CALL CENTER
    02-408-1377 (อัตโนมัติ 10 คู่สาย)

    blog

    5 ความลับเกี่ยวกับร่มกันยูวี ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน

    อย่างที่ทราบกันดีว่าด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดแทบตลอดทั้งปีในบ้านเรานั้น ทำให้ไอเทมตัวช่วยป้องกันความร้อน และอันตรายจากรังสียูวีอย่าง"ร่มกันยูวี" นั้นเป็นไอเทมที่มีค่อนข้างมีความสำคัญกับวิถีชีวิตประจำวันใครหลายคนไปด้วยไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ, ร่มกอล์ฟ หรือ...

    อย่างที่ทราบกันดีว่าด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดแทบตลอดทั้งปีในบ้านเรานั้น ทำให้ไอเทมตัวช่วยป้องกันความร้อน และอันตรายจากรังสียูวีอย่าง”ร่มกันยูวี” นั้นเป็นไอเทมที่มีค่อนข้างมีความสำคัญกับวิถีชีวิตประจำวันใครหลายคนไปด้วยไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ, ร่มกอล์ฟ หรือ ร่มตอนเดียวเพราะการพกพาไอเทมชิ้นนี้ติดตัวไว้และกางใช้งานขณะอยู่กลางแจ้งนั้น จะช่วยลดทอนระดับความร้อนจากแสงแดดที่ส่งมาถึงตัวเราไปได้พอสมควร และยังจะช่วยลดอันตรายจากรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับแสงแดดได้ด้วย การพกพาร่มกันยูวีติดตัวจึงนับเป็นหนึ่งในเทรนด์ไลฟ์สไตล์ดูแลสุขภาพที่สำคัญเทรนด์นึงในบ้านเราไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งนึงที่หลายคนไม่ทราบมาก่อนก็คือ ร่มกันยูวีที่มีวางขายอยู่ทั่วไปในบ้านเราแต่ละคันไม่ได้มีคุณสมบัติที่เหมือนกันซะทีเดียว แม้ว่าจะมีการเขียนคำอธิบายในฉลากว่าเป็นร่มป้องกันรังสียูวีเหมือนกันก็ตาม ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอา 5 ความลับเกี่ยวกับร่มกันยูวีที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน และผู้ขายก็ไม่เคยบอกเราบอกเปิดเผยให้ได้ทราบกัน

    ร่มทุกคันสามารถป้องกันรังสียูวีได้อยู่แล้ว ข้อเท็จจริงประการแรกที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนก็คือร่มที่มีวางขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาดนั้นสามารถป้องกันรังสียูวีได้อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องระบุว่าเป็นร่มกันยูวี หรือก็คือไม่จำเป็นต้องผ่านการเคลือบสารป้องกันยูวี ผ้า หรือใบร่มนั้น ๆ ก็สามารถป้องกันยูวีได้ เพียงแต่ประสิทธิภาพจะแตกต่างกันออกไปนั่นเอง โดยมีงานวิจัยที่ทำการทดสอบความสามารถในการป้องกันยูวีของผ้าที่ยังไม่ผ่านการเคลือบสารกันยูวี และผ้าที่ผ่านการเคลือบสารแล้ว พบว่า อย่างแรกสามารถป้องกันยูวีได้กว่า 90% ขึ้นไป ขณะที่อย่างหลังสามารถป้องกันยูวีได้กว่า 95% ขึ้นไป

    ใบร่มแต่ละสีป้องกันยูวีได้มากน้อยไม่เท่ากัน ปัจจัยต่อมาที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันยูวีก็คือ สีของใบร่มนั่นเอง ทั้งนี้แต่ละสีให้ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ได้มากน้อยไม่เท่ากัน โดยการวิจัยทดสอบความสามารถในการป้องกันยูวีของสีชนิดต่าง ๆ พบว่าผ้าสีดำ หรือใบร่มสีดำเป็นสีที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ดีที่สุด รองลงมาก็เป็นสีโทนเข้มอื่น ๆ เช่น แดง น้ำเงิน เป็นต้น ขณะที่โทนสีอ่อน เช่น เขียว เหลือง ชมพู จะให้ความสามารถในการป้องกันยูวีได้น้อยลงมาอีก

    ร่มที่ผ่านการเคลือบสารแล้ว ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันยูวีเท่ากันทุกคัน แม้ว่าการเคลือบสารป้องกันยูวีบนใบร่มจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ซึ่งสามารถทดสอบและพิสูจน์ได้ชัดเจน แต่ความลับนึงที่หลายคนไม่ทราบมาก่อนก็คือร่มที่ผ่านการเคลือบสารแต่ละคันนั้นไม่ได้ให้ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีได้เท่ากันทุกคัน โดยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนั้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพในระหว่างขั้นตอนการเคลือบสารด้วย เช่น ระดับความเข้มข้น ความสม่ำเสมอในการกระจายตัวของสาร ความเหนียวแน่นในการยึดเกาะกับตัวผ้า เป็นต้น

    ใบร่มหนา ๆ สามารถป้องกันยูวีได้ดีกว่า แต่ก็สะสมความร้อนไว้กับตัวมากกว่า ความลับต่อมาที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนเช่นกันก็คือ ขนาดความหนาของใบร่ม ซึ่งแน่นอนว่าขนาดที่หนาย่อมป้องกันรังสียูวีได้ดีกว่าใบร่มบาง ๆ หรือก็คือรังสียูวีมีโอกาสเล็ดลอดผ่านได้น้อยกว่านั่นเอง แต่ขณะเดียวกันปัญหาที่ตามมาก็คือ การสะสมความร้อนไว้กับตัวมีมากกว่าตามไปด้วย การใช้ร่มที่ใบร่มหนา ๆ จึงมักจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกร้อนมากกว่าด้วย

    การเคลือบสารไม่จำเป็นต้องเคลือบด้านในของใบร่ม อีกหนึ่งความลับที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ สารเคลือบป้องกันยูวีสีเงินที่เรามักจะเห็นด้านในของใบร่ม หรือก็คือด้านที่ไม่ได้สัมผัสแสงแดดโดยตรงนั้น ความเป็นจริงมันไม่ได้จำเป็นต้องจะต้องเคลือบที่ด้านในเท่านั้น มันสามารถเคลือบด้านนอก หรือด้านที่สัมผัสแสงแดดโดยตรงได้ด้วย แต่สาเหตุที่ผู้ผลิตร่มส่วนใหญ่เลือกที่จะเคลือบไว้ที่ด้านในก็เพราะเหตุผลเรื่องความสวยงามของตัวสินค้านั่นเอง เพราะด้านนอกมักจะเป็นส่วนที่โชว์สีสัน และพิมพ์ลวดลายต่าง ๆ ลงไป  นอกจากนี้ สำหรับการจัดเก็บร่มเพื่อยืดอายุการใช้งานก็ควรมี ที่เก็บร่ม เพื่อป้องกันความเสียหายและรักษาคุณภาพของร่มให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ

     

    ร่มขนาดเล็กพกพาสะดวกใช้งานคล่องสบาย

    ช่วงเวลาที่ต้องเร่งรีบ หรือจำเป็นจะต้องเดินทางไกล ยิ่งหากต้องเผชิญกับการแบกสัมภาระหลายอย่าง แต่ก็ยังเป็นห่วงในเรื่องของสภาพอากาศอยู่เช่นกัน ดังนั้นแน่นอนว่ากรณีนี้ ควรจะต้องมีร่มเข้ามาทำหน้าที่คอยบังแดดบังฝน แต่ด้วยสภาพข้อจำกัดของการเดินทาง ที่เต็มไปด้วยข้าวของพะรุงพะรัง...

    ช่วงเวลาที่ต้องเร่งรีบ หรือจำเป็นจะต้องเดินทางไกล ยิ่งหากต้องเผชิญกับการแบกสัมภาระหลายอย่าง แต่ก็ยังเป็นห่วงในเรื่องของสภาพอากาศอยู่เช่นกัน ดังนั้นแน่นอนว่ากรณีนี้ ควรจะต้องมีร่มเข้ามาทำหน้าที่คอยบังแดดบังฝน แต่ด้วยสภาพข้อจำกัดของการเดินทาง ที่เต็มไปด้วยข้าวของพะรุงพะรัง ร่มขนาดเล็ก หรือ ร่มพับ จะตอบโจทย์มากที่สุด ยิ่งหากมีข้อจำกัดในการใช้งาน ภายใต้กิจวัตรประจำวันทั่วไป แต่ต้องการความคล่องตัวไม่เกะกะและไม่เทอะทะ การใช้ร่มที่มีขนาดเล็กก็ยิ่งเป็นเรื่องที่เหมาะสมยิ่งขึ้น

    โดยร่มขนาดเล็กนั้น จัดว่าเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ไม่ยาก มีวางขายอยู่หลายแห่งทั้งในออนไลน์ที่สั่งซื้อได้อย่างสะดวก ทั้งนี้จำเป็นเหลือเกิน ที่จะต้องมีการเลือกใช้สินค้าที่ผลิตมาจาก แบรนด์ ผู้ผลิตที่เชื่อถือได้นั่นก็เพราะด้วยร่มที่มีขนาดเล็กนั้น อาจจะต้องทำหน้าที่ในการแบกรับ เช่นเดียวกับร่มขนาดที่ใหญ่อย่าง ร่มกอล์ฟ ด้วยเช่นกัน เพราะปัญหาสภาพแวดล้อมที่เผชิญนั้น ธรรมชาติไม่ใช่สิ่งที่เราจะสามารถปรับขนาดเล็กใหญ่ไปตามรูปแบบของร่มได้ ดังนั้นหมายถึงหากเป็นร่มขนาดเล็ก ก็ยิ่งจะต้องใช้วัสดุที่มีความทนทาน แข็งแกร่งเป็นพิเศษ

    แต่ทั้งนี้หลายคนอาจไม่ได้มองหาร่มที่ไว้รับบทหนักแบบนั้นเสมอไป อาจยอมแลกกับความคล่องตัว โดยที่แม้จะเป็นร่มซึ่งแข็งแรงไม่เท่ากับร่มขนาดใหญ่ แต่ก็ยังชื่นชอบในรูปแบบที่กะทัดรัด และพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็วสะดวก และในบางกรณีของการเผชิญกับสภาพอากาศ ด้วยความที่ร่มแบบมีขนาดเล็ก ก็ทำให้การต้านลมนั้นรับแรงน้อยลง ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าร่มขนาดเล็กกลับมีความแข็งแรงกว่า มีพื้นที่ปะทะแรงต้านน้อยกว่านั่นเอง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าการใช้ร่มขนาดเล็กจะต้องแข็งแรงน้อยกว่าร่มขนาดใหญ่เสมอไป

    อย่างไรก็ตามเราจะสังเกตได้ว่า อุปกรณ์ที่เรียกว่าร่มนั้น มักเป็นเรื่องที่ผู้คนหลายยุคหลายสมัยมักจะต้องเจอกับปัญหาการเผลอลืมทิ้งไว้ที่อื่น และหากยิ่งเป็นร่มที่มีขนาดเล็กแล้วล่ะก็ มันก็ง่ายมากเลยทีเดียว สำหรับการถูกลืมวางทิ้งไว้ เว้นแต่ว่ามันจะถูกพกพาไว้ในกระเป๋าสะพาย หรือมี ที่เก็บร่ม ไว้ใช้งานเป็นประจำ หรือมีห่วงไว้คล้องกับร่ม โดยในที่นี้ก็จะเป็นข้อดีของร่มที่มีขนาดเล็กเลยทีเดียว เพราะจะไม่มีน้ำหนักที่ถ่วงรั้งต่ออุปกรณ์อื่น ๆ มากนัก

    ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของร่มขนาดเล็ก นั่นก็คือการทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ด้วยขนาดและซอกมุมที่มีไม่มากเกินไป อีกทั้งยังมีความต้องการพื้นที่ สำหรับการกางร่ม วางตากไว้เพื่อผึ่งอากาศในพื้นที่ที่น้อยกว่า สิ่งนี้น่าจะถูกใจอย่างมาก สำหรับคนที่มีพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งอย่าลืมว่าร่มที่ต้องเจอกับการเปียกอยู่บ่อย ๆ ก็มีโอกาสจะสั่งสมกลิ่นอับและเชื้อต่าง ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ก่อตัวขึ้นได้ ดังนั้นการดูแลในเรื่องเหล่านี้ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน และการมีร่มที่ขนาดเล็ก ก็ช่วยให้การจัดการต่าง ๆ ง่ายยิ่งขึ้นมากนั่นเอง

    และหากบ้านหรือที่ทำงานของใคร มีการทำที่แขวนร่มเอาไว้ กรณีนี้ก็แน่นอนว่าการใช้ราวแขวน หรือการติดตั้งตะขอแขวนร่มที่มีขนาดเล็กนั้น ก็จะทำให้ที่แขวนไม่เกิดภาระน้ำหนักมากเกินไปอีกด้วย รวมถึงยังดีต่อการแขวนร่มไว้กับสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ที่แขวนโดยตรง การมีน้ำหนักเบาก็ช่วยให้แขวนได้หลายจุดอย่างสะดวก

    ทั้งหมดนี้ คือประโยชน์ของการใช้ร่มที่มีขนาดเล็ก ซึ่งยังมีข้อดีอีกมากมายที่คุณสามารถพบเจอได้ เพียงแค่ลองสัมผัสการใช้งานร่มชนิดนี้ รับรองได้ว่าต้องประทับใจ

    ร่มขนาดใหญ่ เหมาะแก่การใช้ในงานใดบ้าง

    ขนาดของสินค้าประเภท ร่ม ที่สามารถซื้อหาได้ง่ายโดยทั่วไปนั้น จะประกอบด้วยร่มขนาดเล็กขนาดปกติ อย่าเช่นร่มพับ ร่มกลับด้านและขนาดใหญ่ไปจนถึงใหญ่มากเช่นร่มกอล์ฟ ร่มสนาม เรียกได้ว่ามีให้เลือกหลายระดับ เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่นำไปใช้ ซึ่งร่มในแต่ละขนาดนั้น...

    ขนาดของสินค้าประเภท ร่ม ที่สามารถซื้อหาได้ง่ายโดยทั่วไปนั้น จะประกอบด้วยร่มขนาดเล็กขนาดปกติ อย่าเช่นร่มพับ ร่มกลับด้านและขนาดใหญ่ไปจนถึงใหญ่มากเช่นร่มกอล์ฟ ร่มสนาม เรียกได้ว่ามีให้เลือกหลายระดับ เพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่นำไปใช้ ซึ่งร่มในแต่ละขนาดนั้น จะมีคุณสมบัติข้อดีข้อเสีย ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป

    แต่สำหรับการใช้ร่มตั้งแต่ขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าปกติทั่วไปนั้น สำหรับค่านิยมโดยวงกว้างแล้ว ผู้คนมักจะใช้งานไปกับเรื่องอะไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจกันได้เลย

     

    เริ่มจากข้อดีของ ร่มขนาดใหญ่เพื่อรองรับจุดประสงค์การใช้งานที่จุคนได้มากกว่า

    จะดีแค่ไหนหากท่ามกลางสายฝน ซึ่งจำเป็นต้องเดินทางฝ่าไปนั้น คุณจะสามารถแบ่งปันการบังฝนให้กับเพื่อนร่วมทางได้ ส่งเสริมพลังแห่งมิตรภาพที่อบอุ่น

    หรือแม้แต่คู่รักที่สามารถเดินเคียงข้างไปด้วยกัน ด้วยร่มขนาดใหญ่ ช่างเป็นความแน่นแฟ้นแห่งรักสร้างบรรยากาศที่โรแมนติก ส่งเสริมความประทับใจแห่งชีวิตคู่ได้เป็นอย่างมาก

    อีกทั้งร่มขนาดใหญ่ ก็ยังเป็นที่ต้องการของบรรดาสถานประกอบการ ที่เกี่ยวข้องกับการต้อนรับแขก ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมหรือสปา หรือสนามกอล์ฟเป็นต้น ช่วยนำพาแขกเข้ามายังสถานบริการหรือส่งแขกไปยังลานจอดรถได้โดยไม่ต้องเปียกปอน แถมยังบ่งบอกถึงบริการที่ครอบคลุมและประทับใจของสถานประกอบการในแห่งนั้น ๆ

     

    ซึ่งการถือร่มขนาดใหญ่ จะสามารถรองรับแขกได้ครั้งละมากขึ้น และหากเป็นสถานประกอบการที่มุ่งเน้นภาพลักษณ์ที่มีระดับ การใช้ร่มขนาดใหญ่ก็ยังสื่อถึงความโอ่อ่าอลังการ ของรูปแบบการต้อนรับอีกด้วย เหมาะมากที่สุดสำหรับสถานประกอบการ ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดูน่าเชื่อถือ

    ในขณะที่ประโยชน์ในการใช้งานเชิงอเนกประสงค์ ก็มีอยู่ไม่น้อยเลยเช่นกัน สำหรับร่มขนาดใหญ่ เพราะนอกจากจะใช้ในการยืนหรือการเดิน ก็ยังสามารถใช้สำหรับการนั่งนาน ๆ ได้อีกด้วย ร่มขนาดใหญ่สามารถปรับติดตั้งไว้บังแดด ได้ทั้งสำหรับการนั่งเก้าอี้ หรือนั่งโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็ก ไว้พักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายไปกับสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง

     

    และที่พบเห็นได้มากที่สุด นั่นก็คือการใช้ร่มที่ใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีกอย่างร่มสนาม ซึ่งจะเป็นร่มที่เน้นต่อการติดตั้งกลางแจ้งแบบติดตั้งด้วยฐานที่แข็งแรงมั่นคง เหมาะสำหรับธุรกิจการค้าการขาย ทั้งตามตลาดนัดหรือพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปตามแผงข้างถนน ที่จำเป็นจะต้องใช้ร่ม เพื่อรองรับการทำงานในระยะเวลานาน ๆ ช่วยบังแดดบังฝนให้กับวัตถุดิบอาหารและอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือแม้แต่การนำไปใช้สำหรับตั้งโต๊ะไว้ให้ลูกค้ารับประทานอาหาร

    จะเห็นได้ว่าร่มขนาดใหญ่นั้น มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ต่อการขับเคลื่อนธุรกิจหลายประเภทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เราพบเห็นได้มากมายทั่วโลกในวงกว้าง

     

    โดยร่มขนาดใหญ่ ที่ใช้สำหรับการสนับสนุนแหล่งการค้าการขาย ก็จะมีการเลือกสีสันที่หลากหลายอย่างน่าสนใจมากอีกด้วย
    และทั่วไปแล้วมักจะนิยมเลือกสีให้สอดคล้อง กับรูปแบบของการดำเนินงานของตน อาทิ การใช้ร่มสีขาวก็จะสื่อถึงรูปแบบของเชิงบวก เช่น นิยมใช้กับร้านอาหารเชิงสุขภาพ ร้านจัดดอกไม้ ไปจนถึงการจัดงานแต่งงานกลางแจ้ง

    หรือหากเป็นร้านอาหารขนมเครื่องดื่ม ก็มักจะเลือกใช้สีสันที่กระตุ้น ต่อความอยากรับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นร่มสีชมพู ร่มสีน้ำตาลช็อกโกแลต ที่เข้าคู่กันได้อย่างมาก สำหรับร้านกาแฟทั่วไปหรือร่มสีครีมที่เหมาะสำหรับร้านไอศกรีมเป็นต้น

     

    อย่างไรก็ตามร่มที่มีขนาดใหญ่นั้น จากที่กล่าวไว้ว่าจะมีระดับความใหญ่หลายประเภท ดังนั้นควรพิจารณาในเรื่องความเหมาะสมด้วยว่า สิ่งที่คุณต้องการนั้นมีความต้องการร่มขนาดใหญ่ในระดับใด เพราะหากเล็กเกินไปก็อาจตอบโจทย์ได้ไม่เพียงพอ แต่หากว่าใหญ่ไปก็อาจสร้างความเทอะทะเกินตัวนั่นเอง

     

     

     

    ร่มสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดพัฒนา

    ร่มเป็นสิ่งของที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันของเรา เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราป้องกันตัวจากฝนและแดด จนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในบางสถานการณ์ แต่ในขณะเดียวกัน ร่มก็เป็นสิ่งที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ...

    ร่มเป็นสิ่งของที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวันของเรามีหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มกลับด้าน ร่มสนาม เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราป้องกันตัวจากฝนและแดด จนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในบางสถานการณ์ แต่ในขณะเดียวกัน ร่มก็เป็นสิ่งที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และยังมีการพัฒนาในด้านการออกแบบและฟังก์ชันการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

     

    ร่มมีต้นกำเนิดที่เก่าแก่มากว่าพันปี ว่ากันว่าร่มที่ใช้กันในปัจจุบันมีต้นกำเนิดมาจากอียิปต์และจีนโบราณ ในยุคแรกๆ ร่มถูกใช้เพื่อป้องกันแดดมากกว่าฝน ซึ่งเหมาะสมกับสภาพอากาศในแถบประเทศเหล่านั้น ร่มยังเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นและฐานะในสังคม โดยเฉพาะในจีนโบราณที่ร่มทำจากวัสดุที่หรูหราและตกแต่งอย่างสวยงาม มีสีสันสดใสและมักจะมีลวดลายที่ซับซ้อน แสดงถึงความมั่งคั่งและอำนาจของผู้ใช้

     

    เมื่อเวลาผ่านไป ร่มได้เปลี่ยนแปลงไปตามวัฒนธรรมและเทคโนโลยีในแต่ละยุคสมัย ร่มในยุควิกตอเรียของอังกฤษเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน โดยมีการออกแบบที่หรูหราและเน้นความสง่างาม ทำจากวัสดุที่ทนทานอย่างไม้และผ้าไหม ซึ่งเป็นสิ่งของที่มีความสำคัญในวงสังคมยุโรป การใช้งานร่มในยุคนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะการป้องกันสภาพอากาศ แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงรสนิยมและสถานะทางสังคมของผู้ใช้

     

    ในปัจจุบัน ร่มได้พัฒนาให้มีความหลากหลายและฟังก์ชันการใช้งานที่มากขึ้น มีทั้งร่มขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้สะดวก และร่มขนาดใหญ่ที่สามารถใช้กันแดดกันฝนสำหรับกลุ่มคนหลายคน นอกจากนี้ยังมีร่มที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง เช่น ร่มที่ทนต่อแรงลมแรงหรือร่มที่สามารถสะท้อนรังสี UV ได้ดี การพัฒนานี้เกิดจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย และต้องการความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น

     

    วัสดุที่ใช้ทำร่มก็มีการพัฒนาเช่นกัน จากไม้และผ้าไหมในอดีต ปัจจุบันวัสดุที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือเหล็กหรืออะลูมิเนียมสำหรับโครงร่ม และผ้าโพลีเอสเตอร์หรือไนลอนสำหรับตัวร่ม วัสดุเหล่านี้มีความทนทานและน้ำหนักเบา ทำให้ร่มสามารถพับเก็บได้ง่ายและสะดวกต่อการพกพา นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการผลิตร่ม เช่น การเคลือบสารกันน้ำหรือการใช้ผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน

     

    นอกเหนือจากประโยชน์ในการป้องกันฝนและแดด ร่มยังมีบทบาทในด้านอื่นๆ เช่น การใช้เป็นอุปกรณ์ตกแต่งในงานพิธีต่างๆ หรือใช้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงทางศิลปะ ร่มยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการโฆษณา โดยหลายองค์กรได้นำร่มมาใช้ในการโปรโมทสินค้าหรือแบรนด์ของตนเอง การออกแบบร่มให้มีสีสันสดใสและโลโก้ของบริษัทเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างการจดจำแบรนด์

     

    ร่มยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณีในแต่ละท้องถิ่น ในบางประเทศเช่น ญี่ปุ่นและเกาหลี ร่มถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงศิลปะพื้นบ้าน หรือใช้ในพิธีการทางศาสนา ในประเทศไทย ร่มกระดาษซึ่งเป็นงานฝีมือของชาวบ้านเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของที่ระลึกและของประดับบ้าน นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเทศกาลร่มที่จัดขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองความสำคัญของร่มในวิถีชีวิตของผู้คน

     

    สำหรับนักออกแบบ ร่มถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ การออกแบบร่มไม่เพียงแค่คำนึงถึงความสวยงาม แต่ยังต้องคิดถึงการใช้งานและความทนทานด้วย การออกแบบร่มที่ดีต้องผสมผสานระหว่างฟังก์ชันและดีไซน์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เช่น การออกแบบให้ร่มมีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน หรือการพัฒนาร่มที่สามารถเปิดปิดได้ง่ายแม้ในสภาพลมแรง ซึ่งการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้สามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์

     

    ในท้ายที่สุด ร่มเป็นสิ่งที่มากกว่าแค่เครื่องมือสำหรับป้องกันฝนและแดด แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความคิดสร้างสรรค์ของผู้คน ร่มที่ดูธรรมดาๆ อาจแฝงไปด้วยเรื่องราวและความหมายที่น่าสนใจมากมาย และยังคงเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้ในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นในมือของผู้คนที่เดินไปตามถนน หรือแม้กระทั่งเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลายทั่วโลกและสุดท้ายนี้ถ้าอยากให้ร่มไม่พังง่ายควรมีที่เก็บร่มเพื่อป้องกันการเสียหายของร่ม

    ไขข้อข้องใจ ทำไม”ร่ม”จึงเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่สนใจแบรนด์

    เป็นที่ทราบกันดีว่าในโลกของธุรกิจปัจจุบัน "แบรนด์" หรือตราสินค้า ยี่ห้อสินค้านั้นถือเป็นองค์ประกอบส่วนนึงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกธุรกิจ โดยในการเลือกซื้อเลือกหาสินค้าใดๆ ไปใช้งาน ผู้บริโภคมักใช้แบรนด์เป็นปัจจัยแรก ๆ ในการพิจารณาเสมอ เรียกว่าได้ความน่าเชื่อถือ...

    เป็นที่ทราบกันดีว่าในโลกของธุรกิจปัจจุบัน “แบรนด์” หรือตราสินค้า ยี่ห้อสินค้านั้นถือเป็นองค์ประกอบส่วนนึงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกธุรกิจ โดยในการเลือกซื้อเลือกหาสินค้าใดๆ ไปใช้งาน ผู้บริโภคมักใช้แบรนด์เป็นปัจจัยแรก ๆ ในการพิจารณาเสมอ เรียกว่าได้ความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และภาพลักษณ์ในแบรนด์ที่ธุรกิจต่างๆ สร้างขึ้นนั้นมีอิทธิพลต่อการเลือกบริโภคของผู้บริโภคอย่างมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามกลับมีสินค้าบางชิ้น บางประเภทที่แบรนด์ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้งานของผู้บริโภคมากขึ้นตามยุคสมัยแต่อย่างใด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสินค้าอย่าง”ร่ม” โดยหากสังเกตพฤติกรรมการเลือกซื้อเลือกหาร่มมาไว้ใช้งานของผู้บริโภคทั่วไปก็จะพบว่าแบรนด์แทบจะไม่มีส่วนต่อการตัดสินใจเลือกเลย โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่มักพิจารณาจากเพียงแค่ปัจจัยเรื่องของลักษณะ แบบอย่างเช่น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มกลับด้าน และขนาดของร่มที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานเป็นหลัก ในบทความนี้จึงจะชวนมาไขข้อข้องใจกันว่าเพราะอะไร สินค้าอย่างร่ม จึงเป็นสินค้าที่บริโภคส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องแบรนด์ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัยแล้วก็ตาม

    เป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้งานในชีวิตประจำวัน เหตุผลประการแรกที่ทำให้ร่มเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่สนใจเรื่องแบรนด์สักเท่าไหร่ก็คือ ความจำเป็นในการใช้งานในชีวิตประจำวันนั่นเอง ว่ากันง่ายๆ ก็คือ ผู้บริโภคทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้งานร่มในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน ซึ่งต่อให้ไม่มีตัวเลือกแบรนด์สินค้าที่ชื่นชอบให้เลือกใช้ ผู้บริโภคก็ต้องเลือกสินค้าจากแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งมาใช้อยู่ดี ดังนั้นผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงมองว่าแบรนด์ไม่มีผลต่อการใช้งานสินค้าชิ้นนี้นั่นเอง

    สินค้าฟรีก็สามารถใช้งานทดแทนกันได้ สาเหตุสำคัญประการนึงที่ต้องบอกว่ามีส่วนอย่างมากที่ทำให้ร่มเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่สนใจเรื่องแบรนด์ก็คือ สินค้าฟรี หรือร่มพรีเมี่ยมที่แบรนด์ธุรกิจห้างร้านต่างๆ นิยมทำแจก แถมให้กับลูกค้าฟรีๆ ในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าร่มพรีเมี่ยมเหล่านี้ที่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องควักเงินซื้อก็สามารถใช้งานกันแดด กันฝน ทดแทนสินค้าที่มีวางจำหน่ายทั่วไปได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสินค้าพรีเมี่ยมในแคมเปญการตลาดใดๆ ถูกดีไซน์มาเฉพาะ หรือมีลวดลายลิขสิทธิ์เฉพาะก็ยิ่งทำให้ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้ดีกว่าสินค้าที่มีวางจำหน่ายทั่วไป ผู้บริโภคจึงยิ่งมองข้ามปัจจัยเรื่องแบรนด์ผู้ผลิตไป และหันมาให้ความสนใจกับการร่วมกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เพื่อให้ได้รับสินค้าแทน

    ใช้งานร่วมกันหลายคน ด้วยความที่ตัวสินค้าอย่างร่มนั้นมีประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานที่ทุกคนมีความต้องการใช้งาน ดังนั้นแน่นอนว่าสิ่งนึงที่หลีกเลี่ยงได้ยากก็คือ การใช้งานร่วมกันหลายคน โดยอาจเป็นการผลัดเปลี่ยนกันใช้ร่วมกันกับคนในครอบครัว หรือการให้ญาติ แขก คนรู้จักหยิบยืมในสถานการณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้งาน ซึ่งการใช้งานสินค้าร่วมกันหลายคน หลายมือนี้เองที่ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับแบรนด์สินค้าน้อยลงไปอีก เพราะการตัดสินใจเลือกสินค้าชิ้นใด ๆ จากแบรนด์ย่อมตามมาด้วยการให้ความสำคัญเรื่องของการถนอม รักษาสภาพสินค้าให้อยู่ในสภาพที่ดีเสมอ เนื่องจากผู้บริโภคมักจะรู้สึกว่าราคาที่ต้องจ่ายเพื่อแบรนด์นั้นสูงเกินกว่ามูลค่า และประโยชน์ใช้สอยที่แท้จริงของตัวสินค้า การจ่ายเพื่อแบรนด์สำหรับสินค้าที่ยากต่อการดูแลรักษา มีการเปลี่ยนมือใช้งานหลายมือ และอาจเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วจึงถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่านั่นเองและเพื่อการใช้ร่มไปอีกยาวนั้นควรเก็บไว้ในที่เก็บร่มโดยเฉพาะ

    ความน่าใช้ของร่มสีเรียบง่าย

    หากสังเกตค่านิยมของผู้ที่ใช้งานร่มโดยทั่วไปแล้ว เรามักจะเห็นได้ว่า ร่ม ที่มีสีสันโทนสีแบบเรียบนั้นเป็นประเภทของสีที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุด และมักใช้กับนักเรียนนักศึกษา หรือผู้อยู่ในวัยทำงาน...

    หากสังเกตค่านิยมของผู้ที่ใช้งานร่มโดยทั่วไปแล้ว เรามักจะเห็นได้ว่า ร่ม ที่มีสีสันโทนสีแบบเรียบนั้นเป็นประเภทของสีที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุด และมักใช้กับนักเรียนนักศึกษา หรือผู้อยู่ในวัยทำงาน ที่จะต้องอยู่ในบริบทเกี่ยวข้องกับการนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดูมีความสุภาพเรียบร้อย
    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไม่แปลกเลย ที่เรามักพบเห็นโทนสีแบบเรียบง่าย เช่นสีดำสีเทาสีน้ำตาลหรือสีขาว ถูกนำไปใช้ในวงกว้างโดยเฉพาะในงานพิธีต่าง ๆ

    โดยร่มสีขาวนั้นจะได้รับความนิยมสำหรับการใช้ในพิธีมงคลไม่ว่าจะเป็นร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว เช่นพิธีมงคลสมรสหรือการจัดงานวันเกิดหรือมีการนำไปใช้ในงานการกุศลต่าง ๆ ในขณะที่ร่มสีดำ จะมีการใช้ทั้งในงานซึ่งมีบรรยากาศของการไว้อาลัย เช่นงานพิธีศพ หรืองานครบรอบการสูญเสีย หรืองานรำลึกถึงเรื่องที่ลึกซึ้ง หรือเรื่องอันเกี่ยวข้องกับความเศร้าโศก

     

    แต่ทั้งนี้ร่มสีดำ ก็มิได้จำกัดไว้แต่เฉพาะการใช้ในงานพิธีแต่เพียงอย่างเดียว สีดำยังเป็นสีที่ดูดีมีสไตล์ ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปเช่นกัน แม้แต่การนำมาใช้ในงานกิจกรรม อีเว้นท์ หรืองานสากลใด ๆ ที่ต้องการโทนสีของงานที่ดูเข้มขรึมลุ่มลึก ก็มีความนิยมใช้สีดำมากมายเช่นกัน

     

    ร่มที่มีสีสันเรียบง่ายนั้น จะเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียวสำหรับความต้องการในการซื้อร่มเก็บไว้หลายๆคัน ทั้งไว้ใช้กับตนเองหรือไว้ให้คนในครอบครัวใช้หรือใช้ในองค์กรหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นการดีมากสำหรับสีสันที่รองรับโอกาสได้ในหลายงาน

    โดยที่หากใช้ในองค์กร สำหรับผู้ใช้งานพร้อมกันหลาย ๆ คน ก็ไม่ต้องคอยมาวุ่นวายกับการเลือกสี หรือมีปัญหาในเรื่องของสีที่ต้องการนั้นมีไม่พอ เพราะการเลือกใช้สีที่เรียบง่าย และมีความเป็นกลางใช้งานได้หลายวาระหลายโอกาสนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่สอดคล้องที่สุดที่จะใช้

    นอกจากนี้คุณสมบัติในการใช้งานของร่ม ยังตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ที่หลากหลาย นอกเหนือไปจากการเอาไว้กางเพื่อบังแดดบังฝน แต่ยังมีการใช้งานในลักษณะ บังสายตาได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจุดประสงค์ของการวางสายตานั้น ก็แน่นอนว่าไม่ต้องการจะมีความเป็นจุดเด่น

     

    ดังนั้น ย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าแน่ ๆ ถ้าหากว่าคุณเลือกใช้ร่มที่มีสีสันเรียบง่ายไม่สะดุดตาผู้คน ย่อมจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดประสงค์กว่าการใช้ร่มที่มีสีสันฉูดฉาด หรือมีลวดลายเตะตา ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเป้าสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา

    ที่สำคัญร่มที่มีรูปแบบเรียบง่าย นั้นเวลาเกิด รอยเปื้อน ก็จะดูไม่น่าเกลียด เพราะจะดูกลมกลืนกันไป สามารถนำกลับไปทำความสะอาดได้ง่าย หรือแม้แต่งานซ่อมแซมก็จะเลือกใช้วัสดุทดแทน ที่หาได้ง่ายกว่า สำหรับร่องรอยการชำรุดเล็กน้อย

     

