ความแตกต่างของร่มแต่ละประเภท

ร่มถูกนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับร่มเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่ยังไม่รู้ว่าร่มแต่ละประเภทนั้นมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ร่มถูกผลิต และออกแบบดีไซน์มาในลักษณะที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการนำมาใช้งานเป็นส่วนใหญ่ ในปัจจุบันคนเราต้องพบเจอกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งแดด ลม และฝน ถึงแม้ว่าในบ้านเราจะมีกรมอุตุนิยมวิทยาที่คอยพยากรณ์อากาศในแต่ละวันล่วงหน้าไว้แล้วก็ตาม แต่ในบางครั้งสภาพแวดล้อมก็ไม่ได้เป็นใจดั่งการพยากรณ์เสมอไป ช่วงเช้าท้องฟ้าแจ่มใสอยู่ดี ๆ ฝนกลับตกลงมาเสียอย่างนั้น ทำให้เราต้องรีบร้อนจนนำร่มออกมากางแทบไม่ทัน บางครั้งแดดส่องตั้งแต่เช้าตรู่ คงคิดว่าวันนี้ฝนคงไม่ตกอย่างแน่นอน จึงไม่ได้พกร่มไปไหนต่อไหน ตกเย็นมา ฝนกระหน่ำเหมือนถูกฟ้ากลั่นแกล้งเสียอย่างนั้น กว่าจะถึงบ้านเนื้อตัวก็เปียกปอนไปหมดแล้ว ถ้าหากลองสังเกตให้ดีวันไหนที่เราพกร่มไปข้างนอก ฝนมักจะไม่ตก วันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกร่มแต่ละชนิดมาฝากทุกคนกันเพื่อนำไปป้องกันฝนตกนั่นเอง

ร่มตอนเดียว

เป็นร่มที่มีแบบโครงเหล็ก โครงไม้ และโครงไฟเบอร์ โดยร่มตอนเดียวที่หลายคนนิยมเลือกใช้มักจะเป็นร่มตอนเดียวโครงเหล็ก เพราะมีราคาที่ถูก มีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย มีขนาดที่พอเหมาะสำหรับผู้ใช้งาน และยังสามารถหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย ร่มชนิดนี้นั้นสามารถกันทั้งแดดและฝนได้เป็นอย่างดี มีความทนทานและอายุการใช้งานที่สูงมากเลยทีเดียว

ร่มใส

ร่มใสเป็นร่มที่มีความสวยงาม ร่มใสจึงเป็นร่มอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยม นอกจากข้อดีในเรื่องของความสวยงาม และความโรแมนติกแล้วล่ะก็ ร่มชนิดนี้ยังมีข้อเสียอยู่หนึ่งอย่างที่ร่มชนิดอื่นไม่มีนั่นก็คือ ร่มชนิดนี้ไม่สามารถกันแดดได้นั่นเอง เนื่องจากว่าร่มชนิดนี้นั้นมีลักษณะของผ้าร่มที่โปร่งใส สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบ ๆ ได้ 360 องศาเลยก็ว่าได้ เมื่อแสงแดดส่องลงมาจึงทำให้ทะลุผ่านมายังตัวเรา เป็นเหตุผลว่าทำไมร่มชนิดนี้ถึงไม่สามารกันแดดได้นั่นเอง

ร่มกลับด้าน

อาจจะมีบางคนที่ยังคงสงสัยว่าร่มกลับด้านนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมจึงชื่อร่มกลับด้าน ร่มกลับด้านจริง ๆ แล้วมีลักษณะที่คล้ายกับร่มทั่วไปเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพับเก็บร่มกลับด้าน จะมีลักษณะที่สวนทางกลับร่มทั่วไป โดยร่มทั่วไปเมื่อพับเก็บจะปิดลงอัตโนมัติ แต่ร่มกลับด้านนั้นจะเป็นการพับลงของผ้าร่มด้านในเพื่อคลุมด้านนอกของร่มอีกที เพื่อความสะดวกในการใช้งานในพื้นที่แคบ อย่างรถยนต์ ใต้อาคาร ตามซอกตึก นั่นเอง ร่มกลับด้านนั้นส่วนใหญ่ได้รับนิยมในการใช้งานกับรถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะสามารถกางร่มในพื้นที่จำกัดอย่างประตูได้แล้ว ยังสามารถป้องกันน้ำฝนหกเลอะเทอะบนเบาะรถ หรือข้าวของภายในรถได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ร่มพับ

ร่มพับก็เป็นร่มอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ร่มตอนเดียว ด้วยคุณสมบัติของร่มพับ ที่มีขนาดเล็ก จุดเด่นที่สามารถพกพาได้ง่าย พับเก็บได้สะดวก ไม่เกะกะ มีความแข็งแรง เพราะโครงร่มทำมาจากเหล็ก มีน้ำหนักเบา สามารถใช้งานได้กับทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะคุณผู้หญิงนิยมใช้งานร่มชนิดนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ร่มพับนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้ง ร่มพับ 2 ตอน ร่มพับ 3 ตอน ร่มพับ 5 ตอน เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือความแตกต่างของร่มที่ถูกนำมาใช้งานในแต่ละประเภท ซึ่งร่มแต่ละประเภทมีการใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการเลือกใช้งานร่มในครั้งต่อ ๆ ไปเราก็ได้ทราบถึงลักษณะการใช้งานอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ร่มสามารถนำไปเป็นสินค้าที่ช่วยส่งเสริมทางด้านการตลาดได้ดีอีกด้วย

ผลงานของร่มพรีเมี่ยม