CALL CENTER
    02-408-1377 (อัตโนมัติ 10 คู่สาย)

    blog

    5 เหตุุผลที่สายเฮลท์ตี้ จำเป็นต้องพกร่มในช่วงฤดูร้อน

    เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสินค้าอย่างร่มนั้นถือเป็นไอเทมชิ้นสำคัญสำหรับช่วงฤดูฝน เรียกได้ว่าแทบทุกคนจำเป็นต้องพกร่มออกไปเรียน ออกไปทำงานในช่วงหน้าฝน เพื่อให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น สามารถโพรเทคตัวเองจากฝนที่อาจจะตกลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สำหรับฤดูอื่น ๆ เช่น ฤดูร้อน...

    เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสินค้าอย่างร่มนั้นถือเป็นไอเทมชิ้นสำคัญสำหรับช่วงฤดูฝน เรียกได้ว่าแทบทุกคนจำเป็นต้องพกร่มออกไปเรียน ออกไปทำงานในช่วงหน้าฝน เพื่อให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น สามารถโพรเทคตัวเองจากฝนที่อาจจะตกลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สำหรับฤดูอื่น ๆ เช่น ฤดูร้อน ฤดูหนาว ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักมองข้ามถึงความสำคัญของการพกพาร่มไป เพราะเปอร์เซ็นต์ที่ฝนจะตกลงมาในแต่ละวันนั้นมีน้อย และหลายคนก็มักคุ้นเคยเพียงแค่ประโยชน์ใช้งานพื้นฐานของไอเทมชิ้นนี้ ซึ่งก็คือป้องกันการเปียกปอนจากสายฝนเท่านั้น แต่ทว่าสำหรับผู้บริโภคสายเฮลท์ตี้แล้วต้องบอกว่าการพกพาร่มในฤดูอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฤดูร้อนนั้นอาจมีความสำคัญไม่แพ้กับในช่วงฤดูฝนเลยทีเดียว เพราะไอเทมชิ้นนี้ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยโพรเทคปัญหาสุขภาพหลายประการที่มีสาเหตุมาจากการสัมผัสแสงแดดที่แรงเกินไป ในบทความนี้จึงรวบรวมเอา 5 เหตุผลสำคัญ ที่ชาวเฮลท์ตี้จำเป็นต้องพกพาร่มติดตัวไว้ในช่วงหน้าร้อนมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน
    ปกป้องผิวจากรังสี UV เหตุผลสำคัญประการแรกที่ผู้บริโภคสายเฮลท์ตี้จำเป็นต้องพกพาร่มในช่วงหน้าร้อนก็คือ ประโยชน์ในการช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีชนิดต่าง ๆ นั่นเอง ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันดีว่าแสงแดดที่แรงเกินไปในช่วงฤดูร้อนในบ้านเรานั้นจะมาพร้อมกับรังสีที่ทำอันตรายต่อผิวหนัง ทั้งการเปลี่ยนสีผิวธรรมชาติให้หมองคล้ำลง และหากสัมผัสเป็นระยะเวลานานติดต่อกันเรื่อย ๆ ก็อาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้เลย ซึ่งตัวช่วยที่ดีที่สุดก็คือร่มที่ผลิตจากผ้าที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีได้นั่นเอง
    ช่วยปกป้องดวงตา รังสียูวีที่มาพร้อมกับแสงแดดนั้นไม่เพียงจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังเท่านั้น อวัยวะสำคัญอย่างดวงตา หากมีการสัมผัสแสงแดดที่แรงจัดโดยตรง โดยเฉพาะแดดช่วงบ่ายในฤดูร้อนบ้านเรานั้น ก็อาจส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาวได้เลย ขณะที่ผลกระทบในระยะสั้นก็มีหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อาการแสบ เคืองที่ดวงตา อาการตาแห้ง เป็นต้น การกางร่มขณะอยู่กลางแจ้ง เพื่อไม่ให้แสงแดดตกกระทบกับดวงตาโดยตรง จึงนับเป็นวิธีโพรเทคสุขภาพดวงตาได้ดีทีเดียว
    ช่วยป้องกันปัญหาสิว ฝ้าบนใบหน้า นอกจากปัญหาเรื่องของความหมองคล้ำ และความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังแล้ว หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าการปล่อยให้ผิวของเราสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงจะตามมาด้วยปัญหาผิวอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ปัญหาสิว ฝ้าบนใบหน้านั่นเอง เพราะความร้อนจากแสงแดดที่สัมผัสผิวหน้าโดยตรงมักจะตามมาด้วยปัญหาความมัน หรือเหงื่อที่ถูกขับออกจากร่างกายโดยอัตโนมัติ ซึ่งปัญหาความมันนี้เองที่เป็นต้นตอของปัญหาผิว อย่างสิว ผดผื่น หรือฝ้าที่จะตามมาภายหลัง การเลือกกางร่มในฤดูร้อนเพื่อปกป้องผิวไม่ให้ถูกแสงแดดสัมผัสโดยตรง จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสิว ฝ้าบนใบหน้าได้นั่นเอง นอกจากนี้ควรเลือกร่มที่มีขนาดใหญ่เพื่อที่จะหลบแสงแดดได้ทั้งหมดเช่น ร่มกอล์ฟ ร่ม16ก้านเป็นต้น
    ช่วยปกป้องสุขภาพผม และหนังศีรษะ อีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่ถือว่ามีความสัมพันธ์กับความร้อนจากแสงแดดพอสมควรก็คือ ปัญหาสุขภาพผมและหนังศีรษะนั่นเอง ทั้งนี้การที่ปล่อยให้เส้นผมและศีรษะของเราสัมผัสกับความร้อนจากแสงแดดที่แรงจัดนอกจากนี้ อาจตามมาด้วยปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาผมแห้งเสีย ผมขาดหลุดร่วง รวมถึงเชื้อราบนหนังศีรษะได้ การกางร่มขณะอยู่กลางแจ้งในช่วงที่แดดแรงจัดจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพผมและหนังศีรษะได้
    ช่วยป้องกันปัญหาร่างกายอ่อนเพลีย นอกจากแสงแดดและความร้อนจะเป็นตัวการของปัญหาสุขภาพที่สังเกตเห็นได้จากภายนอกแล้ว สุขภาพภายในก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกรบกวนโดยความร้อนจากแสงแดดไม่แพ้กัน ซึ่งปัญหานึงที่พบได้บ่อยจากการสัมผัสแสงแดดที่แรงจัดตรง ๆ ก็คือ ปัญหาร่างกายอ่อนเพลีย ขาดน้ำ หรืออาการเพลียแดดที่หลายคนเรียกกันนั่นเอง การเลือกกางร่มเพื่อโพรเทคร่างกายจากแสงแดดในช่วงฤดูร้อน จึงถือเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันปัญหาร่างกายอ่อนเพลีย หรือภาวะฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น อาการเป็นลม ภาวะร่างกายขาดน้ำ เป็นต้น นอกจากนี้ร่มยังมีหลากหลายแบบคุณสามารถเลือกใช้ตามความต้องการของคุณได้เลย หากต้องการความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ร่มพับ สามารถช่วยคุณได้เนื่องจากร่มมีขนาดเล็กกระทัดรัด สามารถพกพาใส่กระเป๋าได้

    เลือกร่มกัน UV สำหรับผู้ต้องการดูแลผิว

    เพราะประเทศไทยเราเป็นประเทศเมืองร้อน สภาพอากาศและแสงแดดจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างแรงและยาวนาน โดยสิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัญหาอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอยากจะดูแลผิวของตนเอง ให้ดูมีความขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีวิธีป้องกันแตกต่างกันออกไป...

    เพราะประเทศไทยเราเป็นประเทศเมืองร้อน สภาพอากาศและแสงแดดจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างแรงและยาวนาน โดยสิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัญหาอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอยากจะดูแลผิวของตนเอง ให้ดูมีความขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีวิธีป้องกันแตกต่างกันออกไป ทั้งการใส่เสื้อแขนยาว หรือการทาครีมกันแดด

    ซึ่งอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลเช่นเดียวกันเวลาออกไปทำกิจกรรมข้างนอกแล้วต้องเผชิญหน้ากับแสงแดด ก็คือ การพกร่มติดตัว ที่นับเป็นวิธีที่ได้ผลเป็นอย่างมาก

    ร่มที่นิยมใช้บังแดดก็มีมากมายเช่นร่ม16ก้าน  ร่มตอนเดียว ร่มกอล์ฟ ร่มพับเป็นต้นอย่างไรก็ตามหากเป็นวันที่แดดแรงมาก การใช้ร่มปกติทั่วไปก็อาจจะไม่สามารถป้องกันความร้อนและรังสี UV ได้ดีเท่าไหร่ หากเทียบกับร่มแบบป้องกัน UV โดยตรง

    ร่มปกติ กับ ร่มกัน UV ต่างกันอย่างไร ?
    หากดูเผิน ๆ ความแตกต่างระหว่างร่มทั้ง 2 ชนิดนี้ จะแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย แต่หากดูวัสดุที่ใช้ในการผลิต ร่มกัน UV จะมีวัสดุที่ดีกว่าชัดเจน ซึ่งจะใช้ ผ้าโพลีอีสเตอร์ ที่มีคุณสมบัติกรองแสงได้ดี หรือ อาจมีการเคลือบสารป้องกันรังสี UV เข้าไป เพื่อยกระดับการป้องกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
    ส่วนร่มปกตินั้น จะใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าใบธรรมดาในการผลิต ซึ่งก็สามารถกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ไม่ป้องกัน UVA และ UVB ด้วยเท่านั้น

    วิธีเลือกซื้อร่มกัน UV
    การเลือกซื้อร่มกัน UV ควรตรวจสอบว่ามีการเคลือบสารป้องกันด้วยหรือไม่ โดยส่วนใหญ่สินค้ามักจะใช้สารเคลือบจำพวก ซิงค์ออกไซด์ หรือ ไทเทเนียมไดออกไซด์ หากมีการยืนยันการใช้สารอย่างที่กล่าวไป ก็จะสามารถมั่นใจในการใช้งานได้ และถ้าจะให้ดีก็ควรจะเลือกรุ่นที่มีสีสว่างจำพวก สีขาว สีครีม หรือสีเงิน เพราะสีจำพวกนี้จะสามารถช่วยสะท้อนแสงแดดได้ดีนั่นเอง

    ขณะเดียวกันหากต้องการร่มที่มีความทนทาน ควรมองไปยังวัสดุที่ใช้ทำผ้าร่มด้วย เพราะถ้าได้ผ้าร่มที่แข็งแรง มันก็จะไม่เกิดปัญหาฉีกขาดได้ง่าย โดยควรเน้นไปที่การใช้ ผ้าใบ หรือ ผ้าอะคริลิค ซึ่งมีความเหนียวและแข็งแรง แต่หากพูดถึงสิ่งที่จะรับประกันคุณภาพของสินค้าได้มากที่สุดก็คือการเลือกสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง เพราะแบรนด์เหล่านี้จะมีมาตรฐานการผลิตที่เชื่อถือได้ และสินค้ายังมักมีประกันรับรองมาให้ด้วย

    ประโยชน์ของการใช้ร่มกัน UV

    1.ช่วยลดปัญหาการเกิดมะเร็งผิวหนัง
    รังสี UVA และ UVB ที่อยู่ในแดดหากรับในปริมาณที่มากเกินไปแน่นอนว่ามันย่อมต้องส่งผลเสียต่อผิวหนังของร่างกาย ให้เกิดการเปลี่ยนสีและแห้งกร้าน อีกทั้งใน UVB ยังถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ซึ่งสาร ซิงค์ออกไซด์ และ ไทเทเนียมไดออกไซด์ ที่ถูกเคลือบลงไปบนผิววัสดุร่ม จะช่วยกรองรังสีเหล่านี้ไม่ให้กระทบต่อผู้ใช้ได้นั่นเอง

    2.ลดปัญหาอาการดวงตาพร่ามัว
    เมื่อดวงตาต้องเจอกับแสงแดดจ้าอาจทำให้เกิดอาการพร่ามัวหรืออาการตาแห้ง ซึ่งทำให้มีผลต่อโรคต้อกระจกตามมาหากต้องทนกับมันไปนาน ๆ เพราะรังสี UVB โดยการใช้ร่มจะช่วยแก้ปัญหาในจุดนี้ได้

    3.ใช้ร่มกัน UV จะเย็นกว่าร่มทั่วไป
    หากเป็นร่มปกติมันจะทำได้แค่บังแดดเพียงเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยทำให้ผู้ใช้รู้สึกหายร้อนมากแต่อย่างใด กลับกันถ้าหากเปลี่ยนมาใช้ร่มกัน UV ด้วยวัสดุและสารเคลือบพิเศษจะช่วยให้ร่มไม่สะสมความร้อนด้านใต้ จึงทำให้ผู้ใช้รู้สึกเย็นกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ

    ส่วนเรื่องราคานั้นเป็นที่แน่นอนว่าร่มกัน UV จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าร่มทั่วไป โดยแบรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนี้ก็จะมีตั้งแต่ BGG,Xiaomi,Yoco หรือ พวกร่มกอล์ฟเป็นต้น

    เลือกร่มพับ สำหรับชาวออฟฟิศ

    ชีวิตพนักงานออฟฟิศโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต่างก็มีการเดินทางที่ค่อนข้างลำบากและจำเป็นต้องพึ่งพาระบบขนส่งสาธารณะเสียส่วนใหญ่ ซึ่งจะยุ่งยากเข้าไปอีกเมื่อประเทศเข้าสู่ฤดูฝน แน่นอนว่าเมื่อถึงช่วงนี้วิธีเดียวที่จะพาให้เราไปถึงสถานที่ทำงานได้โดยไม่เปียกปอน...

    ชีวิตพนักงานออฟฟิศโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต่างก็มีการเดินทางที่ค่อนข้างลำบากและจำเป็นต้องพึ่งพาระบบขนส่งสาธารณะเสียส่วนใหญ่ ซึ่งจะยุ่งยากเข้าไปอีกเมื่อประเทศเข้าสู่ฤดูฝน แน่นอนว่าเมื่อถึงช่วงนี้วิธีเดียวที่จะพาให้เราไปถึงสถานที่ทำงานได้โดยไม่เปียกปอน ก็คือการใช้ร่มกันฝนนั่นเอง

    การเลือกร่มสำหรับพนักงานออฟฟิศ
    การตัดสินใจไม่พกร่มติดตัวในช่วงฤดูฝนถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่ากระทำเท่าไหร่ เพราะในฤดูนี้ฝนจะสามารถตกได้ตลอดเวลาโดยไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณบอกล่วงหน้า ฟ้าอาจจะปลอดโปร่งในตอนเช้าแต่จะตกในเวลาตอนเย็น หรืออาจตกตลอดทั้งวันเลยก็ได้ ดังนั้นการพกร่มจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การเดินทางทั้งขาไปและขากลับเป็นไปตามกำหนดเวลาที่แน่นอน

    ซึ่งร่มที่ขายกันอยู่นั้นจะมีอยู่ด้วยกันสองแบบหลัก ๆ ได้แก่ ร่มแบบพับได้ กับ พับไม่ได้ อย่างเช่นร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียวเป็นต้น ซึ่งหากให้เลือกก็ควรเลือกแบบพับได้ เพราะสามารถเก็บใส่กระเป๋าพกติดตัวได้สะดวกกว่าร่มแบบปกติที่ต้องถือตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกันแล้ว ร่มแบบปกติที่พับไม่ได้นั้นมักจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เนื่องจากมีกลไม่ซับซ้อน จึงทำให้มีโครงสร้างที่แข็งแรง ซึ่งถ้าหากอยากได้ร่มพับที่มีคุณภาพละก็ จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับร่มชนิดนี้สักนิด คุณก็จะได้ร่มพับที่ใช้ได้นานขึ้นมาครอง

    ร่มพับแบบต่าง ๆ
    ร่มพับเองก็มีชนิดให้เลือกด้วยเหมือนกัน โดยจะแบ่งออกตามปริมาณข้อต่อเป็น ร่มพับ 2 ตอน ร่มพับ 3 ตอน และร่มพับ 5 ตอน ซึ่งการมีข้อต่อเยอะจะยิ่งทำให้ต้องใช้ชิ้นส่วนมากขึ้น จึงอาจส่งผลต่อความแข็งแรงให้น้อยลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น เพราะร่มที่มีตอนเยอะของบางยี่ห้อก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนกันทุกอัน

    วัสดุที่ใช้ในการผลิต
    วัสดุที่ใช้ในการผลิตถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อความแข็งแรงและอายุการใช้งานของร่ม โดยมาตรฐานการผลิตที่ถูกต้อง ควรที่จะใช้วัสดุดังต่อไปนี้

    1.ผ้าร่ม
    จะต้องใช้วัสดุ ผ้าไนลอน อันเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติความยืดหยุ่นสูง มีความเหนียวและคงสภาพได้ดี กันน้ำกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้ป้องกันแสงแดดกับน้ำฝน

    2.โครงสร้างร่ม
    ไม่ว่าจะส่วนแกนกลางหรือโครงซี่ร่ม วัสดุที่ใช้ในการผลิตจะต้องมีความแข็งแรงสามารถทนทานต่อแรงกดทับได้ดี ที่สำคัญคือต้องไม่เป็นสนิมง่าย เมื่อเจอกับความชื้น โดยทั่วไปแล้วโรงงานผลิตร่มมักจะใช้วัสดุอะลูมิเนียมในการทำ เพราะเป็นวัสดุที่ตรงกับข้อกำหนดตามที่กล่าวมามากที่สุด แถมยังมีน้ำหนักเบาไม่เป็นภาระเมื่อพกพา แต่สำหรับรุ่นที่มีเกรดหรือได้รับการผลิตโดยแบรนด์ที่มีชื่อเสียง พวกเขาจะใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบพิเศษ ที่มีส่วนผสมช่วยให้วัสดุแข็งแรงขึ้น รวมถึงกันสนิมได้ดีกว่า ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานกว่าปกติ

    3.ด้ามจับ
    ในส่วนของด้ามจับจะเป็นส่วนที่ไม่ค่อยเสียหายเท่าไหร่ และไม่ได้มีผลกับโครงสร้างโดยตรง ในส่วนนี้จึงไม่จำเป็นต้องซีเรียสว่าจะต้องเลือกเป็นวัสดุอะไร ซึ่งส่วนใหญ่ด้ามจับจะทำจากวัสดุพลาสติก เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ทนทาน ใช้ต้นทุนต่ำ

    ตรวจสอบสินค้าที่ได้รับมาตรฐาน ISO
    (ISO) International Standardization and Organization เป็นองค์การมาตรฐานสากล ที่มีหน้าที่ในการดูแลมาตรฐานสินค้าต่าง ๆ โดยสินค้าที่ได้รับมาตรฐานนี้จะมีความน่าเชื่อถือสูงมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าด้วย

    อย่างไรก็ตามนอกจากการได้มาซึ่งสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว การดูแลรักษาก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยขยายระยะเวลาของร่มพับให้อยู่กับเราได้นานขึ้นเช่นกัน

    ส่องอันดับประเภทร่ม ที่ถูกเลือกใช้เป็นของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดมากที่สุด

    อย่างทราบกันดีว่าสินค้าอย่างร่มนั้น นอกจากจะเป็นสินค้าที่มีประโยชน์ใช้สอยพื้นฐาน ซึ่งเป็นที่ต้องการสำหรับทุกคนแล้ว ก็ยังมีประโยชน์ที่โดดเด่นอยู่อีกอย่างนึง ซึ่งก็คือการใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด เป็นตัวช่วยในการโปรโมทแบรนด์ แคมเปญต่าง ๆ...

    อย่างทราบกันดีว่าสินค้าอย่างร่มนั้น นอกจากจะเป็นสินค้าที่มีประโยชน์ใช้สอยพื้นฐาน ซึ่งเป็นที่ต้องการสำหรับทุกคนแล้ว ก็ยังมีประโยชน์ที่โดดเด่นอยู่อีกอย่างนึง ซึ่งก็คือการใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด เป็นตัวช่วยในการโปรโมทแบรนด์ แคมเปญต่าง ๆ หรือก็คือสินค้าพรีเมี่ยมที่แบรนด์ธุรกิจ ห้างร้านต่าง ๆ ใช้ในการแจก แถม มอบให้ลูกค้าผ่านโปรโมชั่นต่าง ๆ นั่นเอง เนื่องด้วยลักษณะรูปทรงของตัวสินค้าที่มีความพิเศษเอื้อต่อการสื่อสารข้อความ สัญลักษณ์ใด ๆ ผ่านตัวสินค้าได้อย่างโดดเด่น สะดุดตาเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทอื่น ๆ อย่างไรก็ตามร่มที่มีเราได้เลือกนำมาทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ นั้น มีอยู่หลากหลายประเภทด้วยกัน ในบทความนี้จึงเรียงลำดับประเภทร่มแบบต่าง ๆ ซึ่งได้รับความนิยมในการเลือกหยิบจับมาทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับกิจกรรมทางการตลาดมากที่สุดให้ได้ทราบ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้งานกัน
    ร่มตอนเดียวทรงคลาสสิค ร่มประเภทแรกที่ต้องยกให้เป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาลที่ได้รับความนิยมเลือกใช้ในแวดวงการตลาดมากที่สุดก็ ร่มตอนเดียวทรงคลาสสิค หรือทรงมาตรฐานที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเอง ข้อดีที่ทำให้ร่มประเภทนี้ได้รับความนิยมในการเลือกใช้เป็นสินค้าพรีเมี่ยมมากกว่าประเภทอื่น ๆ ก็คือ ความแข็งแรงทนทาน และต้นทุนในการจัดทำ หรือสั่งผลิต ซึ่งค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับประเภทอื่น ๆ นอกจากนี้ยังหาโรงงานผู้ผลิตได้ค่อนข้างง่ายกว่าร่มชนิดอื่น ๆ ด้วย
    ร่มพับ 3 ตอน มากันที่ร่มประเภทที่ได้รับความนิยมในการเลือกใช้เป็นสินค้าพรีเมี่ยมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ซึ่งก็คือ ร่มแบบพับ 3 ตอนนั่นเอง ข้อดีของประเภทนี้ก็คือ ค่อนข้างเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก เพราะแม้ว่าร่มแบบตอนเดียวทรงมาตรฐานจะถือเป็นประเภทที่หลายคนคุ้นเคยมากที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดในการพกพาไว้ใช้งาน ซึ่งก็คือเรื่องของขนาดที่ไม่สามารถพับเก็บเป็นขนาดเล็กให้พกพาได้อย่างสะดวก ผู้บริโภค หรือกลุ่มลูกค้าจำนวนมากจึงหันไปนิยมใช้งานร่มพับแบบ 3 ตอนแทน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเลือกนำทำเป็นของพรีเมี่ยมก็ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าที่ได้รับสินค้าไปจะนำสินค้าไปใช้งานจริงมากขึ้น
    ร่มกอล์ฟ ร่มประเภทที่ได้รับความนิยมทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับกิจกรรมทางการตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ก็คือ ร่มกอล์ฟนั่นเอง ข้อดีของสินค้าประเภทนี้ก็คือ สามารถใช้ในกิจกรรม แคมเปญการโปรโมทที่เจาะจงเฉพาะกลุ่มลูกค้าได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ ที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากชื่อแบรนด์ โลโก้ที่พิมพ์อยู่บนสินค้ามักจะไปปรากฏอยู่ในสนามกอล์ฟ ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงของแบรนด์ธุรกิจต่าง ๆ อย่างไรก็ตามข้อเสียที่ตามมาก็คือต้นทุนราคาสั่งผลิตที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับประเภทอื่น ๆ
    ร่มเต็นท์/ร่มสนาม ร่มอีกหนึ่งประเภทที่ค่อนข้างได้รับความนิยมพอสมควรในการช่วยสื่อสารภาพลักษณ์ และผลิตภัณฑ์ที่แบรนด์ธุรกิจต่าง ๆ จัดจำหน่ายก็คือ ร่มขนาดใหญ่ ประเภทร่มเต็นท์ หรือร่มพ่อค้าแม่ค้าที่เราพบเห็นกันบ่อย ๆ ตามตลาด หรือแหล่งช้อปปิ้งสินค้าทั่วไปนั่นเอง ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าร่มลักษณะนี้มักจะถูกจัดทำขึ้นมาเป็นของพรีเมี่ยมที่มีการพิมพ์ชื่อ โลโก้แบรนด์ รวมถึงอาจมีการพิมพ์ภาพโฆษณาสินค้าตัวใด ๆ ของแบรนด์นั้น ๆ ด้วย เนื่องจากโปรโมทในลักษณะนี้จะช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง และสื่อสารได้ถูกเวลาด้วย(สื่อสารในขณะที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายกำลังเดินเลือกซื้อสินค้า) ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นยอดขายได้แบบทันทีทันใด แตกต่างจากการโปรโมทผ่านสินค้าประเภทอื่น ที่อาจได้ประสิทธิผลทางการตลาดในทางอ้อมมากกว่า

    กางร่มดีกว่า อาการไม่พึงประสงค์ ที่อาจเกิดได้จากแสงแดด

    แสงแดดเมืองไทยหรือแสงแดดของบ้านเรานั้น เป็นที่เลื่องลือว่าเป็นอะไรที่แรงมาก และอาจจะทำลายผิวของเราไปได้ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นด้วยเหตุนี้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องพกร่มไปไหนมาไหนอยู่เสมอ นอกจากสามารถกันฝน...

    แสงแดดเมืองไทยหรือแสงแดดของบ้านเรานั้น เป็นที่เลื่องลือว่าเป็นอะไรที่แรงมาก และอาจจะทำลายผิวของเราไปได้ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นด้วยเหตุนี้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องพกร่มไปไหนมาไหนอยู่เสมอ นอกจากสามารถกันฝน ร่มยังสามารถใช้ในการกันแดดหรือรังสีต่างๆที่มีอันตรายต่อผิวหนังของเราได้ด้วยเช่นเดียวกัน และแสงแดดที่มากจนเกินไปเหล่านี้ ก็ยังก่อให้เกิดโรคบางอย่างขึ้นได้ด้วยเช่นเดียวกัน

    แน่นอนว่าแสงแดดยามเช้านั้นมีความสำคัญในการสร้างวิตามินดีที่จำเป็นต่อผิวและร่างกายของเรา แต่หากว่าเราได้รับแสงแดดที่มากจนเกินไป แทนที่จะมีประโยชน์มันกลับเป็นอันตรายต่อผิวหนังของเราได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเราจึงควรที่จะต้องพกร่มอยู่เสมอ ร่มที่พกพาได้ง่ายเช่น ร่มพับ และวันนี้เราจะมานำเสนอโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับการได้รับแสงแดดที่มากจนเกินไป จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

    โรคที่มีความเกี่ยวข้องกับการแพ้แสงแดดหรือโรคภูมิแพ้

    โรคภูมิแพ้หรือโรคแพ้แสงแดดนั้น ผู้ที่แพ้มักจะมีอาการอักเสบจากการตากแดดเป็นเวลานานๆ หรือมีปฏิกิริยาไวเมื่อมีการกระตุ้นจากแสงแดดเกิดขึ้น อาการทั่วไปอาจเกิดมีอาการผื่นแดงทั่วตัว หรือมีอาการปวดแสบปวดร้อนตามผิวหนังได้ด้วยเช่นเดียวกัน บางคนหักเป็นมากอาจมีอาการคันหรือเป็นแผลพุพองร่วมด้วย

    เป็นฝ้ากระ หรือเกิดจุดด่างดำขึ้น

    อันนี้ไม่ได้เป็นโรคเสียทีเดียว แต่อาจจะเป็นอาการไม่พึงประสงค์อันเกิดจากแสงแดด หรือการที่เราไม่กางร่มได้ สำหรับการเกิดฝ้ากระ การเกิดจุดด่างดำหรือเป็นผื่น หรืออาจมีรอยจุดสีน้ำตาลพร้อมบริเวณแก้ม จมูก หน้าผาก หรือบริเวณคาง รวมถึงบริเวณอื่นที่อาจโดนแสงแดดเป็นเวลานานๆ ซึ่งปัจจัยในการเกิดปัญหาต่างๆเกิดจากการกระตุ้นจากแสงแดด ซึ่งหากเราอยู่ในจุดที่โดนแดดหรือแดดจัดเป็นเวลานาน ๆ อาการเหล่านี้ก็อาจเป็นมากขึ้น อย่างเช่นฝ้าของเราอาจจะหนาขึ้น ไม่เพียงแค่บริเวณใบหน้าเท่านั้น อาจเกิดบริเวณแขนหรือลำตัวได้ และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

    โรคมะเร็งผิวหนัง

    โรคมะเร็งผิวหนังนั้นเป็นโรคที่เกิดได้จากการถูกแสงแดดในปริมาณที่มากเกินไป ผิวหนังเกิดการไหม้เกรียมอยู่บ่อยครั้ง นั่นอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ นอกจากแสงแดดแล้ว มะเร็งผิวหนังอาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยเสี่ยงอีกมากมายหลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นจากการเป็นแผลเรื้อรังจากรอยไหม้ การที่ถูกฉายแสงจากรังสีเอกซเรย์ในปริมาณที่สูงจนเกินไป หรือผู้ที่มีความไวต่อการไม่จากแสงแดดได้ง่ายก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย

    โรคลมแดด

    การเป็นลมแดดนั้นเกิดจากภาวะที่ร่างกายได้รับความร้อนที่สูงหรือมากจนเกินไป นั่นเป็นเหตุให้ร่างกายไม่สามารถที่จะขับความร้อนออกจากร่างกายได้ทัน ต่อมาจึงเกิดอาการหน้ามืดและเป็นลมได้ หากในกรณีที่ร้ายแรงจนเกินไปอาจทำให้ผู้ที่เกิดอาการลมแดดนั้นเกิดอาการช็อค ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจเสียชีวิตได้เลย

    โรคเกี่ยวกับดวงตา

    แน่นอนว่าแสงแดดนั้นเป็นต้นเหตุของโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับดวงตามากมายหลากหลายด้วย สำหรับแสงแดดจากนั้นนอกจากจะทำลายผิวให้เกิดอันตรายแล้ว ดวงตาก็เป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดมากเช่นเดียวกัน หากดวงตาเจอกับแสงแดดนานๆ อาจทำให้มีอาการแสบตาและอาจเกิดน้ำตาไหลได้ หรืออาจเกิดการแพ้แสงได้ หรืออาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต้อหลายอย่างเช่นต้อเนื้อ ต้อลม หรือต้อกระจกได้ด้วย การออกแดด สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการกางร่มอยู่เสมอ

    โรคภัยเหล่านี้ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็น และนับว่าค่อนข้างอันตรายต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะป้องกันเราจากโรคภัยเหล่านี้ คือการอยู่ในที่ร่ม หรือหากเลี่ยงไม่ได้ให้เรากางร่มในขณะที่เราออกไปข้างนอกร่มใหญ่ ๆ ที่สามารถกันกันแดดได้ เช่น ร่มกอล์ฟ ร่มสนาม เป็นต้น หรือหากเรากางร่มไม่ได้อย่างน้อยก็ให้เราทาครีมกันแดด ซึ่งถือเป็นสกินแคร์ที่เราควรใช้งานไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม

    มาเลือกร่มให้ตรงกับความต้องการของคุณกันดีกว่า

    เพราะแดดเมืองไทยมันไม่ธรรมดาจึงทำให้ผู้คนจำเป็นต้องหาอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด ที่อาจส่งผลเสียต่อผิวไปจนถึงสุขภาพได้หากต้องเจอกับมันไปนาน ๆ ดังนั้นการมองหาอุปกรณ์ป้องกันจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องออกกลางแจ้งบ่อย ๆ...

    เพราะแดดเมืองไทยมันไม่ธรรมดาจึงทำให้ผู้คนจำเป็นต้องหาอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด ที่อาจส่งผลเสียต่อผิวไปจนถึงสุขภาพได้หากต้องเจอกับมันไปนาน ๆ ดังนั้นการมองหาอุปกรณ์ป้องกันจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องออกกลางแจ้งบ่อย ๆ ส่วนหนึ่งในไอเทมที่ทำหน้าที่นี้ได้ดีที่สุดก็คงหนีไม่พ้น ร่ม นั่นเอง

    เลือกร่มให้เหมาะสมกับการใช้งาน
    ร่มที่วางขายกันอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มสนาม และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งคุณควรที่จะเลือกรูปแบบมาให้สอดคล้องกับการใช้งานมากที่สุด โดยไม่ควรคำนึงถึงความชอบเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้ได้สินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการจริง ๆ โดยร่มแต่ละรูปแบบก็มีคุณสมบัติพิเศษที่เอื้ออำนวยต่อการใช้งานในลักษณะต่าง ๆ แยกกันออกไป ซึ่งมีดังต่อไปนี้

    1.ร่มตอนเดียว
    เป็นร่มรูปทรงคลาสสิคที่คุ้นตากันอย่างยาวนาน โดยร่มชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในการนำมาใช้ตกแต่งหรือแจกจ่ายเป็นสินค้าพรีเมี่ยมเพื่อโปรโมทแบรนด์ เนื่องจากมีรูปทรงที่สวยงาม ซึ่งร่มแบบนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือร่มโบราณที่หากจะใช้งานต้องใช้มือดันโครงเพื่อกางร่ม กับแบบทันสมัยที่มีกลไกปุ่มกดแล้วจะกางออกให้เองโดยอัตโนมัติ

    2.ร่มไม้เท้า
    เป็นร่มที่ผลิตออกมาในรูปทรงแบบเดียวกับร่มตอนเดียว แต่ที่ต่างออกไปคือมีการออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้เป็นไม้เท้าสำหรับพยุงตัวมากกว่า จากการผลิตด้วยวัสดุที่มีความทนทานแข็งแรง มีการออกแบบด้ามจับให้รับเข้ากับมือ รวมถึงการติดตั้งจุกยางกันลื่นในบริเวณปลายร่มจึงช่วยสร้างความมั่นคงกว่าเมื่อใช้งานเป็นไม้เท้า

    3.ร่มหดเก็บได้
    คือสินค้าร่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคสมัยใหม่ ด้วยความสะดวกในการพับเก็บใส่กระเป๋าซึ่งสามารถพกพาไปได้ทุกที่โดยไม่เป็นภาระ โครงสร้างผลิตออกมาให้สามารถยืดหดได้ เมื่อกลางแล้วจะมีขนาดพอดีตัวใช้บังแดดและกันฝนได้ดี แต่หากต้องการให้ใช้ด้วยกันได้ 2 คน ควรเลือกแบบที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสักหน่อย เนื่องจากร่มชนิดนี้ส่วนใหญ่มักมีขนาดเล็ก ขณะที่วัสดุผ้าร่มเมื่อใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งและมีแดดจัด จะกันแดดและรังสีความร้อนได้น้อยกว่าร่มแบบอื่นที่มีขนาดใหญ่รวมถึงคุณภาพผ้าที่ดีกว่า มันจึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน

    4.ร่มกอล์ฟ
    ร่มกอล์ฟเป็นร่มที่ผลิตออกมาเพื่อใช้ในกิจกรรมกีฬากลางแจ้ง อย่างเช่น กอล์ฟ เทนนิส หรือ กีฬาแข่งรถ เพราะเป็นร่มที่ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง ตั้งแต่โครงสร้างที่กันลมกระโชกได้ดีโดยไม่เสียรูปทรง รวมถึงผ้าร่มที่มีความหนากันรังสีความร้อนจากแดดได้อย่างอยู่หมัด มีให้เลือกตั้งแต่แบบชั้นเดียวหรือแบบ 2 ชั้น ทั้งนี้ด้วยคุณภาพของมันจึงทำให้ราคาของร่มกอล์ฟถือว่าค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับร่มอื่น ๆ

    5.ร่มกลางแจ้ง
    เป็นร่มขนาดใหญ่แบบติดตั้งที่ถูกนำมาใช้เพื่ออำนวยความสบายให้แก่ นักท่องเที่ยว แขก หรือ ลูกค้า ได้ลบแดดมาเข้าร่มเงา มักพบได้ในพื้นที่ร้านค้า ชายหาด หรือบูธกลางแจ้ง โดยรวมชนิดนี้มีขนาดใหญ่มาก น้ำหนักเยอะต้องใช้คู่กับฐานในการใช้บริการสถานที่ ผ้าร่มมีความหนาพิเศษ นิยมนำติดโลโก้เพื่อโปรโมทแบรนด์

    เลือกร่มโดยคำนึงคุณภาพตามมาตรฐาน
    หากคุณกำลังเลือกซื้อร่มไว้ใช้งาน สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ คุณภาพของสินค้า เพราะมันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ไม่ให้รู้สึกผิดหวังเมื่อได้สินค้าที่ตรงกับความต้องการและสามารถใช้งานได้นาน ๆ

    ตรวจสอบคุณภาพของผ้าร่ม
    ผ้าร่มที่ถูกใช้ในสินค้า ณ ปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบได้แก่

    1.ผ้าร่มไนลอน
    เป็นผ้ามาตรฐานที่ถูกใช้ในที่ร่มราคาถูกหรือมีขนาดเล็ก มีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดได้ในระดับปานกลาง และจำเป็นต้องมีการพึ่งพาการเคลือบสารป้องกันรังสี UV เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    2.ผ้าร่มโพลีเอสเตอร์
    ทนทานและกันรังสี UV ได้ดีกว่า แต่ก็ยังคงมีการเคลือบสารป้องกันรังสี UV เพิ่มเติม สามารถพบได้ในร่มที่มีราคาปานกลางหรือมีขนาดใหญ่ขึ้น

    3.ผ้าร่มนาโน
    นอกจากคุณสมบัติความทนทานและป้องกันแสงแดดจะดีแล้ว เนื้อผ้าชิ้นนี้ยังแห้งเร็วกว่าผ้าอื่น ๆ ส่งผลให้สามารถป้องกันการเกิดเชื้อราได้ ทำให้ร่มมีอายุการใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น

    วัสดุที่ใช้ในการผลิตโครงสร้าง
    วัสดุที่ใช้ผลิตโครงสร้างก็เป็นอีกเรื่องที่ควรใส่ใจ เพราะนอกจากร่มที่ดีจะต้องกันแดดกันฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว มันยังต้องมีความแข็งแรงมากพอเพื่อรับมือกับแรงลมหรือการกระแทกได้ในระดับหนึ่งโดยไม่เสียรูป ซึ่งวัสดุที่แนะนำก็จะเป็นพวก อะลูมิเนียม ที่ไม่เป็นสนิมและน้ำหนักเบา หรือ ไฟเบอร์ ที่มีความทนทานสูง เป็นต้น

    สุดท้ายนี้ก็อย่าลืมตรวจสอบขนาดร่มเมื่อกางว่าต้องการขนาดใหญ่แบบไหน แบบใช้ได้ร่วมกัน 2 คนหรือมากกว่านั้น ? รวมถึงการดูแบรนด์ผู้ผลิตสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจในการเลือกซื้อนั่นเอง

    ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนผ้าร่ม สำหรับร่มสนามกลางแจ้ง

    ปกติร่มที่เรามักใช้กันอยู่บ่อย ๆ ก็จะเป็น พ่บพับ ร่มตอนเดียว ร่มกอล์ฟ แต่จะมีร่มอยู่อีกหนึ่งรูปแบบ ที่เราหลายคนมักจะมองข้าม สำหรับการนำไปทำเป็นของพรีเมี่ยม เพราะอาจคิดว่ามันพกพาไปไหนมาไหนได้ลำบาก...

    ปกติร่มที่เรามักใช้กันอยู่บ่อย ๆ ก็จะเป็น ร่มพับ ร่มตอนเดียว ร่มกอล์ฟ แต่จะมีร่มอยู่อีกหนึ่งรูปแบบ ที่เราหลายคนมักจะมองข้าม สำหรับการนำไปทำเป็นของพรีเมี่ยม เพราะอาจคิดว่ามันพกพาไปไหนมาไหนได้ลำบาก แต่ในทางกลับกันร่วมสนิทนี้กลับมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า หรือสำหรับผู้ที่ต้องการจะออกบูธ หรือสำหรับการเสริมทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นร้านกาแฟเป็นต้น แน่นอนว่าที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้ ก็คือร่มสนาม ที่เรามักจะตั้งไว้กลางแจ้งนั่นเอง

    โดยปกติร่มสนามกลางแจ้งนี้ มักจะถูกตั้งทิ้งไว้โดยไม่ได้พับเก็บอะไร เป็นแบบนี้อยู่ตลอดทั้งวัน ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเสื่อมสภาพได้มากกว่ารูปแบบทั่วไป และคุณเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า เขาเปลี่ยนผ้าใบกันอย่างไร และเมื่อใดที่เราควรเปลี่ยน วันนี้เราจะพาคุณมาดูกัน

    เมื่อใดที่เราควรเปลี่ยนผ้าร่ม

    เราควรเปลี่ยนผ้าร่มได้ด้วยหลากหลายกรณีด้วยกัน ที่เห็นได้ชัดเจนคือบริเวณผ้าใบมีรอยฉีกขาด โดยปกติหากเป็นคันใหญ่ๆแบบนี้ แล้วมักจะเริ่มมีรอยฉีกขาดมันมักจะเริ่มจากบริเวณส่วนปลายผ้าใบ และมักเกิดรูรั่วได้บ่อย ๆ ด้วย บริเวณตรงรอยเย็บตรึง หากเราไม่รีบเย็บเพื่อซ่อมแซม มันก็มักจะเสียหายจนเราต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งผืน หรืออีกในกรณีคือการที่ผ้าใบร่มมีความแห้งกรอบ ทั้งนี้ก็เนื่องจากการตั้งไว้กลางแจ้งทั้งวันหรือเป็นเวลานาน อาจจะถูกแดดจนเก่า แห้งกรอบและเสื่อมสภาพลงในที่สุด จนมันไม่สามารถทำหน้าที่กันแดดให้เราได้อีกต่อไป

    หรือในกรณีที่สีของผ้าใบเกิดการซีดหมอง ในกรณีมักจะเกิดขึ้นได้กับร่มที่ถูกใช้งานนาน ๆ และหากเป็นแบบที่เราใช้สำหรับการโฆษณา เราอาจจะต้องดูแลเรื่องของสีสันและลวดลายเป็นพิเศษ ดังนั้นหลายคนจึงนิยมเปลี่ยนกัน ในกรณีที่มันขึ้นรา อาจจะเกิดจากความชื้น ซึ่งเวลาเหล่านี้อาจจะทำให้ไม่น่าดูชมนัก เราก็ควรที่จะเปลี่ยนเช่นเดียวกัน ส่วนมากแล้วร้านที่เปลี่ยนอาจจะเป็นร้านที่ต้องใส่ใจเรื่องสุขอนามัยเป็นพิเศษ อย่างร้านอาหารหรือร้านกาแฟ

    ขั้นตอนในการเปลี่ยนผ้าใบร่ม

    ก่อนที่เราจะทำการเปลี่ยน เราจำเป็นที่จะต้องรู้ก่อนว่าผ้าใบของร่มของเราอันเก่ามีขนาดเท่าไหร่ จะได้ซื้อผ้าใบอันใหม่ให้พอดีกับอันเดิม จากนั้นเราจึงทำการถอดส่วนประกอบออกทีละชิ้นตามขั้นตอน

    เริ่มจากบริเวณจุกก่อน ไม่ว่าจะเป็นแบบที่สี่เหลี่ยม หรือแบบตัวแอลก็ตาม ไม่ว่าจะแบบไหนก็ต้องมีจุกครอบอยู่บริเวณด้านบนเสมอ หากมีตะปูหรือน็อตยึดอยู่ก็ให้ทำการเอาออก หลังจากนั้นจึงทำการดึงหรือหมุนฝาครอบออกได้ ต่อไปเราจะทำการแกะได้รอบจุก มันจะมีผ้ากรองจุกอยู่ ตรงนี้สำหรับการกันน้ำฝนซึมซ้อนอยู่ใต้จุก ก็ให้ทำการถอดออกและเลาะด้าย หรือลวดที่พันโดยรอบออก

    ทำการแกะอุปกรณ์ที่ทำการยึดผ้านั้นไว้ โดยให้เราทำการหงาย กางออกให้สุด แล้วนำวัสดุที่ใช้ยึดกับซี่ผ้าใบออก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นด้ายกับคลิปเหล็ก ทำการถอดโครงออก โดยการทำการดึงบริเวณซี่ให้โค้งเล็กน้อย จะทำให้ เราปลดออกได้ง่ายขึ้น ทำให้ครบทุกด้าน ใช้มือดึงวงแหวนที่เชื่อมซี่กับเสา มาทางบริเวณฐานจนสุดมือ จากนั้นทำการยกโครงออกทั้งหมด

    ต่อไปให้เราทำการใส่ผ้าใบผืนใหม่ โดยการนำมาวางไว้บนพื้น พับเป็นครึ่งวงกลม จากนั้นเราจะนำบริเวณโครงมาสอดเข้าตรงกลางผ้า โดยให้ปลายสุดของก้านยื่นออกมา จากนั้นทำการใส่บริเวณตู้มให้ครบทุกด้าน ติดอุปกรณ์สำหรับการยึดผ้า ทำการเย็บพันบริเวณจุก และขั้นตอนสุดท้ายเราจะทำการใส่จุกกลับเข้าที่ให้เรียบร้อย

    ร่มสำหรับเด็ก อุปกรณ์คู่กายที่ควรมีติดตัวไปโรงเรียนในช่วงฤดูฝน

    การฝึกฝนให้เด็กสามารถดูแลตนเอง ถือเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ควรที่จะสนับสนุนตั้งแต่ยังเล็ก โดยหนึ่งสิ่งที่ผู้ปกครองต่างเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ การไปโรงเรียนในช่วงหน้าฝนของลูก ๆ เพราะเป็นฤดูที่ทำให้เกิดอาการเป็นไข้ไม่สบายได้ง่าย...

    การฝึกฝนให้เด็กสามารถดูแลตนเอง ถือเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ควรที่จะสนับสนุนตั้งแต่ยังเล็ก โดยหนึ่งสิ่งที่ผู้ปกครองต่างเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ การไปโรงเรียนในช่วงหน้าฝนของลูก ๆ เพราะเป็นฤดูที่ทำให้เกิดอาการเป็นไข้ไม่สบายได้ง่าย และยังสร้างความลำบากขณะเดินทางเพื่อไม่ให้ชุดหรือกระเป๋าหนังสือต้องเปียกปอน

    ความแตกต่างระหว่างร่มเด็กกับร่มผู้ใหญ่
    หากเทียบกันระหว่างร่มเด็กกับร่มผู้ใหญ่ ร่มของเด็กนั้นจะมีขนาดเล็กกว่ามาก เพื่อให้มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย ใช้งานสะดวก สอดคล้องต่อขนาดกล้ามเนื้อที่ยังไม่แข็งแรงมาก ตกแต่งด้วยสีสันสดใสและลายการ์ตูน ให้ดูเป็นมิตรหรือมีความสุขเมื่อได้ครอบครอง ในขณะที่ร่มผู้ใหญ่จะมีน้ำหนักเยอะและสามารถใช้ร่วมกันได้ถึง 2 คน มีดีไซน์เรียบไม่ค่อยตกแต่งอะไรมากอย่างเช่นร่มกอล์ฟหรือร่มตอนเดียว

    ประโยชน์ของการซื้อร่มให้สำหรับเด็ก

    1.ช่วยปกป้องลูกจากการเป็นไข้
    การที่ตัวเปียกโชกหลังตากฝน จะส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายให้อ่อนแอ และจะมีผลเป็นอย่างมากหากไม่รีบทำตัวให้ ขณะที่เด็กซึ่งกำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต ร่างกายย่อมมีความอ่อนไหวง่ายต่อสภาพอากาศ ฉะนั้นการมอบร่มให้แก่ลูกได้พกติดตัวในช่วงหน้าฝน จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการป่วยเมื่อต้องออกไปข้างนอกบ้านได้

    2.ฝึกการรักษาของ
    เปรียบได้เหมือนกับการฝึกการมีความรับผิดชอบต่อตนเองตั้งแต่ การพกพา การใช้งาน และการเก็บรักษา ว่าจะทำอย่างไรให้ร่มที่ได้มานั้นไม่เกิดการเสียหายหรือสูญหายนั่นเอง โดยถือเป็นการบ่มนิสัยให้รู้จักดูแลสิ่งของตั้งแต่เล็ก ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเติบโตไปในอนาคต

    ด้วยเหตุนี้การซื้ออุปกรณ์กันฝนอย่างร่มสำหรับเด็กให้ลูกพกติดตัวไปโรงเรียน จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้พวกเขาสามารถป้องกันการเปียกจากเม็ดฝน และดูแลตนเองให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้นั่นเอง

    วิธีการเลือกซื้อร่มให้กับเด็ก

    1.พิจารณาขนาดของร่ม
    ตรวจสอบขนาดสินค้าว่ามีขนาดใหญ่จนสร้างความลำบากให้แก่เด็กเวลาใช้งานหรือไม่ เพราะถ้าหากเลือกร่มที่ใหญ่และหนักเกินไปจะทำให้เด็กไม่อยากพกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้ขนาด 16 ถึง 19 นิ้ว หนอกจากนี้แล้วควรเลือกร่มในแบบที่สามารถใส่กระเป๋าได้ง่ายอย่างร่มพับ เพราะการถือไปโรงเรียนย่อมต้องไม่สะดวกเท่ากับการพกใส่กระเป๋าเป้แน่นอน

    2.ความน่าใช้สำหรับเด็ก
    นอกจากการเลือกร่มที่มีขนาดและน้ำหนักสอดคล้องกับพละกำลังของเด็กแล้ว ร่มที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้พวกเขารู้ดูแลรักษาทรัพย์สินของตนเองได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะล่มสำหรับเด็กในแบบที่ผลิตออกมาคล้ายกับของเล่นดาบ ร่มที่มีการตกแต่งด้วยลวดลายการ์ตูน หรืออาจเป็นร่มที่มีรูปทรงหูสัตว์ด้านบน ก็ช่วยให้เกิดความสนุกกับการได้ครอบครอง

