยู่ที่ เมืองเล็กของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ร่มกลับด้านถูกคิดค้นโดย นาย Jenan Kazim ผู้ซึ่งมีอาชีพเป็นหนุ่มวิศวกร โดยสาเหตุที่ทำให้เขาคิดค้นไอเดียในการสร้างร่มกลับด้านขึ้นมาเนื่องมาจาก คุณแม่บุญธรรมของเขามักจะบ่นให้เขาฟังอยู่เสมอ ๆ ว่า ร่มแบบเดิม ๆ มักชอบทำให้พื้นเลอะเทอะบ้าง พื้นเปียกบ้างล่ะ

ประวัตินาย Jenan Kazim ผู้ผลิตและคิดค้นร่มกลับด้าน

นาย Jenan Kazim เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1955 ที่ประเทศไซปรัส สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาชาวิศวกรการบินจากมหาวิทยาลัย Loughborough และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมโยธาที่ City University, London University ในตอนเด็กเขามักกจะสนใจ สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ รอบตัวเป็นอย่างมาก เขามีความเชี่ยวชาญทางด้านการบิน อวกาศและแท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยเขาได้นำความเชี่ยวชาญต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการถอดสมการ การคิดสูตรคำนวณทางคณิตศาสตร์ต่าง ๆ   มาประยุกต์ใช้ในการคิดค้นร่มกลับด้าน โดยมีชื่อแบรนด์ ว่า KAZbrella ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการร่ม ที่ยังคงความสวยงามและสร้างความคุ้นเคยในการใช้งานได้เหมือนร่มปกติทั่วไปอย่าง ร่มตอนเดียว ร่มพับ ร่มกอล์ฟ

โดยไอเดียเริ่มแรกในการคิดค้นร่มกลับด้านนั้น คือการนำร่มแบบเก่ามาดัดแปลงให้สามารถ เปิด-ปิด สวนทางกับร่มทั่วไปซึ่งเขาทำการคิดค้นหาวิธีอยู่ไม่นานนักก็ได้ร่มกลับด้านตามแบบที่ต้องการออกมา

ร่มกลับด้านที่เขาคิดค้นขึ้นนั้น สามารถใช้งานง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง สามารถพับเก็บได้ในขณะที่ เข้า-ออก รถยนต์ หมดปัญหาร่มพลิกกลับด้านเมื่อโดนร่มพัดอย่างรุนแรง แถมยังแก้ปัญหาเรื่องน้ำหกเลอะเทอะพื้น ที่คุณแม่บุญธรรมของเขาเคยบ่นให้เขาฟังอยู่บ่อย ๆ ได้อีกด้วย

ร่มกลับด้านของเขาเป็นเพียงการปรับปรุงดีไซน์ร่มแบบเก่าที่มีต้นกำเนิดมามากกว่า 3000 ปี ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นนั่นเอง

และในปัจจุบัน นาย Jenan Kazim ก็ได้เป็นเจ้าของและทำงานอยู่ที่บริษัท KAZbrella กับภรรยาและลูกสาวของเขา

โดยราคาร่มกลับด้านที่บริษัท KAZbrella วางจำหน่ายนั้น เริ่มต้นอยู่ที่ราคา £49.00 หรือประมาณ 2,012 บาท ณ ปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าร่มกลับด้านของทางบริษัท KAZbrella จะมีราคาสูงมากในบ้านเราแต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพในการใช้งานรวมทั้งไอเดียในการคิดค้นร่มกลับด้านชนิดนี้ขึ้นมา ถือว่าคุ้มค่ามากจริง ๆ ในการใช้งานและเลือกจับจองเป็นเจ้าของ

ปัจจุบันร่มกลับด้านถูกผลิตขึ้นและนำมาจัดจำหน่ายเป็นจำนวนมากและขยายไปทั่วทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในประเทศทางฝั่งเอเชียแปซิฟิก และในประเทศไทยบ้านเรา ได้มีผู้นำเข้าร่มชนิดมาจำหน่ายในประเทศเป็นจำนวนมาก อาจจะแปลกใหม่ไปบ้างสำหรับประเทศไทย แต่รับรองได้เลยว่า ถ้าใครได้ลองใช้งานดูแล้วล่ะก็ ต้องรู้สึกทึ่งดังต้องมนต์สกดให้กลับมาใช้งานร่มกลับด้านชนิดอีกครั้งอย่างแน่นอนเลยล่ะ เมื่อทราบถึงคุณประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้รับจากนวัตกรรมร่มแบบใหม่ประเภทนี้อย่างร่มกลับด้านแล้วล่ะก็ อย่าลืมไปทดลองซื้อมาใช้กัน เพราะว่าร่มกลับด้านนั้น เป็นร่มดีที่ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ

เบื่อไหม ที่ต้องเจอกับสภาพอากาศฝนตกแทบจะทุกวัน ขนาดพกพาร่มไปด้วยแล้ว เสื้อผ้าของเราก็ยังเปียกอยู่เลย เปียกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ทำไมมีร่มแล้วยังเปียก กว่าจะหุบร่มได้ ก็ทำเราเปียกไปทั้งตัวเสียแล้ว ยิ่งพอเข้ามาในบ้าน ที่ทำงาน น้ำฝนที่ติดอยู่กับร่มก็หกเลอะเทอะบนพื้นเต็มไปหมด คงไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน สำหรับคนที่รักความสะอาดหรือแม่บ้านต้องปวดหัวอย่างแน่นอน นอกจากนั้นแล้วยังพบกับปัญหาในขณะที่ทำการขึ้นรถยนต์ส่วนตัวอีกด้วย เพราะกว่าจะทำการหุบร่มได้นั้นก็เล่นเอาเปียกไปทั้งตัวเสียแล้ว ยิ่งถ้าภายในรถยนต์ส่วนตัวของเราเปิดแอร์เย็นด้วยแล้วล่ะก็ คงหนาวตัวสั่นกันน่าดูเลยนะคะ นอกจากเสื้อผ้าของเราจะเปียกแล้ว น้ำฝนที่เกาะอยู่กับร่มยังเปียกรถ เบาะรถ เอกสารภายในรถอีกด้วย ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดไป หากเปลี่ยนมาใช้ “ร่มกลับด้าน “ หมดปัญหากับร่มแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเดินทางเข้าบ้าน ที่ทำงาน ขึ้นรถ ลงเรือ ไปเหนือล่องใต้ ก็นำร่มกลับด้านออกมาใช้ได้ ร่มกลับด้านแตกต่างจากร่มชนิดอื่น ๆ อย่าง ร่ม led ร่ม พับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว ร่มสนาม ร่มใส ร่ม 16 ก้าน ร่มพับ 5 ตอน ร่มพับ 2 ตอน ร่มบ่อสร้าง อย่างไร โดยจุดเด่นของร่มกลับด้านหลัก ๆ ที่สำคัญ นั่นก็คือ ผ้าร่มมีการเคลือบยูวี UV ถึง 2 ชั้น สามารถปกป้องป้องกันรังสีอยู่วีสูงสุดถึง 80% เลยทีเดียว ซึ่งมากกว่าร่มปกติทั่วไปหลายต่อหลายชนิด โครงของร่มกลับด้านนั้นมีความพิเศษเพราะผลิตมาจากไฟเบอร์ผสมกับอลูมิเนียมเสริมความแข็งแกร่ง เกรดคุณภาพ ไม่เป็นสนิม แข็งแรง มนมาน กางใช้งานง่าย พับเก็บง่าย น้ำหนักเบา แม้ว่าเปิดประตูรถจะเปิดแคบสักแค่ไหน ร่มกลับด้านก็สามารถกางออกและพับเก็บร่มกลับด้านได้อย่างง่ายดาย สะดวกมาก ที่สำคัญก็คือสามารถวางตั้งร่มกลับด้านได้โดยที่ไม่ต้องมีที่เก็บร่มก็ยังได้ ถือได้ว่าเป็นของใช้ภายในบ้านที่ควรมีติดบ้านไว้เป็นอย่างยิ่งเลยกับร่มกลับด้าน และแตกต่างจากร่มธรรมดาทั่ว ๆ ไปจริง ๆ

ร่มกลับด้านยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บริเวณด้ามจับตัว C สำหรับคล้องมือ สามารถเล่นมือถือได้อย่างสะดวกสบาย ไม่มีหลุดดมือ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือ ร่มกลับด้านสามารถตั้งบนพื้นราบได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีที่เก็บร่มแต่อย่างใด แถมยังเป็นการระบายน้ำฝนออกไปในตัวอีกด้วยเพียงแค่ตั้งทิ้งไว้เท่านั้น นอกจากนี้แล้วร่มกลับด้านยังมีสีสันมากมายให้เราได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นลวดลายพื้นฐาน สีพื้น สีเขียว สีแดง สีฟ้า สีดำ สีชมพู สีส้ม สีบานเย็น สีเหลือง สีน้ำเงิน สีเขียว หรือจะเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลายดอกทานตะวัน ลายดอกเดซี่ ลายดอกกล้วยไม้ ลายธรรมชาติ ลายท้องฟ้า ลายทะเล ลายภูเขา ลายป่าไม้ ลายสก็อต ลายอวกาศ และลายอื่น ๆ อีกมากมาย

ร่มกลับด้านนั้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมาก ทั้งกันแดด กันฝน ทนกับทุกสภาพอากาสของบ้านเราและใช้เป็นร่มพรีเมี่ยม และมีดีไซน์เก๋มีสไตล์ สามารถเสริมภาพลักษณ์ดูดีมีระดับให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี แถมร่มกลับด้านยังสามารถนำมาผลิตเป็นร่มเพื่อใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์บริษัท องค์กร ธุรกิจ ห้างร้าน ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักสู่สายตาคนหมู่มาก ประโยชน์ครบครันจนต้องหาซื้อจับจองเป็นเจ้าของกับร่มกลับด้านตัวช่วยคลายทุกปัญหาในหน้าฝน

หากจะพูดถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับทุกท่านในช่วงเวลาที่ฝนตกแล้วล่ะก็ คงหนีไม่พ้น “ร่ม” อย่างแน่นอน ซึ่งร่มก็มีประโยชน์และคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นร่มตอนเดียว ร่มพับขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับพกพาไปไหนมาไหนในการเดินทาง ร่มสนามที่มีขนาดใหญ่เหมาะกับการใช้งานบริเวณบ้าน สวน โรงแรม รีสอร์ท หรือจะเป็นร่มกลับด้าน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด โดยความพิเศษของร่มกลับด้านนั้นจะมีความเฉพาะเจาะจงเป็นอย่างมาก สามารถใช้งานบนพื้นที่แคบได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกขณะ ขึ้น – ลง รถยนต์ในขณะที่ฝนตก เพราะในขณะที่ทำการใช้งานร่มกลับด้านนั้น ในเวลาที่กางออกจะสลับจากด้านนอกมาไว้ด้านในและสลับด้านในไปไว้ข้างนอก ทำให้เวลา ขึ้น-ลง รถเวลาฝนตก เราแค่ทำการเปิดประตูรถยนต์เพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถกางหรือหุบร่มกลับด้านได้แล้ว สะดวกสบายแถมน้ำฝนไม่เปียกเลอะแขนเสื้อหรือภายในรถอีกด้วย ไม่ว่าฝนจะตกลมจะแรงสักแค่ไหน หรือวันที่อากาศร้อนเกินไป ร่มกลับก็สามารถปกป้องคุณได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติของร่มกลับด้านที่สำคัญต่าง ๆ อีกมากมาย

โดยคุณสมบัติที่สำคัญของร่มกลับด้าน 2 ชั้น ประกอบไปด้วย

1.ร่มกลับด้านสามารถ กันน้ำ กันฝน กันแดด กันลม กันรังสี UV ได้เป็นอย่างดี

2.ร่มกลับด้านมี ขนาดใหญ่ สามารถใช้งานพร้อมกันได้ถึง 2 คนในคันเดียว

3.ร่มกลับด้านผลิตจาก โครงไฟเบอร์และอลูมิเนียม แข็งแรง ทนทาน

4.ร่มกลับด้านเหมาะกับการใช้งานคู่กับรถยนต์ ไม่ว่าจะ ขึ้น – ลง ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

5.หมดปัญหาน้ำฝนหกเลอะภายในรถ หรือบริเวณพื้นห้อง เพราะด้านที่เปียกฝนจะด้านในตัวร่มเมื่อทำการหุบร่ม และยังสามารถเทน้ำฝนออกก่อนได้

6.ใช้งานง่าย ในที่แคบหรือพื้นที่จำกัดก็สามารถใช้งานร่มกลับด้านได้

7.นวัตกรรมใหม่ สีสันสดใส ดึงดูดทุกสายตา

8.ด้ามจับร่มกลับด้านตัว C แบบคล้องมือหรือเกี่ยวได้

9.ผ้าร่มสองชั้น ป้องกันแสงแดดได้ดี

จากคุณสมบัติพิเศษและประโยชน์ข้างต้นร่มกลับด้านยังสามารถใช้งานบนรถประจำทางสาธารณะ หรือ ทางเดินต่างระดับได้ดีอีกด้วย ด้ามจับตัว C ที่สามารถคล้องหรือเกี่ยวบริเวณราวจับบนรถประจำทางสาธารณะ โดยไม่หลุด เหมือนกับร่มธรรมดาทั่วไป และความแข็งแรงของร่มที่มั่นใจได้เลยว่าแม้ว่ารถประจำทางจะเบรกแรงแค่ไหนยังไงร่มก็ไม่มีวันหักอย่างแน่นอน ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้อย่างยาวนาน

และในการพับเก็บร่มกลับด้านก็ง่ายแสนง่ายมาก ในสภาพอากาศปกติ เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยเพียงทำการหุบร่มและจับที่บริเวณปลายร่ม หลังจากนั้นทำการหมุนหรือบิดบริเวณด้ามจับของร่มสักครู่หนึ่ง เพียงเท่านี้ก็สามารถจัดเก็บร่มกลับด้านได้อย่างเรียบร้อยแล้ว

หากใช้งานร่มกลับด้านหลังจากช่วงฝนตก ก่อนอื่นเลยควรเทน้ำฝนออกจากร่มของเราเสียก่อน และนำร่มผึ่งให้แห้งสักครู่แล้วจึงเก็บร่มกลับด้านตามปกติ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อราที่เกิดจากการเปียกชื้นของผ้าร่ม

และทั้งหมดนี้ก็เป็นรายละเอียดของร่มกลับด้าน 2 ชั้น ที่มีขายในปัจจุบัน ทุกท่านสามารถหาซื้อมาจับจองเป็นเจ้าของ หรือจะสั่งผลิตเพื่อใช้ในองค์กร แจกให้กับลูกค้า หรือนำมาขายเป้นแบรนด์ของตนเอง รับรองได้เลยว่าผู้ที่ได้รับไปไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คนรู้จัก หรือตัวท่านเองจะต้องประทับใจร่มกลับด้านชนิดนี้อย่างแน่นอน