CALL CENTER
    02-408-1377 (อัตโนมัติ 10 คู่สาย)

    blog

    ว่าด้วยเรื่องของการสกรีนร่มแบบ Silk Screen

    ร่มนับว่าเป็นหนึ่งอุปกรณ์สามารถประจำบ้านสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว เนื่องจากมันสามารถที่จะพกพาได้ และใช้งานได้อยู่เสมอไม่ว่าจะในช่วงไหนก็ตาม นอกจากจะมีการหยิบมาใช้งานทั่วไปภายในบ้าน หรือในครัวเรือนแล้ว หากเป็นทางแบรนด์ต่างๆ เอง ร่มมักจะถูกหยิบยกมาทำเป็นของแจก...

    ร่มนับว่าเป็นหนึ่งอุปกรณ์สามารถประจำบ้านสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว เนื่องจากมันสามารถที่จะพกพาได้ และใช้งานได้อยู่เสมอไม่ว่าจะในช่วงไหนก็ตาม นอกจากจะมีการหยิบมาใช้งานทั่วไปภายในบ้าน หรือในครัวเรือน ซึ่งร่มก็มีหลาย ๆ แบบอย่างเช่น ร่มตอนเดียว ร่มกอล์ฟ และอื่น ๆ หากเป็นทางแบรนด์ต่างๆ เอง ร่มมักจะถูกหยิบยกมาทำเป็นของแจก หรือที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่าของพรีเมี่ยมอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งนี้สามารถที่จะสร้างการมองเห็นได้โดยทั่วไป ผู้คนหยิบร่มไปใช้งานได้ในทุกช่วงเวลา ดังนั้นจึงสามารถสร้างการมองเห็นได้เป็นอย่างดี

     

    แต่การที่จะนำเอาร่มมาทำเป็นของพรีเมี่ยมนั้น แน่นอนว่าจำเป็นที่จะต้องมีการสกรีนโลโก้ หรือชื่อแบรนด์ลงไปบนอุปกรณ์ชนิดนี้ วิธีการสกรีนนั้นก็ไม่อยู่ด้วยกันไม่กี่รูปแบบ และวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องของวิธีการในการสกรีนร่มรูปแบบหนึ่ง คือวิธีการหรือเทคนิคการสกรีนร่วมที่เราเรียกกันว่า เทคนิคแบบ Silk Screen สิ่งนี้จะเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียแตกต่างจากรูปแบบอื่นอย่างไรบ้าง หรือมีวิธีการคร่าวๆ ในการสกรีนอย่างไร วันนี้เราจะชวนคุณมาดูกัน

     

    งาน Silk Screen คืออะไร

     

    สำหรับงาน Silk Screen นั้น เป็นรูปแบบหรือระบบหนึ่งในการพิมพ์ หรืองานสกรีน ซึ่งเทคนิคดังกล่าวนี้เป็นเทคนิคที่มีการใช้งานมาแล้วอย่างยาวนาน วิธีการในการทำค่อนข้างที่จะง่าย เพียงแค่เราทำการใช้บล็อกขึงด้วยผ้าให้ตึง จากนั้นเราจะใช้ไม้ปาดสีให้ผ่านรูผ้า เพื่อให้ลงไปบนวัตถุที่เราเตรียมไว้แต่แรก ถึงจะดูเป็นเทคนิคและวิธีการที่ง่ายดาย แต่วิธีการดังกล่าวนี้เป็นวิธีการที่จำเป็นที่จะต้องใช้ความละเอียดและรอบคอบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำบล็อก ไปจนถึงขั้นการสกรีนเลยทีเดียว โดยสีที่นิยมใช้สำหรับงานสกรีนประเภทนี้ จะนิยมในการใช้สีน้ำมัน

     

    ประเภทงานที่นิยมใช้การสกรีนแบบ Silk Screen

     

    แน่นอนว่าก็จะมีงานหลายประเภทที่นิยมใช้เทคนิคการสกรีนแบบซื้อสกรีน ยกตัวอย่างเช่นร่มพับ ที่เราหยิบยกมาคุยกันในวันนี้ นอกจากนี้ยังนิยมที่จะสกรีนลงบนถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าด้วย เนื่องจากมีสีสันที่สวยงามโดดเด่น เราอาจจะเห็นเทคนิคการสกรีนแบบซื้อสกรีนอยู่บ้างบนเสื้อ ลักษณะการสกรีนที่ได้ก็จะมีความนูนขึ้นมา ให้ภาพที่ดูมีมิติ อีกทั้งยังมีสีสันที่สดใสน่ามองด้วย

     

    สำหรับการสกรีนร่มนั้น กับเทคนิคการสกรีนแบบ Silk Screen เอง ที่นิยมใช้เนื่องจากการสกรีนในลักษณะนี้ จะมีขั้นตอนในการทำงานที่ไม่ได้ยุ่งยากมากมายนัก และนับว่าเป็นวิธีการทำงานที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย สำหรับโรงงานที่รับการผลิตของพรีเมี่ยมเอง ซึ่งหากเราใช้บริการโรงงานเหล่านี้ ก็จะมีขั้นตอนมากมายอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้ ไปจนถึงการผลิตจนเสร็จ งานที่ได้ออกมาจะมีลักษณะดูพรีเมี่ยมจริง ๆ

     

    ข้อดีและข้อสังเกตของงานสกรีนแบบ Silk Screen

     

    หากเป็นการสกรีนลงบนร่มนั้น ข้อดีของงาน Silk Screen อย่างหนึ่งคือ สามารถสกรีนลงบนช่องได้ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่จะสกรีนได้ค่อนข้างยาก หากเราไปใช้บริการโรงงานที่รับผลิต เราสามารถที่จะออกแบบได้ตามความต้องการของตัวเราเองเลย นอกจากนี้เทคนิคนี้ยังเป็นเทคนิคที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ในแง่ของผู้ผลิตเอง สามารถที่จะทำออกมาในปริมาณที่มากได้ นอกจากนี้งานที่ได้ยังค่อนข้างเป็นงานที่มีคุณภาพ ข้อดีอีกอย่างของงาน Silk Screen ก็คือ งานที่ออกมาของเรานั้นจะค่อนข้างเป็นงานที่มีความคงทน และลายหรือโลโก้ที่เราสกรีนออกมานั้น จะหลุดออกค่อนข้างยาก ดังนั้นจึงอยู่กับเราได้ค่อนข้างยาวนาน

     

    ถึงแม้ Silk Screen จะมีข้อดีอยู่มากมายก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อสังเกต หรือข้อเสียที่เราอาจจะควรรู้ไว้มากด้วยเช่นเดียวกัน หากใครต้องการงานสกรีนที่มีสีจำนวนมาก งาน Silk Screen อาจจะไม่เหมาะกับคุณมากเท่าไหร่ เพราะงานแบบนี้ไม่สามารถที่จะไล่ระดับสีได้มากมายนัก และยิ่งเป็นจำนวนสีที่เยอะ อาจจะทำได้แต่จะต้องใช้เวลาในการผลิตยาวนานขึ้น ดังนั้นซื้อสกรีนจึงนิยมที่จะสกรีนสีไม่เกิน 1-3 สีเท่านั้น

     

    ซ่อมเองได้ ไม่ต้องซื้อใหม่ วิธีการในการซ่อมร่มพับ

    ด้วยสภาพอากาศของบ้านเรา ที่ค่อนข้างจะมีแดดเกือบตลอดทั้งปี ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝนก็จะ แต่ก็ยังคงมีแดดแรง ซึ่งอาจจะทำลายผิวของหลายคนได้ ดังนั้นหลายคนจึงพกพาไอเทมชิ้นสำคัญ นั่นก็คือร่ม ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญ นอกจากจะสามารถช่วยในการกันแดดได้แล้ว...

    ด้วยสภาพอากาศของบ้านเรา ที่ค่อนข้างจะมีแดดเกือบตลอดทั้งปี ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝนก็จะ แต่ก็ยังคงมีแดดแรง ซึ่งอาจจะทำลายผิวของหลายคนได้ ดังนั้นหลายคนจึงพกพาไอเทมชิ้นสำคัญ นั่นก็คือร่ม ร่มนั้นมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นร่มกอล์ฟ  ร่มตอนเดียว และร่มอื่นๆ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญ นอกจากจะสามารถช่วยในการกันแดดได้แล้ว หลายคนยังใช้ร่มเพื่อกันฝน ซึ่งเป็นวิธีแกนใช้แบบปกติทั่วไป บางคนยังใช้กันลมได้ด้วยเหมือนกัน

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่มีลมแรง เราอาจจะเกิดปัญหา ร่มของเราเกิดอาการหัก หรือเกิดอาการเสียได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทร่มพับ ถึงจะมีลักษณะที่โดดเด่น คือสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย เนื่องจากมีความเล็กกะทัดรัด แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการอยู่ ยกตัวอย่างเช่นอาจที่จะไม่แข็งแรง เท่ากับร่มแบบอื่น ในวันนี้ เราจะบอกคุณว่า หากมันเกิดพังหรือเสียขึ้นมา เราอาจจะไม่ต้องทิ้ง และหาซื้ออันใหม่มาใช้งานก็ได้ แต่เราอาจจะซ่อมแซมมัน เพื่อสามารถที่จะทำให้เราได้ใช้งานในครั้งต่อไปได้ ใช่แล้วครับ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการในการซ่อมร่มพับ ว่าเราจะสามารถซ่อมแซมได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม หรืออย่างน้อยก็ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

    ร้อยบริเวณซี่ร่มด้วยลวด

    ส่วนสำคัญที่จะทำให้ร่มของเราแข็งแรงหรือไม่แข็งแรง คือบริเวณของโครง ยิ่งโครงมีก้านมากเท่าไหร่ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งมีก้านมาก อาจจะสามารถต้านทานต่อลมได้ดีมากยิ่งขึ้น หากเกิดการเสียหายบริเวณก้าน ให้เราทำการร้อย บริเวณของซี่ร่มโดยการใช้ลวด ทำการร้อยเข้าหากัน เพียงเท่านี้ก็จะมีความแข็งแรงมากขึ้นแล้ว

    ใช้ด้ายในการเย็บโครง

    ปัญหาอยู่ที่บริเวณก้าน ที่บ่อยครั้งอาจมีการหลุดจากผ้าได้ ซึ่งนับว่าเป็นสาเหตุการเสียที่เกิดขึ้นบ่อยเป็นอันดับต้นๆ หลายคนดันทุรังใช้งานต่อ โดยที่ไม่ได้ทำการซ่อมแซม หรือแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น อันที่จริงมันก็ใช้งานได้ แต่หากเราปล่อยมันทิ้งไว้เป็นระยะเวลาที่นาน อาจจะทำให้ซี่ที่อยู่เคียงข้าง หลุดออกมาได้เช่นเดียวกัน ส่วนของโครงทั้งหมดจะเสียหาย หรือใช้งานไม่ได้ ดังนั้นวิธีแก้ไขก็ง่ายนิดเดียว โดยการใช้ด้าย ในการเย็บให้ติดกันแค่นั้นเอง

    ทำการร้อยลวดรอบแกน

    ส่วนบริเวณแกน นับว่าเป็นอีกส่วนประกอบที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก สิ่งนี้จะทำหน้าที่ในการค้ำยัน หากมีซี่ใดซี่หนึ่งหลุดออกมาจากแกน อาจทำให้การเปิดปิดไม่ทำงาน ซึ่งวิธีการในการซ่อมแซม ทำได้โดยการนำลวดขนาดเล็ก มาร้อยในบริเวณรอบแกนทั้งหมด

    พันบริเวณปลายด้วยลวดขนาดเล็ก

    วิธีที่เราจะสามารถซ่อมแซมได้ ในกรณีที่บริเวณปลายหลุดออกมาจากบริเวณผ้า จนปลายผ้าปลิวสะบัด เราอาจจะแก้ไขด้วยการนำลวดที่มีขนาดเล็ก มาทำการผูกหรือพันไว้กับปลาย แล้วหยิบเข้ากับปลายผ้า ซึ่งจะช่วยให้บริเวณส่วนปลายนั้นมีความแข็งแรง และไม่เกิดการขาดง่ายเหมือนเดิม

    ทำการสำรวจบริเวณข้อต่อให้ดี

    หลายคนอาจจะเกิดปัญหา เมื่อเราทำการกางออกแล้ว หากเราจะหุบ มันไม่สามารถที่จะหุบได้ ซึ่งนี่ถือเป็นปัญหาที่เจอโดยปกติทั่วไป สาเหตุหลักมักเกิดมาจากบริเวณข้อต่อหลุด ดังนั้นเราจึงควรทำการสำรวจข้อต่อให้หมดทุกซี่ ทั้งตอนที่เรากางใช้งาน และตอนที่เราหุบเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อเราค้นหาจุดที่มีข้อต่อหลุด และเราจะสามารถซ่อมแซมมันได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีการถนอมและวิธีการดูแล

    คลายสงสัย เราสามารถพกร่มขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่

    หลายครั้งที่เราขึ้นเครื่องบินนั้น เราอาจพกพาสิ่งของขึ้นไปด้วยมากมายหลากหลายชนิด แต่มันก็อาจจะมีบางทริป ที่เราจำเป็นต้องพกพาของสำคัญอย่างร่มขึ้นไป ของชิ้นนี้ นับว่าเป็นของที่เราอาจจะไม่ได้พาพกขึ้นเครื่องบินบ่อยๆ ดังนั้นหลายคนจึงอาจเกิดข้อสงสัย...

    หลายครั้งที่เราขึ้นเครื่องบินนั้น เราอาจพกพาสิ่งของขึ้นไปด้วยมากมายหลากหลายชนิด แต่มันก็อาจจะมีบางทริป ที่เราจำเป็นต้องพกพาของสำคัญอย่างร่มขึ้นไป ของชิ้นนี้ นับว่าเป็นของที่เราอาจจะไม่ได้พาพกขึ้นเครื่องบินบ่อยๆ ดังนั้นหลายคนจึงอาจเกิดข้อสงสัย ว่าเราเอาร่มพึ่งเครื่องบินได้หรือไม่ หลายคนถึงกับไม่กล้าที่จะเอาไปที่สนามบินด้วยซ้ำ ด้วยความไม่แน่ใจว่าจะสามารถพกพามันขึ้นไปด้วยได้หรือไม่

    สิ่งนี้อาจจะเพิ่มความลำบากให้กับหลายๆคน แต่อย่าลืมว่าเรามีแบบที่สามารถพับเก็บได้ อย่างร่มพับ ที่มีทั้งร่มพับ2ตอน ร่มพับ5ตอน และอีกมากมายหลายรูปแบบ ร่มบางคัน ยังสามารถที่จะใช้งานได้มากมายหลากหลายมากกว่ากางเพื่อจัดกันฝน กันแดด หรือกันลมด้วยซ้ำไป หากใครสงสัย วันนี้เราจะทำให้คุณกระจ่าง ว่าเราสามารถที่จะพกพาร่มขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ และหากเราเอาอุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นเครื่องบินไม่ได้ แล้วเราเอาอุปกรณ์อะไรขึ้นเครื่องบินไปกับเราได้ด้วยบ้าง ไปดูกันเลย

    เราเอาร่มขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่

    ก่อนอื่นเราไปตอบคำถามสำคัญ ที่เราควรจะได้คำตอบจากบทความนี้กันเสียก่อน ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจว่า ทุกสายการบินที่ออนไลน์อยู่ในปัจจุบันนั้น มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายสายการบิน แต่ละสายการบินก็จะมีระเบียบการ และข้อบังคับ รวมถึงการอนุญาตเป็นของตนเองแตกต่างกัน ดังนั้นประการแรกเลย เราอาจจะต้องดูว่าสายการบินนั้น อนุญาตให้เรานำอุปกรณ์ใดขึ้นไปบ้าง ซึ่งในที่นี้ เราต้องดูว่าสามารถนำร่มขึ้นไปด้วยได้หรือไม่ และร่มของเรา อยู่ในหมวดหมู่อุปกรณ์ใด

    อุปกรณ์สำคัญอย่างร่ม โดยทั่วไปแล้วจะจัดหมวดหมู่อยู่ในหมวดหมู่อุปกรณ์เสริมทั่วไป ที่ปกติแล้ว ทุกสายการบินมักจะอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องด้วย โดยอาจจะนำมาไว้ในห้องโดยสารได้เลย ไม่ได้มีข้อห้ามหรือข้อบังคับ ว่าไม่สามารถนำอุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นเครื่องบินได้ แต่หากเราจะเลือกนำอุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นเครื่องบิน ก็อาจจะต้องดูข้อบังคับบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเลือกที่มีน้ำหนักเบา เพราะอย่าลืมว่า การที่เราจะเอาอะไรขึ้นเครื่องบิน แต่ละสายการบินก็จะมีน้ำหนักที่สามารถขึ้นเครื่องบินนั้นได้

    แต่ในจุดรักษาความปลอดภัยเอง ก็อาจจะเกิดปัญหาอยู่เล็กน้อย โดยปกติแล้ว บริเวณโครงของร่มนั้น ส่วนมากจะเป็นโลหะ และบริเวณปลายก็ค่อนข้างแหลม ซึ่งเครื่องตรวจจะคำนวณว่าเป็นวัตถุอันตรายได้ ดังนั้นด้วยเหตุนี้ จึงอาจเลือกวัสดุสำหรับใช้งานขึ้นเครื่อง หรืออาจจะทำการป้องกันบางประการ ยกตัวอย่างเช่นการนำเทป หรือวัสดุอื่นมาพันบริเวณปลาย เท่านี้เราก็ผ่านจุดตรวจได้อย่างง่ายดายแล้ว

    เรื่องที่อาจจะกังวลเรื่องหนึ่ง คือเรื่องของความยาว ซึ่งอาจจะไปรบกวนการเดินทางของผู้โดยสารคนอื่นอย่างเช่น ร่มสนาม ดังนั้นหากเลือก เราก็อาจจะเลือกแบบที่สามารถพับเก็บได้ ขึ้นเครื่องไปกับเราแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

    สิ่งของที่สามารถพกพาใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องได้

    เรารู้กันไปแล้ว ว่าเรานำอุปกรณ์ของเราขึ้นเครื่องได้หรือไม่ ต่อไปจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้แน่นอน ได้แก่ บรรดาของใช้ที่จำเป็นต่างๆ แม้แต่อุปกรณ์ของมีคมบางอย่างอย่างเช่นมีดโกนหนวด กรรไกรตัดเล็บ อะไรพวกนี้เราก็สามารถเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าถือ แล้วพกพาขึ้นเครื่องบินได้ นอกจากนี้อุปกรณ์ไฟฟ้าบางอย่าง อย่างพวกแล็ปท็อป ไดร์เป่าผม หรือที่หนีบผม ก็เอาขึ้นเครื่องได้เหมือนกัน

    อย่างต่อไปคือพวกยา ซึ่งเป็นของจำเป็นสำหรับหลายคน แต่อยากให้ระวังเรื่องการนำของเหลวขึ้นเครื่อง แต่ละสายการบินก็จะมีข้อกำหนดในการนำของเหลวขึ้นเครื่องที่จำกัดแตกต่างกันออกไป อาหาร ก็อาจจะนำขึ้นไปได้ด้วย แต่อาจจะเป็นปริมาณที่เล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้เรายังอาจเอาอุปกรณ์อื่นๆ ขึ้นไปได้อีกมากมาย

    ร่ม กับเรื่องของตำนานและความเชื่อ

    เรียกได้ว่าเรื่องของความเชื่อและศรัทธานั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่ฝังรากลึกในสังคมและวัฒนธรรมไทยของเรามาอย่างยาวนาน และมันแทบจะขาดออกจากกันไม่ได้เลยก็ว่าได้ เราจะสังเกตคนไทยเรามีการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อในเรื่องของโชคลาภ...

    เรียกได้ว่าเรื่องของความเชื่อและศรัทธานั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่ฝังรากลึกในสังคมและวัฒนธรรมไทยของเรามาอย่างยาวนาน และมันแทบจะขาดออกจากกันไม่ได้เลยก็ว่าได้ เราจะสังเกตคนไทยเรามีการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อในเรื่องของโชคลาภ ในหรือในศาสตร์ที่มีความหลากหลายแตกต่างกันออกไป ซึ่งหากเราลองมาศึกษาสิ่งเหล่านี้กันแบบจริงจัง มันค่อนข้างเป็นอะไรที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้

    และแม้แต่เรื่องของร่มเอง ก็ยังมีตำนานความเชื่อและเรื่องเล่าบางอย่างที่สามารถหยิบมาเล่าได้ ดังนั้นในวันนี้เอง เราจะมาคุยกันเรื่องของความเชื่อ เรื่องของตำนานและสิ่งที่เราอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับร่ม ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์สามัญประจำบ้านสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว โดยเรื่องที่เราจะหยิบมานำเสนอ เป็นทั้งความเชื่อของไทยเรา และความเชื่อของต่างชาติ เขาจะมีความเชื่อหรือเรื่องราวคล้ายกับของเราหรือไม่มากน้อยเพียงใด เราไปดูกันเลย

    ร่ม กับความเชื่อของไทย

    อย่างที่บอกว่าเรื่องของศรัทธาความเชื่อ และตำนานเรื่องเล่านั้นเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ได้จากสังคมไทยเลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล ในเรื่องของร่มนั้น ยังมีเรื่องเล่าและเรื่องราวต่างๆ มากมายให้เราได้เล่า ยกตัวอย่างเช่นเรื่องที่หลายคนน่าจะคุ้นชินกันและเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ คือการห้ามกางร่มในอาคาร หรือบ้านเรือนต่างๆ เพราะจะถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เป็นมงคล บางคนเชื่อว่าอาจทำให้สื่อถึงสิ่งลี้ลับได้ หรืออาจมีวิญญาณตามติดคุณได้ แต่จะว่าไปแล้วแท้จริงสิ่งนี้อาจจะเป็นกุศโลบายของคนโบราณ เนื่องจากการใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้ภายในบ้านอาจทำให้เกิดความเสียหายของข้าวของของเราได้

    หรือแม้แต่การมอบอุปกรณ์ชิ้นนี้ในโอกาสต่างๆ ในงานที่แตกต่างกันก็ย่อมสื่อความหมายแตกต่างกันไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นงานที่เป็นมงคลอย่างงานขึ้นบ้านใหม่ การมอบสิ่งนี้เปรียบเสมือนคำอวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุข หรือหากเป็นงานอวมงคลอย่างงานศพ การมอบอุปกรณ์ชิ้นนี้แต่เป็นสีดำ จะถือว่าเป็นการแสดงความเคารพต่อตัวผู้วายชนม์ และสีดำที่ว่ายังแสดงถึงความไว้อาลัยด้วยเหมือนกัน

    ยังมีในงานมงคลอย่างงานบวช กับการใช้อุปกรณ์ชนิดนี้บังแดดให้กับพระหรือนาคก่อนเข้าโบสถ์ หรืออาจจะบางพระพุทธรูปที่ทำการปลุกเสก สิ่งนี้มีความเชื่อสอดคล้องกับพระพุทธเจ้าที่นั่งสมาธิ แล้วนาคเข้ามาปลูกเพื่อป้องกันฝนและแสงแดด ความเชื่อนี้มีการสืบต่อกันมา ทำให้เชื่อว่าเมื่อมีการปลุกเสกพระพุทธรูป หรือแม้แต่การกางให้หน้าเข้าโบสถ์ เชื่อกันว่าสีนี้จะทำให้ชาวบ้านหรือประชาชนอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขได้ โดยสามารถใช้ได้ทั้งร่มพับ ร่มตอนเดียว

    อย่างสุดท้ายที่อยากจะนำเสนอ คือการเสริมโชคลาภด้วยการเลือกร่มสีให้ตรงกับวันเกิดของคุณ โดยการเลือกมาใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยสีที่มีความสอดคล้องกับสีวันเกิด สิ่งนี้ช่วยในเรื่องของความเป็นมงคลและเสริมดวงได้ แต่ไม่ใช่ว่าคนที่เกิดวันศุกร์ จะต้องใช้สีฟ้าอะไรแบบนั้น ยกตัวอย่างเช่นคนเกิดวันศุกร์ เป็นคนที่มีเสน่ห์ สีที่เหมาะสมคือสีน้ำตาลหรือสีเหลือง ซึ่งเชื่อว่าจะนำมาเสริมในเรื่องของการรับทรัพย์ แบบนี้เป็นต้น

    ร่ม กับความเชื่อของต่างประเทศ

    ของต่างประเทศก็มีความเชื่อบางอย่างเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นชาวอังกฤษ เชื่อว่าการถือสิ่งนี้แสดงออกถึงความอ่อนแอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสิ่งนี้อยู่ในมือของสุภาพบุรุษ เพราะสิ่งนี้ในวัฒนธรรมของคนอังกฤษในยุควิคตอเรียนั้น ผู้ที่จะพกพาสิ่งนี้จะมีเพียงแค่สุภาพสตรีเท่านั้น ซึ่งจะสื่อถึงความอ่อนโยน และความสง่างามในแบบของผู้หญิงในยุคสมัยนั้น

    แต่ว่าท่านทำเอเชียอย่างญี่ปุ่นนั่นแตกต่างกันออกไป อุปกรณ์สิ่งนี้สามารถใช้ในการบอกรักได้ โดยจะบอกผ่านสัญลักษณ์ ยกตัวอย่างเช่นหากการมอบมันให้กับหญิงสาว หากเป็นการมอบสีชมพูให้ หรือการวาดรูปสิ่งนี้เพื่อส่งให้กับผู้หญิง จัดแสดงออกถึงความห่วงใยและความอยากปกป้อง

    หากกำลังตามหาร่มให้ใครสักคน และต้องการให้ร่มสวย ๆ เหมาะกับสมัยใหม่ ร่มใส อาจเหมาะกับคุณ

    พาไปดูร่มแฟชั่น สวยงาม ไม่เหมือนใคร

    สำหรับคนที่ชื่นชอบและหลงรักของประดับตกแต่งต่าง ๆ หรือคนที่สนใจใช้ของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใครและไม่อยากซ้ำกับใคร ร่มก็นับเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยม ที่สามารถหาแบบที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใครได้ หรือที่เรียกกันว่าร่มแฟชั่นนั่นเองไม่ว่าจะสำหรับคนที่ซื้อมาใช้งานเอง...

    สำหรับคนที่ชื่นชอบและหลงรักของประดับตกแต่งต่าง ๆ หรือคนที่สนใจใช้ของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใครและไม่อยากซ้ำกับใคร ร่มก็นับเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยมอย่างเช่น ร่มใส ร่มพับ แต่ที่สามารถหาแบบที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใครได้ หรือที่เรียกกันว่าร่มแฟชั่นนั่นเอง

    ไม่ว่าจะสำหรับคนที่ซื้อมาใช้งานเอง หรือสำหรับองค์กรและบริษัท ที่นำมาใช้ในการจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม และนำมาผลิตเป็นจำนวนมาก ร่มแฟชั่นก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความน่าสนใจ หน้าเลือกหามาใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยความมีเอกลักษณ์ และเรามั่นใจว่ามันจะไม่ซ้ำกับใครอย่างแน่นอน เมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว ลูกค้าจะสามารถจดจำแบรนด์ของเราได้เป็นอย่างดี

    ในวันนี้เราจะพาคุณไปดูร่มแฟชั่น แบบที่มีความสวยงามและไม่เหมือนใคร เรามีวิธีการในการเลือกใช้งานอย่างไร นอกจากนี้มันยังมีแบบไหนบ้าง ที่มีความน่าสนใจและน่าหามาใช้ นี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือกร่มแฟชั่นที่เราอยากจะนำเสนอ อันที่จริงแล้วมันมีอยู่อีกมากเลยทีเดียวที่คุณสามารถหยิบมาใช้งานได้

    วิธีการเลือกร่มแฟชั่นและการเลือกใช้งาน

    ถึงแม้จะเป็นร่มแฟชั่นก็ตาม แต่หลักการเลือกก็น่าจะมีความคล้ายกับรูปแบบปกติ หากเป็นแบบที่เรานำมาใช้ในการประดับตกแต่งแล้ว เราก็อาจจะไม่ต้องเลือกอะไรมากมายนัก แต่หากเป็นแบบที่เราหยิบมาใช้งานจริง มันเป็นอะไรที่เราต้องนำมาพิจารณา และเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    ยกตัวอย่างเช่นแบบแรกคือแบบกันแดด แน่นอนว่าเราจำเป็นที่จะต้องเน้นไปที่ค่าการปกป้องรังสี UV เรียกว่าค่า UPF คือจะต้องสูงกว่า 50 + หากเป็นแบบนั้นจะสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 98% เลยทีเดียว หรือหากเราจะเลือกใช้สำหรับกันฝน อาจเลือกร่มแบบ ร่มตอนเดียว ร่ม2ตอน ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการพกพาและการหยิบออกมาใช้งานอย่างรวดเร็วและไม่เกะกะอีกด้วย หรือหากใครนำมันมาใช้งานหนัก เลือกเป็นแบบที่กันพายุได้เลย อาจจะต้องต้านทานต่อกระแสลมแรงได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังคงมีรูปทรงสวยงามและมีความแฟชั่น อาจจะเลือกแบบที่มีวัสดุแข็งแรงและมีขนาดใหญ่สักนิด

    ร่มแฟชั่นที่อยากแนะนำ

    แบบแรกที่อยากจะมานำเสนอ คือรูปหัวใจ ลักษณะก็ตรงตามชื่อเลย เป็นแบบที่มีรูปทรงเป็นรูปหัวใจ เป็นแบบนี้จะค่อนข้างมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงเหมาะสมสำหรับการใช้งานป้องกันคุณจากลมแรง ๆ ลักษณะที่โดดเด่นคือมีความสวยงาม และถึงจะมีความใหญ่และความแข็งแรง แต่ก็ยังมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา เพราะส่วนมากแล้วมักจะเลือกวัสดุเป็นไฟเบอร์กลาส และบริเวณด้ามจับมักจะใช้อลูมิเนียมหรือโลหะในการทำ

    แบบต่อไปคือแบบที่เรียกว่า Laces and Ruffles เป็นอีกหนึ่งแบบที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยบริเวณลวดลายและรูปทรงจะมีเอกลักษณ์ และนิยมนำมาใช้งานในงานต่าง ๆ ที่ค่อนข้างดูมีความไฮโซสักเล็กน้อย จะได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากจุดเด่นในเรื่องของลวดลายแล้ว มันยังทนต่อกระแสลมได้เป็นอย่างดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    แบบต่อไปคือแบบดอกไม้ เราอาจจะเคยเห็นกันตามอินเทอร์เน็ตอยู่บ้าง ที่มักจะมาพร้อมกับลวดลายที่เป็นดอกไม้ แล้วตกแต่งให้มีสีสันต่าง ๆ เพื่อความสวยงามให้ดูเหมาะสมกับฤดูร้อนเป็นอย่างมาก โดยสามารถเลือกดอกไม้ที่ต้องการตกแต่งได้ หากอยากสั่งทำเป็นของพรีเมี่ยมจากโรงงานต่าง ๆ แต่ในเรื่องของการใช้งานอาจจะไม่ได้สมบุกสมบันเหมือนกับอีกหลายแบบ จะเน้นไปที่เรื่องของความสวยงามมากกว่า ไม่ได้แข็งแรงหรือสามารถป้องกันรังสี UV ได้เหมือนกับแบบอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจ และน่าหามาใช้งานเป็นอย่างมาก

    ร่มราคาต่างกัน มีอะไรที่ต่างกันบ้าง

    หากเราต้องการซื้ออุปกรณ์สามารถประจำบ้านอย่างร่ม สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนหยิบมาพิจารณา นอกจากเรื่องของลักษณะการใช้งานที่เราจะนำไปใช้ รูปแบบหรือรูปทรงของร่ม อีกปัจจัยหนึ่งที่ อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าเราจะซื้อหรือไม่ซื้อดีคือเรื่องของราคา...

    หากเราต้องการซื้ออุปกรณ์สามัญประจำบ้านอย่างร่ม สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนหยิบมาพิจารณา เช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว เป็นต้น นอกจากเรื่องของลักษณะการใช้งานที่เราจะนำไปใช้ รูปแบบหรือรูปทรงของร่ม อีกปัจจัยหนึ่งที่ อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าเราจะซื้อหรือไม่ซื้อดีคือเรื่องของราคา แน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นของใช้ทั่วไป มีอยู่ด้วยกันหลายเกรด ดังนั้นราคาจึงแตกต่างกันออกไปด้วย

    คำถามต่อมาก็คือ ปัจจัยใดที่ทำให้ราคาของอุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้นั้นแตกต่างกัน จะแค่เรื่องขนาด หรือลักษณะการใช้งานหรือไม่ หรือมีปัจจัยใดที่ทำให้มันแตกต่างกันอีก วันนี้เราจะมาดูกัน ว่าร่มราคาแตกต่างกัน มีปัจจัยใดที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาสำหรับใครที่อยากจะซื้อหามาไว้ใช้เอง หรือสำหรับบริษัท หรือองค์กรที่อยากจะนำร่มมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม

    รูปแบบและลักษณะ

    เราน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าร่มมีลักษณะที่แตกต่างกันมากมายในท้องตลาด ทั้งในเรื่องของขนาดที่แตกต่างกัน วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำที่แตกต่างกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ค่อนข้างส่งผลต่อราคา ยกตัวอย่างให้เห็นอย่างเด่นชัด ยกตัวอย่างเช่นบริเวณก้าน แบบที่มีก้านน้อยกว่า วัสดุที่ใช้ในการทำก็จะน้อยกว่าตามไปด้วย ทำให้มีราคาที่ถูกกว่า หรือบางอันอาจจะมีออพชั่นเสริมบางอย่าง อย่างเช่นพลาสติกสำหรับใช้หุ้มนั้นมีเกรดที่มีคุณภาพแตกต่างกัน หากคุณภาพดีกว่าก็ย่อมที่จะมีราคาแพงกว่าเป็นธรรมดา

