ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนผ้าร่ม สำหรับร่มสนามกลางแจ้ง
ปกติร่มที่เรามักใช้กันอยู่บ่อย ๆ ก็จะเป็น ร่มพับ ร่มตอนเดียว ร่มกอล์ฟ แต่จะมีร่มอยู่อีกหนึ่งรูปแบบ ที่เราหลายคนมักจะมองข้าม สำหรับการนำไปทำเป็นของพรีเมี่ยม เพราะอาจคิดว่ามันพกพาไปไหนมาไหนได้ลำบาก แต่ในทางกลับกันร่วมสนิทนี้กลับมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า หรือสำหรับผู้ที่ต้องการจะออกบูธ หรือสำหรับการเสริมทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นร้านกาแฟเป็นต้น แน่นอนว่าที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้ ก็คือร่มสนาม ที่เรามักจะตั้งไว้กลางแจ้งนั่นเอง
โดยปกติร่มสนามกลางแจ้งนี้ มักจะถูกตั้งทิ้งไว้โดยไม่ได้พับเก็บอะไร เป็นแบบนี้อยู่ตลอดทั้งวัน ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเสื่อมสภาพได้มากกว่ารูปแบบทั่วไป และคุณเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า เขาเปลี่ยนผ้าใบกันอย่างไร และเมื่อใดที่เราควรเปลี่ยน วันนี้เราจะพาคุณมาดูกัน
เมื่อใดที่เราควรเปลี่ยนผ้าร่ม
เราควรเปลี่ยนผ้าร่มได้ด้วยหลากหลายกรณีด้วยกัน ที่เห็นได้ชัดเจนคือบริเวณผ้าใบมีรอยฉีกขาด โดยปกติหากเป็นคันใหญ่ๆแบบนี้ แล้วมักจะเริ่มมีรอยฉีกขาดมันมักจะเริ่มจากบริเวณส่วนปลายผ้าใบ และมักเกิดรูรั่วได้บ่อย ๆ ด้วย บริเวณตรงรอยเย็บตรึง หากเราไม่รีบเย็บเพื่อซ่อมแซม มันก็มักจะเสียหายจนเราต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งผืน หรืออีกในกรณีคือการที่ผ้าใบร่มมีความแห้งกรอบ ทั้งนี้ก็เนื่องจากการตั้งไว้กลางแจ้งทั้งวันหรือเป็นเวลานาน อาจจะถูกแดดจนเก่า แห้งกรอบและเสื่อมสภาพลงในที่สุด จนมันไม่สามารถทำหน้าที่กันแดดให้เราได้อีกต่อไป
หรือในกรณีที่สีของผ้าใบเกิดการซีดหมอง ในกรณีมักจะเกิดขึ้นได้กับร่มที่ถูกใช้งานนาน ๆ และหากเป็นแบบที่เราใช้สำหรับการโฆษณา เราอาจจะต้องดูแลเรื่องของสีสันและลวดลายเป็นพิเศษ ดังนั้นหลายคนจึงนิยมเปลี่ยนกัน ในกรณีที่มันขึ้นรา อาจจะเกิดจากความชื้น ซึ่งเวลาเหล่านี้อาจจะทำให้ไม่น่าดูชมนัก เราก็ควรที่จะเปลี่ยนเช่นเดียวกัน ส่วนมากแล้วร้านที่เปลี่ยนอาจจะเป็นร้านที่ต้องใส่ใจเรื่องสุขอนามัยเป็นพิเศษ อย่างร้านอาหารหรือร้านกาแฟ
ขั้นตอนในการเปลี่ยนผ้าใบร่ม
ก่อนที่เราจะทำการเปลี่ยน เราจำเป็นที่จะต้องรู้ก่อนว่าผ้าใบของร่มของเราอันเก่ามีขนาดเท่าไหร่ จะได้ซื้อผ้าใบอันใหม่ให้พอดีกับอันเดิม จากนั้นเราจึงทำการถอดส่วนประกอบออกทีละชิ้นตามขั้นตอน
เริ่มจากบริเวณจุกก่อน ไม่ว่าจะเป็นแบบที่สี่เหลี่ยม หรือแบบตัวแอลก็ตาม ไม่ว่าจะแบบไหนก็ต้องมีจุกครอบอยู่บริเวณด้านบนเสมอ หากมีตะปูหรือน็อตยึดอยู่ก็ให้ทำการเอาออก หลังจากนั้นจึงทำการดึงหรือหมุนฝาครอบออกได้ ต่อไปเราจะทำการแกะได้รอบจุก มันจะมีผ้ากรองจุกอยู่ ตรงนี้สำหรับการกันน้ำฝนซึมซ้อนอยู่ใต้จุก ก็ให้ทำการถอดออกและเลาะด้าย หรือลวดที่พันโดยรอบออก
ทำการแกะอุปกรณ์ที่ทำการยึดผ้านั้นไว้ โดยให้เราทำการหงาย กางออกให้สุด แล้วนำวัสดุที่ใช้ยึดกับซี่ผ้าใบออก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นด้ายกับคลิปเหล็ก ทำการถอดโครงออก โดยการทำการดึงบริเวณซี่ให้โค้งเล็กน้อย จะทำให้ เราปลดออกได้ง่ายขึ้น ทำให้ครบทุกด้าน ใช้มือดึงวงแหวนที่เชื่อมซี่กับเสา มาทางบริเวณฐานจนสุดมือ จากนั้นทำการยกโครงออกทั้งหมด
ต่อไปให้เราทำการใส่ผ้าใบผืนใหม่ โดยการนำมาวางไว้บนพื้น พับเป็นครึ่งวงกลม จากนั้นเราจะนำบริเวณโครงมาสอดเข้าตรงกลางผ้า โดยให้ปลายสุดของก้านยื่นออกมา จากนั้นทำการใส่บริเวณตู้มให้ครบทุกด้าน ติดอุปกรณ์สำหรับการยึดผ้า ทำการเย็บพันบริเวณจุก และขั้นตอนสุดท้ายเราจะทำการใส่จุกกลับเข้าที่ให้เรียบร้อย