    อย่าลืมทำสัญลักษณ์ให้กับร่มของเด็ก
    การเลือกร่มที่มีลายการ์ตูนให้แก่ลูก ๆ มีข้อดีอีกหนึ่งอย่างนอกจากความสวยงามนั่นคือ เอกลักษณ์ที่ทำให้จดจำได้ง่าย เพราะเด็ก ๆ จะจดจำลวดลายร่วมของตนเองได้แม่นยำกว่าเมื่อต้องตากร่มร่วมกันที่โรงเรียน ทำให้ไม่สับสนหยิบมั่วหยิบผิดกันไป ที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลืมที่จะติดป้ายชื่อพร้อมระบุระดับชั้น เผื่อในกรณีที่ร่มหายจะได้มีคนเก็บมาส่งคืนได้อย่างถูกต้อง

    และนี่ก็คือสาระดี ๆ และวิธีการเลือกซื้อร่มให้แก่ลูกของท่านได้นำติดตัวไปโรงเรียน เพื่อที่พวกเขาจะสามารถดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง และเตรียมก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ไปอีกขั้น ในขณะที่ผู้ปกครองก็จะสามารถมั่นใจกับการเลือกซื้อร่มได้อยากคุ้มค่า ใช้งานได้ดี รวมถึงไม่สร้างความลำบากให้แก่เด็กในการพกพาออกไปนอกสถานที่นั่นเอง

    ร่มสนามก็ต้องดูแลเหมือนกัน วิธีในการดูแลและรักษาร่มสนาม

    ร่มสนามถือว่าเป็นร่มอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีการใช้งานอย่างหนักหน่วง เนื่องจากเป็นรุ่นที่จำเป็นจะต้องวางไว้กลางแดดตลอดเวลา อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่ต่างต่างจากร่มพับหรือร่มตอนเดียวที่มีขนาดเล็กพอดีกับตัว นอกจากนี้ร่มสนามมีความสามารถในการทนแดดทนฝน หรือทนลมได้เป็นอย่างดี...

    ร่มสนามถือว่าเป็นร่มอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีการใช้งานอย่างหนักหน่วง เนื่องจากเป็นรุ่นที่จำเป็นจะต้องวางไว้กลางแดดตลอดเวลา อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่ต่างต่างจากร่มพับหรือร่มตอนเดียวที่มีขนาดเล็กพอดีกับตัว นอกจากนี้ร่มสนามมีความสามารถในการทนแดดทนฝน หรือทนลมได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงถือว่าเป็นหนึ่งในร่มที่มีการใช้งานหนักมาก แต่การใช้งานหนักนี้ ส่วนมากแล้วผู้ใช้งานก็มักจะไม่ดูแลเท่าที่ควร อันที่จริงแล้วยิ่งร่มใช้งานอย่างหนัก ยิ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแล

    และวันนี้เราจะแนะนำวิธีการง่าย ๆ ในการดูแลร่วมสนาม หรืออย่างน้อยก็เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ให้บ่อย ซึ่งวิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการง่าย ๆ ที่สามารถทำเองได้ และนับว่าเป็นวิธีการที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงอย่างแน่นอน

    การเช็ดทำความสะอาด

    การเช็คทำความสะอาดตัวร่มนั้นเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่จะยืดอายุการใช้งานของมัน วิธีการก็แสนง่ายดาย ขั้นแรกแนะนำให้ทำการเช็ดทำความสะอาดก่อนที่จะม้วนพับเก็บเสมอ วิธีการในการเช็ดทำความสะอาดอย่างง่ายที่สุด คืออาจใช้ผ้าชุบน้ำและบิดหมาดๆ มาทำการเช็คทำความสะอาดให้ทั่ว เพื่อเป็นการนำสิ่งสกปรก ครับที่เป็นฝุ่นต่าง ๆ รวมถึงคราบหรือเพื่อนที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานออกไปจนหมด การเช็ด ให้เช็คไปในทิศทางเดียวกัน และแนะนำให้เช็ดทำความสะอาดทั้งด้านนอกและด้านใน บริเวณของโครงร่ม จากนั้นก็ให้ทำการใช้ผ้าแห้งเช็ดออกอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะสะอาดแล้ว

    การนำแป้งฝุ่นมาโรย

    การนำแป้งฝุ่นมาโรยก็ถือเป็นอีกวิธีการง่าย ๆ วิธีการหนึ่งที่ช่วยให้ร่มสนามของเรายังคงใหม่อยู่เสมอ และใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากแป้งฝุ่นนี้จะช่วยในการลดโอกาสการติดกันของเนื้อผ้าหลังจากที่พับเก็บเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยปกติเราจะตั้งอุปกรณ์สิ่งนี้ไว้กลางแจ้ง ดังนั้นจึงโดนความร้อนเป็นเวลาที่นานมาก ๆ บ่อยครั้งเพราะต้องพักม้วนเก็บก็มีโอกาสที่มันจะเหนียวติดกันได้ และเมื่อเป็นอย่างนั้นมันอาจจะมีการกรอบและแตกพังได้ง่าย ข้อแนะนำคือการนำแป้งฝุ่นมาโรยให้ทั่วหลังจากที่เช็ดทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่เราจะยืดอายุการใช้งานให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม

    ใช้น้ำยาเคลือบป้องกันสนิม

    อันนี้จะขอแนะนำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับร่มสนามที่ใช้แกนเป็นแกนเหล็ก คือการใช้น้ำยาเคลือบป้องกันสนิม ด้วยความที่แกนเป็นเหล็กนั่นเอง รวมถึงส่วนใหญ่ขาตั้งก็มักจะทำออกมาเป็นเหล็ก ดังนั้นแน่นอนเมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ ยิ่งบวกกับการตั้งไว้กลางแจ้งอาจทำให้เกิดสนิมได้ ถึงแม้ผู้ผลิตบางรายจะเคลือบสารกันสนิมมาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความจำเป็นที่จะป้องกันซ้ำเพิ่มเข้าไป เพราะยิ่งใช้งานนานข้าวสารเหล่านี้ก็จะหมดไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันมีน้ำยาป้องกันสนิมให้เลือกใช้งานเยอะแยะมากมาย หรือไม่อย่างนั้นเราก็อาจใช้ที่ทำจากวัสดุอื่นเลยก็ได้

    หากเปียกน้ำควรตากให้แห้งก่อน

    กรณีนี้เป็นกรณีที่เรานำมันมาใช้งานในช่วงหน้าฝน นอกจากที่เราจะต้องเช็ดให้แห้งแล้ว ก็ควรจะมีการกางปากเอาไว้ก่อน ครั้งนี้ก็เพื่อลดความชื้นที่อยู่ภายใน เพราะว่าหากเราปล่อยให้ความชื้นนี้เกิดขึ้นและหลงเหลืออยู่ แน่นอนว่ามันมีโอกาสทำให้เกิดเชื้อราได้ รวมถึงอาจส่งกลิ่นเหม็นอับ ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดคือการนำมาตากหรือทำให้แห้งก่อน ก่อนที่เราจะทำการพับเก็บให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้เราก็สามารถที่จะยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ของเราได้แล้ว