    ขนาดที่แตกต่างกัน

    เรื่องของขนาดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาด้วยเช่นเดียวกัน หากยิ่งเป็นขนาดที่ใหญ่อย่างร่มสนามก็ต้องใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง และมีความทนทานมากกว่า นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ร่มขนาดเล็กนั้นจะมีราคาถูกกว่า แต่อย่างว่าวัสดุที่มีราคาแพงกว่าและแข็งแรงกว่า ก็ย่อมทำให้อุปกรณ์ของเรานั้นมีความแข็งแรงมากกว่าตามไปด้วย อีกทั้งขนาดที่ใหญ่กว่า เรายังนำไปใช้งานได้ ในลักษณะที่กว้างกว่า ยกตัวอย่างเช่นหากแบบ 14 นิ้ว ก็จะมีราคาถูกกว่าร่มสนามแบบ 38 นิ้ว อะไรแบบนี้เป็นต้น

    ปริมาณการสั่งผลิต

    อันนี้จะเป็นในกรณีของบริษัทหรือองค์กร สำหรับการนำอุปกรณ์ชิ้นนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม ซึ่งสิ่งนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว สำหรับใครที่สั่งโรงงานผลิต หรือแม้แต่การสั่งซื้อ หากเป็นในปริมาณที่มากหรือสูงกว่า แน่นอนว่าย่อมมีค่าใช้จ่ายต่อตัว หรือต่ออันที่จะถูกลง กลับกันหากซื้อในปริมาณที่น้อยกว่า อาจจะต้องจ่ายราคาแพงกว่า อีกอย่างหากสั่งในปริมาณที่มาก ถึงแม้จะใช้วัสดุที่ใช้ในการทำค่อนข้างดีและมีคุณภาพ แต่ค่าเฉลี่ยออกมาก็อาจจะราคาถูกกว่าก็ได้

    ของพรีเมี่ยม กับการสกรีนโลโก้

    นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณี สำหรับบริษัทหรือองค์กร ที่จะนำสิ่งนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมด้วยเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าการจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมนั้น สิ่งสำคัญคือจำเป็นที่จะต้องใส่ชื่อแบรนด์ หรือโลโก้ลงไปในของของเราด้วย ตัวโลโก้นี้เองทำให้ราคาแตกต่างกันได้ด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ขนาดของโลโก้ที่แตกต่างกันก็ทำให้ราคาแตกต่างกันด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ในเรื่องของการกำหนดจุดที่ต้องการนำโลโก้ไปวาง หรือจำนวนสีที่ใช้ในการสกรีน หรืออาจมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยทำให้ราคาแตกต่างกัน เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องนำมาคิดด้วยเช่นเดียวกัน

    และเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งผล และมีส่วนเกี่ยวข้องให้ราคาของอุปกรณ์ชิ้นนี้มีความแตกต่างกันออกไป หากบริษัทหรือองค์กรใด อยากจะนำสิ่งนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม ก็ควรที่จะหยิบข้อเหล่านี้มาพิจารณา และลองดูต้นทุนว่าเราไหวเท่าไหร่ เพื่อที่จะไม่เกินงบ และได้ของตามที่เราต้องการได้ด้วย

    ร่มลายไทย ซื้อใช้ก็ได้ ซื้อฝากก็ดี

    หากเราจะกล่าวถึงร่ม ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านสำหรับใครหลายคน บางคนถึงกับพกติดรถหรือติดตัวไว้อยู่เสมอเลยด้วยซ้ำ หากจะพูดถึงอุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ หลายคนก็มักจะนึกถึงจุดเด่นอย่างการกันฝน กันลม หรือการกันแดดกันใช่ไหม ซึ่งโดยมากมักจะนึกถึงแบบธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ...

    หากเราจะกล่าวถึงร่ม ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านสำหรับใครหลายคน บางคนถึงกับพกติดรถหรือติดตัวไว้อยู่เสมอเลยด้วยซ้ำ หากจะพูดถึงอุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ หลายคนก็มักจะนึกถึงจุดเด่นอย่างการกันฝน กันลม หรือการกันแดดกันใช่ไหม ซึ่งโดยมากมักจะนึกถึงแบบธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีร่มแบบพิเศษอีกมากมายหลากหลายชนิด ที่น่าสนใจ และน่าหามาเก็บสะสมไว้ อย่างร่มใส ร่มLED 

    และในวันนี้เอง เราจะมานำเสนออุปกรณ์ร่มแบบพิเศษอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือแบบที่เป็นร่มลายไทย ซึ่งนับว่ามีเอกลักษณ์ มีความน่าสนใจ มีความสวยงามซึ่งใครๆ ก็อยากที่จะซื้อไว้เป็นของสะสม ไม่ว่าจะเป็นคนไทยอย่างเรา รวมถึงชาวต่างชาติที่พบเห็น ก็อยากที่จะจับจองเป็นเจ้าของอยู่เสมอ วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักให้มากขึ้น รวมถึงความน่าสนใจของอุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ด้วย

    ร่มลายไทย

    ร่มลายไทยนั้น เป็นอีกชนิด หนึ่ง ที่ได้รับความนิยมของทั้งคนไทยเราและชาวต่างชาติ เป็นแบบที่มีลวดลายสวยงามและมีจุดเด่นที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก มีเสน่ห์และบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี โดยส่วนมากเราจะเห็นได้ทางภาคเหนือของบ้านเรา มีทั้งแบบที่เป็นร่มเชียงใหม่ หรือที่เราน่าจะเคยได้ยินคือมาจากบ่อสร้าง

    ปกติแล้ว จะใช้ผ้าไทยในการถักทอ จะทำการตัด และมาประกอบเพื่อทำเป็นร่ม ซึ่งลายไทยเหล่านี้เอง คือลักษณะที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของอุปกรณ์ชนิดนี้ มีทั้งแบบที่เป็นผ้าไทยเลยแบบดั้งเดิม และแบบที่มีการพิมพ์ลายออกมา เพื่อเลียนแบบผ้าไทย ที่เป็นเอกลักษณ์และมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเหล่านี้มักจะนำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม เพื่อไว้ใช้สำหรับแจกจ่าย ซึ่งก็นับว่าเป็นอะไรที่เหมาะสม และค่อนข้างมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    ประเภทและขนาดที่แตกต่างกัน

    ก็เหมือนกับอุปกรณ์กันแดดทั่วไป ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือลายไทยที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก แต่เดิมแล้วเราจะมีแค่ร่มตอนเดียว ซึ่งเป็นแบบทั่วไป และพบเห็นได้ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม แต่ทุกวันนี้เราสามารถเห็นแบบพับได้ และแบบที่เป็นสนามขนาดใหญ่สามารถที่จะใช้กางเพื่อขายของ หรือใช้ในการเป็นเครื่องประดับตกแต่งสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านค้า หรือสถานที่ที่ต้องการบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ขอบอกเลยว่า มันถูกใจชาวต่างชาติเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    การนำไปใช้งาน

    แน่นอนว่าสามารถนำไปใช้งานได้มากมายหลากหลายประการ แล้วแต่ผู้ที่ซื้อไปจะเลือกนำไปใช้ แต่หากจะให้แนะนำว่านำไปใช้งานแบบไหนได้บ้าง โดยทั่วไปแล้ว เรามักจะนิยมนำไปตกแต่ง สถานที่ใดก็ตามที่ต้องการบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย หรืออาจจะนำไปตกแต่งร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือร้านอาหารที่มีความไทย นอกจากนี้อาจจะนำไปตั้งไว้ในสตูดิโอสำหรับการถ่ายรูป หรือใครจะนำไปใช้งานก็ยอดเยี่ยมไม่น้อยเลย

    นอกจากนี้ส่วนหนึ่ง อาจจะนำมาเก็บไว้เป็นของสะสม ไม่ใช่แค่คนไทยของเรา ที่นิยมชมชอบความเป็นลายไทยที่มีความสวยสดงดงามถึงขนาดนี้ แต่ชาวต่างชาติเอง หลายคนก็นิยมชมชอบลายไทยของเรา และซื้อเก็บไว้ที่บ้าน หรืออาจจะซื้อไปฝากคนที่บ้านก็มีให้เห็นอยู่มากเลย

    นอกจากนี้แล้ว ยังมีข้อแนะนำที่อยากจะแนะนำบางประการอยู่ หากเราอยากจะเลือกมา ไม่ว่าจะนำมาใช้งานในลักษณะใดก็ตาม ต้องดูลักษณะการใช้งานด้วย มีแบบที่บริเวณโครงสร้างทำจากไม้ไผ่ หรืออาจจะเป็นไม้อ่อน ซึ่งเหล่านี้มีความสวยงามมากกว่า แต่ก็ต้องแลกมาซึ่งความไม่ค่อยมีความคงทนแข็งแรงมากนัก เหมาะแก่การประดับตกแต่งบ้านของเรามากกว่า หรือหากอยากจะนำไปใช้งานได้จริง ก็อาจจะต้องเลือกที่มีโครงสร้างแข็งแรงมากกว่านี้

    กว่าจะมาเป็น “ร่ม”

    ร่ม ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็จะต้องมีติดบ้านไว้ บางคนถึงกับพกติดรถไว้ หรือบางคนถึงกับพกติดตัวไว้ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงที่ใกล้เข้าหน้าฝนนี้ ใครหลายคนก็มักจะพกร่มไปไหนมาไหนอยู่เสมอ เพราะเราจะได้ใช้ประโยชน์แน่นอน...

    ร่ม ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็จะต้องมีติดบ้านไว้ บางคนถึงกับพกติดรถไว้ หรือบางคนถึงกับพกติดตัวไว้ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงที่ใกล้เข้าหน้าฝนนี้ ใครหลายคนก็มักจะพกร่มไปไหนมาไหนอยู่เสมอ เพราะเราจะได้ใช้ประโยชน์แน่นอน แต่ไม่ใช่แค่เพียงช่วงหน้าฝนเท่านั้นที่เราสามารถหยิบมันมาใช้งานได้ แม้แต่ในช่วงอื่น เราก็สามารถที่จะหยิบอุปกรณ์ชิ้นสำคัญนี้มาใช้งานได้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีแดดจัด หรือช่วงที่มีลมแรงเราก็หยิบมาใช้งานได้ด้วยเช่นเดียวกัน ร่มนั้นมีกลากหลายแบบเช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว เป็นต้น ดังนั้นเราจึงกล่าวได้เลยว่าร่ม ถือเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์อีกชิ้นหนึ่ง

    สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราใช้งานกันอยู่ทั่วไปอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่าร่มมาจากไหน วิวัฒนาการมาได้อย่างไร กว่าจะมาเป็นอุปกรณ์ให้เราได้ใช้กันในทุกวันนี้ มันได้ผ่านอะไรมาบ้าง มาจากถิ่นฐานได้ แต่เดิมแล้วมาจากชาติไหน ถึงแม้จะไม่มีการศึกษาวิจัยกันอย่างแท้จริง แต่ก็มีบันทึกบางส่วนที่ได้บ่งบอกถึงอุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้

    ที่มาของชื่อ

    ร่มนั้นในภาษาอังกฤษเราเรียกว่า umbrella มีรากศัพท์มาจากคำว่า umbra ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่า บังแดด ดังนั้นแต่เดิมมันจึงเป็นอุปกรณ์บังแดด เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 3400 ปีก่อน ในดินแดนเมโสโปเตเมีย สถานที่ซึ่งมีอากาศร้อนตลอดทั้งปี ดังนั้นผู้คนจึงได้นิยมใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการบังแดด

    ไม่นานมันก็ถูกแพร่หลาย และส่งต่อมายังอารยธรรมอียิปต์ ต่อมาชาวกรีก ได้รับเอาวัฒนธรรมนี้มาจากอียิปต์อีกที ซึ่งชาวอียิปต์เชื่อกันว่า ท้องฟ้านั่นคือร่างกายของเทพธิดาองค์ หนึ่ง ซึ่งปกคลุมโลกดุจร่มอันมหึมา ในตอนแรกสิ่งนี้ใช้ในการทดแทน หรือเป็นตัวแทนของเทพธิดาองค์นี้ เพื่อให้สำหรับปกป้องคุ้มครองผู้ที่อยู่ใต้ร่มเงา ดังนั้นแต่เดิมในอดีตสมัยกรีก ผู้ที่กางร่ม จะต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจเท่านั้น

    บริบทที่เปลี่ยนไป

    แต่ในยุคหนึ่ง ความหมายของสิ่งนี้ก็เปลี่ยนไป การใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ได้กลับถูกมองว่ามีอำนาจ มันกลับกันด้วยซ้ำ อย่างเช่นในช่วงประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 18 ผู้ที่กางร่ม ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นเป็นผู้หญิงเท่านั้น เพราะเนื่องจากผู้ชาย อาจจะถูกมองว่าอ่อนแอ จึงไม่ค่อยมีใครนิยมใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้กันเท่าไหร่ จนกระทั่งในปี 1750 ก็ได้มีชายชาวอังกฤษคน หนึ่ง ลุกขึ้นมาพบอุปกรณ์ชิ้นนี้ เขาไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง และไม่นาน อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ได้รับความนิยมในอังกฤษ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรือผู้ชายเท่านั้น แต่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ทั้งนั้น

    ไม่ได้ใช้เพียงแค่การกันแดดกันฝนแล้ว

    จนกระทั่งทุกวันนี้ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์สำหรับการกันแดดหรือกันฝนเพียงเท่านั้น หลายคนยังใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับแฟชั่น เช่น ร่มใส หรือใช้เพิ่มแมตช์กับเสื้อผ้า และแต่งตัวหลากหลายรูปแบบด้วยกัน นอกจากนี้แล้ว หลายคนยังใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ตกแต่งร้านอาหารหรือร้านกาแฟ หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกมากมายหลากหลายอย่างด้วยกัน จากแต่เดิมที่อาจจะเคยใช้เพื่อเป็นตัวแทนของเทพเจ้า หรือใช้ประโยชน์บางอย่างในการบังแดด แต่ทุกวันนี้มันได้เปลี่ยนไป และมีการนำมาใช้งานด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งถือเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

