ร่มแบบไหนเหมาะกับงานสัมมนา vs แคมเปญกลางแจ้ง

ในโลกของการทำการตลาดเชิงกิจกรรม ของแจกที่ใช้งานได้จริงและสร้างการจดจำแบรนด์ได้ชัดเจนถือว่ามีคุณค่าอย่างมาก “ร่ม” เป็นหนึ่งในไอเท็มยอดนิยมที่หลายองค์กรเลือกใช้ เพราะสามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องประโยชน์ใช้สอยและภาพลักษณ์ แต่การเลือกชนิดให้เหมาะกับประเภทงานก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเราพูดถึง งานสัมมนา ที่มักจัดในพื้นที่ปิด และ แคมเปญกลางแจ้ง ที่ต้องการสร้างความโดดเด่น

ความต่างที่ชัดเจนของร่มพับและร่มสนาม

ร่มพับ – ความสะดวกคือหัวใจหลัก

อุปกรณ์กันฝนแบบพับออกแบบมาให้พกง่าย มีทั้งร่มพับ 2 ตอน 3 ตอน หรือแม้กระทั่งแบบอัตโนมัติที่เปิด-ปิดได้เพียงกดปุ่ม เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันฝนหรือบังแดดในชีวิตประจำวัน จุดเด่นที่ทำให้เหมาะกับงานสัมมนาคือ ความสะดวกต่อการแจก เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก และสามารถเก็บใส่ถุงหรือกล่องของที่ระลึกได้โดยไม่เปลืองพื้นที่
อย่างไรก็ตาม แบบพับก็มีข้อจำกัด โดยเฉพาะเรื่องความทนทานต่อสภาพอากาศรุนแรง เช่น ลมแรงหรือฝนตกหนักต่อเนื่อง เพราะโครงสร้างที่พับได้มักมีจุดเชื่อมหลายจุดซึ่งอาจทำให้เสียรูปได้ง่าย หากไม่ได้เลือกวัสดุที่มีคุณภาพสูง

ร่มสนาม – ความแข็งแรงและพื้นที่คือจุดขาย

ร่มสนามหรือบางครั้งเรียกว่า “ร่มแม่ค้า” เป็นคันขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับบังแดดกันฝนในพื้นที่กลางแจ้ง โครงสร้างแข็งแรง มีเสาขนาดใหญ่และก้านที่รับแรงลมได้ดี เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการครอบคลุมพื้นที่กว้าง เช่น งานเปิดตัวสินค้า งานแฟร์ งานกีฬา หรือบูธประชาสัมพันธ์ในงานอีเวนต์
ความโดดเด่นอยู่ที่ พื้นที่สกรีนโลโก้ขนาดใหญ่ ทำให้ผู้คนมองเห็นแบรนด์จากระยะไกล อีกทั้งยังช่วยสร้างจุดนัดพบหรือจุดพักผ่อนให้กับผู้ร่วมงานได้ จึงเหมาะกับการสร้างบรรยากาศและเพิ่มประสบการณ์เชิงบวกให้กับกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ชนิดนี้ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งและมีน้ำหนักมาก จึงไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคล่องตัวหรือเปลี่ยนสถานที่บ่อย

เลือกให้เหมาะกับประเภทงาน

งานสัมมนา

งานสัมมนามักจัดในโรงแรม ศูนย์ประชุม หรือสำนักงาน ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดหรือกึ่งเปิด การให้กันแดดกันฝนแบบพับเป็นของที่ระลึกถือว่ามีความเหมาะสม เพราะผู้เข้าร่วมสามารถพกกลับบ้านได้สะดวก และยังใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังเหมาะกับการสกรีนโลโก้หรือข้อความสั้น ๆเป็นของแจกงานสัมมนา เพื่อให้ผู้รับจดจำแบรนด์ได้ทุกครั้งที่หยิบมาใช้
แบบพับยังเหมาะกับการแจกจำนวนมาก เพราะขนส่งง่าย และจัดเก็บในโกดังหรือรถขนส่งได้โดยไม่เปลืองพื้นที่

แคมเปญกลางแจ้ง

สำหรับกิจกรรมที่ต้องดึงดูดสายตาผู้คนในพื้นที่กว้าง ร่มสนามตอบโจทย์อย่างชัดเจน เพราะขนาดใหญ่และมีพื้นที่ให้ตกแต่งโลโก้หรือลวดลายที่สะดุดตา ทำให้บูธหรือจุดกิจกรรมดูโดดเด่นทันที
ตัวอย่างเช่น งานเปิดตัวเครื่องดื่มกลางสวนสาธารณะ หรือแคมเปญส่งเสริมการขายที่ต้องตั้งบูธริมถนน ร่มสนามสามารถบังแดดให้พนักงานและลูกค้าได้พร้อมกัน และยังเป็นเสมือน “ป้ายโฆษณาเคลื่อนที่” ที่มองเห็นได้จากระยะไกล

ปัจจัยที่ต้องคิดก่อนสั่งทำ

1.งบประมาณและจำนวนชิ้น

แบบพับมักมีราคาต่อชิ้นต่ำกว่า เหมาะกับการแจกจำนวนมากในงบจำกัด ขณะที่ร่มสนามมีราคาสูงกว่าแต่สามารถใช้ซ้ำในหลายกิจกรรม ซึ่งอาจคุ้มค่ากว่าในระยะยาว

2.ความสอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์

สี ดีไซน์ และวัสดุของสินค้าควรสอดคล้องกับ Corporate Identity ขององค์กร เช่น แบรนด์ที่ต้องการความทันสมัยอาจเลือกแบบพับอัตโนมัติ ส่วนแบรนด์ที่เน้นความมั่นคงและความเป็นมืออาชีพอาจเลือกแบบสนามที่ดูแข็งแรง

สรุปแนวทางการเลือก

การเลือกควรพิจารณาจากประเภทงาน วัตถุประสงค์การใช้งาน กลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณ งานสัมมนาที่เน้นความคล่องตัวและการแจกให้ผู้เข้าร่วมทุกคนเหมาะกับร่มพับ ขณะที่แคมเปญกลางแจ้งที่ต้องการสร้างความโดดเด่นและพื้นที่บังแดดกันฝนให้หลายคนพร้อมกัน ควรเลือกร่มสนาม
หากตัดสินใจได้ถูกต้อง ร่มจะไม่ใช่แค่ของแจก แต่จะกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารแบรนด์ที่มีพลังและใช้งานได้จริง หากต้องการสั่งทำให้เหมาะกับกิจกรรมขององค์กร ลองดูตัวอย่างผลงานและปรึกษาทีมงานได้ที่ umbrella-perfect.com เพื่อให้การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด