เปรียบเทียบร่มตอนเดียว vs ร่มพับ แบบไหนเหมาะกับองค์กรคุณ?

ในโลกของของพรีเมี่ยมที่ใช้แจกเพื่อส่งเสริมแบรนด์ “ร่มตอนเดียว” ถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมของหลายองค์กร โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนหรือกิจกรรมกลางแจ้ง แต่หลายคนอาจยังไม่รู้จักข้อแตกต่างของแต่ละประเภท บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า “ร่มตอนเดียว” คืออะไร มีจุดเด่นอะไรเมื่อเทียบกับร่มพับ และเหมาะกับการใช้งานแบบไหน

ร่มตอนเดียวคืออะไร?

คือ ร่มที่มีโครงสร้างแบบท่อนเดียวตั้งแต่ด้ามจนถึงจุดกาง ไม่สามารถพับย่อเก็บให้เล็กลงได้ จุดเด่นหลักคือความแข็งแรงของโครงสร้าง ช่วยให้ทนต่อแรงลม แรงฝนได้ดีกว่าร่มพับ อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับสกรีนโลโก้ที่ใหญ่ เหมาะกับการใช้โปรโมตแบรนด์ในกิจกรรมกลางแจ้งอย่างมาก

ร่มพับคืออะไร?

คือ ที่สามารถพับเก็บได้หลายตอน เช่น ร่มพับ 2 ตอน หรือ 3 ตอน จุดเด่นคือความกะทัดรัด พกพาง่าย ใส่กระเป๋าได้สะดวก เหมาะสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันหรือแจกในงานที่ต้องการของชิ้นเล็ก น้ำหนักเบา เช่น งานประชุม งานสัมมนา หรือเป็นของขวัญพนักงาน

แบบตอนเดียว vs แบบพับ: เลือกแบบไหนดี?

การเลือกควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานเป็นหลัก หากองค์กรของคุณต้องการของแจกที่ใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น งานกีฬา งานแถลงข่าว หรือกิจกรรม CSR ที่ต้องเจอสภาพอากาศหลากหลาย แบบตอนเดียวจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะมีความแข็งแรง ไม่หักง่าย มีขนาดใหญ่สามารถป้องกันฝนหรือแดดได้ดี

อีกทั้งแบบตอนเดียวยังให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมเมื่อมอบให้ผู้รับ เพราะขนาดที่ใหญ่กว่า ดูภูมิฐาน และเหมาะกับการเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ เช่น แจกให้ลูกค้า VIP, แขกในงานเปิดตัวแบรนด์ หรืองานอีเวนต์สำคัญ

ในทางกลับกัน หากงบประมาณมีจำกัด หรือเน้นการแจกจำนวนมากในกิจกรรมภายในองค์กร เช่น สัมมนาภายใน ร่มพับจะเหมาะกว่า เพราะราคาต่อชิ้นมักจะถูกกว่า น้ำหนักเบา และผู้รับสามารถพกพาไปใช้งานได้สะดวกทุกวัน

ทำไมแบรนด์ใหญ่ถึงเลือกใช้ร่มตอนเดียวในกิจกรรมการตลาด?

1.เพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้ชัดเจน

ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า ทำให้สามารถพิมพ์โลโก้บริษัทได้ชัดเจน เห็นจากระยะไกล เพิ่มโอกาสที่แบรนด์จะถูกมองเห็นซ้ำ ๆ ในที่สาธารณะ เช่น ในสนามกีฬา ลานกิจกรรม หรือแม้แต่บนทางเท้า

2.สื่อสารความมั่นคงขององค์กร

แบรนด์ที่ต้องการสื่อภาพลักษณ์เรื่องความน่าเชื่อถือ เช่น กลุ่มธุรกิจการเงิน ประกันภัย หรือองค์กรราชการ มักเลือกใช้แบบตอนเดียวที่ดูแข็งแรง เพื่อให้ผู้รับสัมผัสได้ถึงคุณภาพที่แท้จริง

3.รองรับกิจกรรมกลางแจ้งได้ดี

ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม Outdoor เช่น เดินรณรงค์ แฟร์นิทรรศการ หรือเปิดบูธกลางแจ้ง แบบตอนเดียวสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแรงลมแรงฝน และยังดูมืออาชีพเมื่อใช้ประกอบกับเครื่องแต่งกายพนักงาน

4.ของพรีเมี่ยมที่ดูมีมูลค่า

ในเชิงจิตวิทยา ร่มตอนเดียวขนาดใหญ่จะให้ความรู้สึกว่าเป็นของขวัญที่มีราคาสูงกว่าร่มพับ และแสดงออกถึงความใส่ใจจากผู้ให้ อีกทั้งยังเป็นของใช้ที่เก็บไว้ได้นาน ใช้ได้หลายปี ไม่ใช่ของที่ผู้รับจะทิ้งง่าย

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนสั่งทำร่มตอนเดียว

– วัตถุประสงค์ของการแจก

วางแผนให้ชัดว่าจะใช้ร่มตอนเดียวในโอกาสใด เช่น แจกลูกค้า แจกในงานอีเวนต์ หรือมอบเป็นของขวัญพิเศษ การกำหนดเป้าหมายชัดเจนจะช่วยเลือกแบบและสเปกได้เหมาะสม

– งบประมาณและจำนวนที่ต้องการ

แม้แบบตอนเดียวจะดูพรีเมี่ยม แต่ราคาต่อชิ้นก็สูงกว่าร่มพับ ควรพิจารณางบต่อหน่วย และดูว่าจำนวนขั้นต่ำในการสั่งผลิต (MOQ) อยู่ที่เท่าใด ซึ่งโดยทั่วไปเริ่มต้นที่ประมาณ 100–200 คัน

– การเลือกวัสดุ

วัสดุผ้าควรเลือกที่กันน้ำได้ดี เช่น Pongee หรือ Oxford ส่วนโครงควรใช้เหล็กเคลือบกันสนิม หรือไฟเบอร์กลาสเพื่อความแข็งแรง ด้ามจับอาจเลือกแบบยางจับถนัดมือ หรือไม้สำหรับลุคคลาสสิก

– เทคนิคพิมพ์โลโก้

โลโก้สามารถสกรีนด้วยเทคนิคซิลค์สกรีน (คมชัด ประหยัดงบ), Sublimation (พิมพ์ลายเต็มผืน สีสด), หรือ Digital Print (งานละเอียดสูง เหมาะกับโลโก้ซับซ้อน)

สรุป: ทำไมร่มตอนเดียวจึงเหมาะกับการใช้งานองค์กร

หากคุณต้องการของแจกที่สร้างการจดจำแบรนด์ได้จริง ใช้งานได้ทนในกิจกรรมกลางแจ้ง และยังดูพรีเมี่ยมเมื่อมอบให้ลูกค้า ร่มตอนเดียว คือตัวเลือกที่ควรค่าแก่การลงทุน ด้วยพื้นที่แสดงโลโก้ขนาดใหญ่ ดีไซน์ที่ดูภูมิฐาน และการใช้งานที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย

หากคุณกำลังมองหาแหล่งผลิตร่มตอนเดียวที่เชื่อถือได้ พร้อมบริการออกแบบและสกรีนโลโก้ครบวงจร 👉 ลองดูที่ umbrella-perfect.com ที่มีหลายแบบให้เลือก พร้อมทีมงานดูแลทุกขั้นตอน