    และเรื่องราวที่กล่าวมานี้ เป็นประวัติความเป็นมา ของอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็อาจมีติดบ้านด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ เราอาจจะไม่ต้องรู้เรื่องราวนี้ก็ได้ แต่การรู้ไว้ก็เป็นอะไรที่ดีเหมือนกัน หากใครต้องการที่จะหาของพรีเมี่ยมที่น่าสนใจ อุปกรณ์ชิ้นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลย

    ร่มพลาสติกใส มาจากไหน

    มีร่มประเภทหนึ่ง ที่มีความเท่และความสวยงามไม่เหมือนใคร ถึงแม้ว่าจะออกมานานแล้ว และเราก็มีโอกาสได้เห็นคนใช้งานกันทั่วไปแล้วก็ตาม แต่ในทุกวันนี้ รวมประเภทนี้ก็ยังคงเป็นแบบที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น แฝงไปด้วยความเรียบง่ายอยู่...

    มีร่มประเภทหนึ่ง ที่มีความเท่และความสวยงามไม่เหมือนใคร ถึงแม้ว่าจะออกมานานแล้ว และเราก็มีโอกาสได้เห็นคนใช้งานกันทั่วไปแล้วก็ตาม แต่ในทุกวันนี้ รวมประเภทนี้ก็ยังคงเป็นแบบที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น แฝงไปด้วยความเรียบง่ายอยู่ นั่นก็คือร่มแบบใส

    สิ่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งในประเทศไทยเอง และในต่างประเทศบางประเทศอย่างประเทศญี่ปุ่น ผู้คนใช้กันทั่วไป ด้วยเอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่น มีความเรียบง่ายและสวยงามในตัวเอง เราจะเห็นได้มาก ว่ามันถูกวางขายในร้านขายของญี่ปุ่น และในวันนี้เอง เราจะคุยในเรื่องของที่มา ของร่มพลาสติกใส มันมาจากไหน และใครเป็นผู้ผลิต จุดเริ่มต้นคือที่ใด

    เริ่มต้นจากประเทศญี่ปุ่น

    มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับร่มแบบใส ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือสิ่งนี้ถูกผลิต คิดค้นและพัฒนาขึ้นมา โดยชาวญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยผู้ที่คิดค้นขึ้นมาครั้งแรก คือบริษัทผลิตร่มเก่าแก่ที่มีชื่อว่า White Rose ที่นอกจากจะมีประสบการณ์ในการผลิตมาอย่างยาวนานแล้ว ยังเป็นผู้ผลิต ให้กับอดีตจักรพรรดินีมิชิโกะ ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

    แม้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ จะกลายเป็นอุปกรณ์ประจำวันในชีวิตของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว ด้วยความที่ในประเทศญี่ปุ่นมีฝนตกค่อนข้างบ่อย เรียกได้ว่าแทบจะตลอดทั้งปีเลย แต่รู้หรือไม่ว่าในอดีต ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ได้ใช้แบบพลาสติกใสเหมือนในทุกวันนี้ แล้วเหตุใด แบบที่เป็นพลาสติกใสแบบที่เราใช้กันอยู่ จึงกลายเป็นส่วน หนึ่ง ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น เหมือนกับในปัจจุบัน ที่ผู้คนใช้กันมากมาย

    กว่าจะกลายมาเป็น ร่มใสกันฝน

    เรื่องนี้เราอาจจะต้องย้อนกลับไปเป็นระยะเวลายาวนานสักนิด ในประเทศญี่ปุ่นราวช่วงยุคปี 1940 หากเรากล่าวถึงร่ม ชาวญี่ปุ่นจะนึกถึงแบบที่ทำมาจากผ้าไหม ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง หรือเป็นแบบที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน ก็อาจจะนึกถึงแบบที่ทำมาจากป่านหรือฝ้าย ซึ่งแบบนี้ถือเป็นแบบทั่วไป แม้ว่าหน้าที่ของมันจะเอาไว้สำหรับกันฝน แต่วัสดุที่ใช้ในการทำในยุคสมัยนั้น ซึ่งเป็นวัสดุเส้นใยธรรมชาติ ถูกย้อมสีสันเพื่อความสวยงาม เมื่อนำมาใช้ในการกันฝนเอง ก็จะเกิดปัญหาสีตกเมื่อโดนน้ำ ซึ่งเป็นปัญหากวนใจสำหรับการใช้งานเป็นอย่างมาก

    จากนั้นบริษัทที่กล่าวมาข้างต้น จึงพยายามที่จะแก้ปัญหานี้ ทำให้สีไม่ตกใส่เสื้อผ้าของผู้ใช้งาน สิ่งที่ถือกำเนิดและเกิดขึ้น คือการทดลองนำเอาพลาสติก มาเป็นที่คลุม โดยนำแผ่นพลาสติกมาตัดเป็นทรง 8 เหลี่ยม และนำมาคลุมลงบนด้านบนของร่ม ซึ่งเป็นการออกแบบแบบง่ายๆ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมาย แต่กลับทำให้อุปกรณ์การฝนไม่เปียก และแก้ปัญหาสีตกได้เป็นอย่างดี ทำให้พลาสติกดังกล่าวนี้ กลายมาเป็นสินค้ายอดนิยมในยุคนั้นเลยทีเดียว

    แต่แล้วในช่วงปี 1955 ด้วยอิทธิพลจากยุโรป มีการใช้ไนลอนในการผลิต ซึ่งคุณสมบัติโดดเด่นของไนลอน คือสามารถที่จะกันน้ำได้ ดังนั้น ผ้าไนลอนจึงถูกนำมาใช้ในการประดิษฐ์ของชิ้นนี้ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย พลาสติกซึ่งแต่เดิมใช้สำหรับคลุม จึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ดังนั้นทางบริษัทจึงได้เกิดไอเดียใหม่ขึ้นมา คือเอามันมารวมกันเสียเลย และตรงนี้เองคือจุดเริ่มต้น ของการผลิตร่มพลาสติกใสคันแรกของโลก มีการทดลองถูกผิดมากมาย เป็นระยะเวลาค่อนข้างยาวนาน โดยใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 3 ปีจนในที่สุด แบบเสร็จสมบูรณ์ชิ้นแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และได้ออกสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกในปี 1958 ถึงแม้ว่าในช่วงแรกนั้น มันจะยังไม่ได้มีสีใสเหมือนกับในปัจจุบัน โดยสีที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นสีขาวขุ่น ก่อนจะถูกพัฒนามาเป็นแบบที่เราใช้งานกันในทุกวันนี้ แต่นอกจากร่มใสแล้วยังมี ร่มพับ  ร่มตอนเดียว ที่คนไทยนิยมใช้ด้วยเช่นกัน