การบำรุงรักษา ร่ม
ร่มนั้นถือเป็นเป็นอุปกรณ์พกพาที่มีความสำคัญอยู่ในอันดับต้น ๆ เพื่อช่วยปกป้องผลกระทบต่อร่างกายจากสภาพอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะการใช้งานที่สะดวกเรียบง่าย มีติดรถติดบ้านโดยทั่วไปในวงกว้างมีหลากหลายแบบเช่น ร่มพับ ร่มกลับด้าน ร่มกอล์ฟ ร่มสนามเป็นต้น
ทว่า หลายต่อหลายคนอาจจะมีการใช้งาน ร่ม ในเชิงสมบุกสมบัน เพราะเข้าใจไปว่าเวลาซื้อมาใช้งาน ก็ย่อมเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ผลิตจะออกแบบมา สำหรับเผชิญกับรูปแบบการใช้งานที่ทรหดได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามแท้จริงนั้นอุปกรณ์ประเภท ร่ม ก็ยังคงมีโครงสร้างและวัสดุที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องอยู่เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนโลหะที่แม้จะมีการเคลือบสารป้องกันสนิม แต่ก็อาจมีการสึกกร่อนไปตามอายุการใช้งานได้ โดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้างที่มีรูปแบบของ ซอกมุม หลืบต่าง ๆ ในกลไก
ซึ่งหากเกิดผลกระทบในส่วนนี้ จะไม่เพียงแต่จะทำให้ร่มเก่าไว แต่ยังทำให้กลไกภายในอาจเกิดการติดขัดหรือชำรุดตามมาได้
อีกทั้ง ร่ม ในบางคัน ก็อาจจะมีการใช้งานวัสดุที่ดูคล้ายโลหะ แต่ไม่ใช่โลหะจริงโดยมีการเคลือบสีเอาไว้ให้เหมือนแค่นั้น นั่นหมายความว่าย่อมมีความเปราะบางและมีการสึกกร่อนได้ง่ายนั่นเอง
และอีกโครงสร้างที่เกิดชำรุดบ่อยหากใช้งานผิดวิธี นั่นก็คือในส่วนของผ้าใบหรือวัสดุใด ๆ ก็ตาม
ที่นำมาขึงอยู่ในส่วนด้านบนของร่ม ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มักเกิดความชำรุดได้ง่ายและเสื่อมสภาพได้ไวกว่าส่วนอื่นในโครงสร้างของร่ม
โดยการบำรุงรักษาร่มที่ดีนั้นควรจะต้องเริ่มจากการหลีกเลี่ยงการใช้งานที่ผิดประเภทหรือแม้จะมีการใช้งานบางอย่างที่มีความจำเป็นต้องทำ ก็จะได้มีการพยายามหลีกเลี่ยงให้เกิดภาวะที่จำเป็นนั้นน้อยที่สุดหากเป็นไปได้
สำหรับการใช้งานร่มที่กระตุ้นให้เกิดการชำรุดเสียหายได้ นั่นจะประกอบไปด้วยหลายกรณี
อาทิ การใช้ร่มต้านกับกระแสลมแรง ไม่ว่าจะใช้การบังในขณะที่เกิดพายุ หรือการใช้ร่มในขณะที่ขับขี่ยานพาหนะ เมื่อเกิดแรงต้านมาก ๆ ก็อาจทำให้ก้านร่มเกิดการหักงอชำรุดได้โดยง่าย และอาจเป็นอันตรายต่ออุบัติเหตุจากก้านร่ม โดยเฉพาะก้านร่มบางรุ่นที่มีความแหลมคม
นอกจากนี้การกางร่มเอาไว้ หลังจากการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้มักเห็นว่าร่มยังมีความเปียกชื้นอยู่
และต้องการผึ่งไว้ให้แห้ง ก็จะต้องมีลักษณะท่าวางที่เหมาะสม ซึ่งบางคนอาจวางแบบผิดวิธีเกิดการค้ำยันน้ำหนักของโครงสร้างส่วนใดส่วนหนึ่ง ที่อาจทำให้บริเวณก้านร่มเกิดการบิดรูปเอียงหรือเบี้ยวหรือหักงอได้
และในบางครั้งการชำรุดเสียหายของร่มก็เกิดขึ้นได้จากการเปิดหรือ หุบพับ เก็บอย่างผิดวิธีได้เช่นกัน เช่นทำแบบรุนแรงรวดเร็วเกินไป ทำให้กลไกการเคลื่อนตัวของร่มผิดจังหวะ จนเกิดการกระชากตัว รวมไปถึงการพับเก็บร่มที่ใช้มือรวบร่มเพิ่มเข้าไป เพื่อหวังความเร็วทันใจ ก็อาจจะสร้างความเสียหายได้เช่นกัน หรือมีการถือร่มอย่างไม่ระมัดระวัง เกิดการเกาะเกี่ยวกับวัตถุที่มีเหลี่ยมคมทำให้ผ้าใบของร่มเกิดการฉีกขาดได้
นอกจากนี้ยังมีความเสียหายที่เกิดจากการจัดเก็บร่มอย่างไม่ถูกต้อง เช่นมีการวางรวมไว้กับสิ่งของที่มีน้ำหนักกดทับ อันทำให้โครงสร้างเกิดการบิดตัวเสียหายได้ หรือมีการเบียดเสียดสีที่ทำให้ผ้าใบของร่มเกิดความเสียหายก็มีเกิดขึ้นได้เช่นกัน หรือมีการเปรอะเปื้อนของเหลวจากของใช้อื่น ๆ ที่มีสารเคมี ความเป็นกรดหรือความเค็ม อันทำให้เกิดสนิมตามมา หรือมีการกัดกร่อนโครงสร้างของร่มให้สึกหรอได้
สรุปโดยรวมแล้ว วิธีการใช้งานร่มนั้นมีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน อีกทั้งยังมีกลไกที่ไม่ได้มีความยากในการใช้งานแต่อย่างใด โดยทั้งหมดนั้นแค่จะต้องใช้อย่างถูกขั้นตอน มีการเคลื่อนกลไกอย่างเป็นจังหวะที่เหมาะสม มีการจัดวางอย่างถูกต้อง เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถดูแลรักษาร่มให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานได้ไม่ยากนอกจากนี้ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน หากต้องการร่มที่พกพาง่ายไม่ต้องถือตลอดแนะนำเป็นร่มพับเนื่องจากมีขนาดเล็กกระทัดรัดพกพาง่าย สามารถพับใส่กระเบาได้