ไขข้อข้องใจ ทำไม”ร่ม”จึงเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่สนใจแบรนด์
เป็นที่ทราบกันดีว่าในโลกของธุรกิจปัจจุบัน “แบรนด์” หรือตราสินค้า ยี่ห้อสินค้านั้นถือเป็นองค์ประกอบส่วนนึงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกธุรกิจ โดยในการเลือกซื้อเลือกหาสินค้าใดๆ ไปใช้งาน ผู้บริโภคมักใช้แบรนด์เป็นปัจจัยแรก ๆ ในการพิจารณาเสมอ เรียกว่าได้ความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และภาพลักษณ์ในแบรนด์ที่ธุรกิจต่างๆ สร้างขึ้นนั้นมีอิทธิพลต่อการเลือกบริโภคของผู้บริโภคอย่างมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามกลับมีสินค้าบางชิ้น บางประเภทที่แบรนด์ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้งานของผู้บริโภคมากขึ้นตามยุคสมัยแต่อย่างใด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสินค้าอย่าง”ร่ม” โดยหากสังเกตพฤติกรรมการเลือกซื้อเลือกหาร่มมาไว้ใช้งานของผู้บริโภคทั่วไปก็จะพบว่าแบรนด์แทบจะไม่มีส่วนต่อการตัดสินใจเลือกเลย โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่มักพิจารณาจากเพียงแค่ปัจจัยเรื่องของลักษณะ แบบอย่างเช่น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มกลับด้าน และขนาดของร่มที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานเป็นหลัก ในบทความนี้จึงจะชวนมาไขข้อข้องใจกันว่าเพราะอะไร สินค้าอย่างร่ม จึงเป็นสินค้าที่บริโภคส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องแบรนด์ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัยแล้วก็ตาม
เป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้งานในชีวิตประจำวัน เหตุผลประการแรกที่ทำให้ร่มเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่สนใจเรื่องแบรนด์สักเท่าไหร่ก็คือ ความจำเป็นในการใช้งานในชีวิตประจำวันนั่นเอง ว่ากันง่ายๆ ก็คือ ผู้บริโภคทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้งานร่มในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน ซึ่งต่อให้ไม่มีตัวเลือกแบรนด์สินค้าที่ชื่นชอบให้เลือกใช้ ผู้บริโภคก็ต้องเลือกสินค้าจากแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งมาใช้อยู่ดี ดังนั้นผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงมองว่าแบรนด์ไม่มีผลต่อการใช้งานสินค้าชิ้นนี้นั่นเอง
สินค้าฟรีก็สามารถใช้งานทดแทนกันได้ สาเหตุสำคัญประการนึงที่ต้องบอกว่ามีส่วนอย่างมากที่ทำให้ร่มเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่สนใจเรื่องแบรนด์ก็คือ สินค้าฟรี หรือร่มพรีเมี่ยมที่แบรนด์ธุรกิจห้างร้านต่างๆ นิยมทำแจก แถมให้กับลูกค้าฟรีๆ ในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าร่มพรีเมี่ยมเหล่านี้ที่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องควักเงินซื้อก็สามารถใช้งานกันแดด กันฝน ทดแทนสินค้าที่มีวางจำหน่ายทั่วไปได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสินค้าพรีเมี่ยมในแคมเปญการตลาดใดๆ ถูกดีไซน์มาเฉพาะ หรือมีลวดลายลิขสิทธิ์เฉพาะก็ยิ่งทำให้ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้ดีกว่าสินค้าที่มีวางจำหน่ายทั่วไป ผู้บริโภคจึงยิ่งมองข้ามปัจจัยเรื่องแบรนด์ผู้ผลิตไป และหันมาให้ความสนใจกับการร่วมกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เพื่อให้ได้รับสินค้าแทน
ใช้งานร่วมกันหลายคน ด้วยความที่ตัวสินค้าอย่างร่มนั้นมีประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานที่ทุกคนมีความต้องการใช้งาน ดังนั้นแน่นอนว่าสิ่งนึงที่หลีกเลี่ยงได้ยากก็คือ การใช้งานร่วมกันหลายคน โดยอาจเป็นการผลัดเปลี่ยนกันใช้ร่วมกันกับคนในครอบครัว หรือการให้ญาติ แขก คนรู้จักหยิบยืมในสถานการณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้งาน ซึ่งการใช้งานสินค้าร่วมกันหลายคน หลายมือนี้เองที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับแบรนด์สินค้าน้อยลงไปอีก เพราะการตัดสินใจเลือกสินค้าชิ้นใด ๆ จากแบรนด์ย่อมตามมาด้วยการให้ความสำคัญเรื่องของการถนอม รักษาสภาพสินค้าให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ เนื่องจากผู้บริโภคมักจะรู้สึกว่าราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแบรนด์นั้นสูงเกินกว่ามูลค่า และประโยชน์ใช้สอยที่แท้จริงของตัวสินค้า การจ่ายเพื่อแบรนด์สำหรับสินค้าที่ยากต่อการดูแลรักษา มีการเปลี่ยนมือใช้งานหลายมือ และอาจเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วจึงถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่านั่นเองและเพื่อการใช้ร่มไปอีกยาวนั้นควรเก็บไว้ในที่เก็บร่มโดยเฉพาะ