    จะดีแค่ไหนถ้าหากในวันที่คุณแต่งกายด้วยเสื้อผ้ารองเท้าที่เรียบง่าย โดยที่คุณมีร่ม ที่มีสีสันเข้าคู่กับธีมการแต่งกายของคุณด้วย
    ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ดูขัดตาเป็นแน่ถ้าหากว่าคุณใช้ร่มที่มี สีสันลวดลาย โดดเด่นมากเกินไปโดยที่คุณแต่งตัวแบบเรียบง่าย มันคงดูลดทอนการนำเสนอถึงความมี สไตล์ ไปมากเลยทีเดียว

    และร่มไม่ได้มีการประสานเนื้อหากันกับเฉพาะเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถประสานได้กับสิ่งของหลายชนิด รวมไปถึงยานพาหนะรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ที่คุณใช้ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะใช้ในการบังแดดในขณะที่จอด

    หรือใช้งานในขณะที่อยู่ในบริเวณรถ หรือแม้แต่นำไปใช้ในขณะทำงานต้อนรับแขก ต้อนรับบุคคลสำคัญ ต้อนรับคู่ค้า การเลือกใช้ร่มที่มีสีสันเรียบง่ายและสุภาพก็จะส่งผลดีด้วยต่อสถานการณ์ทางธุรกิจ เพราะจะนำมาซึ่งความดูดีและน่าเชื่อถือ

     

    และทั้งหมดนี้คือข้อดี ที่มีอยู่ในคุณสมบัติของร่มสีสันเรียบง่าย ซึ่งไม่อาจมองข้าม หรือแม้แต่หากที่บ้านของคุณ มีร่มไว้ใช้งานอยู่แล้วแต่ยังขาดร่มในสีสันแบบเรียบง่าย ก็ควรหาซื้อเก็บไว้เพิ่มอีกสักคันหนึ่ง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างแน่นอนอย่างเช่นร่มพับที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด สามารถเก็บได้ง่าย

     

     

    การบำรุงรักษา ร่ม หลังใช้งานหนัก

    ถึงแม้ว่าอุปกรณ์พกพาอย่างร่มจะหาซื้อได้ง่ายซึ่งมีวางขายโดยทั่วไปมีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว แต่จะเป็นการดีกว่าไหมถ้าหากว่าเราได้ค้นพบร่มที่ถูกใจในการใช้งานมีความคุ้นชิน และ ให้การดูแลรักษา เพื่อให้คงทนใช้งาน เป็นเพื่อนคู่ใจไปด้วยกันได้อีกนาน...

    ถึงแม้ว่าอุปกรณ์พกพาอย่างร่มจะหาซื้อได้ง่ายซึ่งมีวางขายโดยทั่วไปมีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว แต่จะเป็นการดีกว่าไหมถ้าหากว่าเราได้ค้นพบร่มที่ถูกใจในการใช้งานมีความคุ้นชิน และ ให้การดูแลรักษา เพื่อให้คงทนใช้งาน เป็นเพื่อนคู่ใจไปด้วยกันได้อีกนาน ๆ
    ซึ่งถึงแม้ว่าร่มจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถรองรับการเผชิญกับมลภาวะแวดล้อม รวมถึงสภาพอากาศที่ รุนแรงได้ ไม่ว่าในวันที่มีแสงแดดแผดจ้าหรือในวันที่มีพายุฝนโหมกระหน่ำ แต่ร่ม ก็ยังจำเป็นจะต้อง ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีอยู่เสมอ

    ทั้งนี้เรามักจะเคยชินกับรูปแบบการดูแลแบบง่าย ๆ โดยที่บางครั้งอาจมีการใช้งานที่ค่อนข้างสมบุกสมบัน ดังนั้นรูปแบบของการดูแลรักษาก็จะต้อง กระทำเพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกับลักษณะของการใช้งานนั่นเอง

     

    โดยปกติแล้วเวลาใช้ร่มเรามักจะมีการบำรุงรักษาด้วยวิธีพื้นฐานทั่วไป เช่นการหาที่ผึ่งระบายอากาศและกางเอาไว้ แต่สำหรับในบริบทที่จะต้องเผชิญกับงานหนัก มีการใช้ร่มฝ่าลมฝนเป็นระยะเวลายาวนาน หรือมีการใช้งานแบบติดกันซ้ำ ๆ บ่อยครั้งในช่วงฤดูฝน หรือมีการนำไปเผชิญกับคราบสกปรกน้ำโคลน หรือนำไปใช้ในแคมป์งานที่ต้องเผชิญกับสารเคมีหลายชนิด
    กรณีเหล่านี้จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการบำรุงรักษาเป็นพิเศษหลังการใช้งานหนัก

    ก่อนอื่นให้มองหาพื้นที่สำหรับการวางร่มที่เหมาะสมซึ่งจะต้องมี ความกว้างเพียงพอที่จะวางผึ่งไว้ได้อีกทั้งยังควรเป็นพื้นที่ ที่มีการไหลเวียนของอากาศ ได้ดี และเป็นจุดวางที่ไม่สร้างอุบัติเหตุให้กับผู้คนภายในสถานที่

    จากนั้นก็ให้เตรียมอุปกรณ์ได้เลย ซึ่งประกอบไปด้วย ผ้าแห้ง แปรงสีฟันเก่า และน้ำยาครีมหรือสารสำหรับถนอมรักษาโลหะ อย่างเช่น น้ำมันอเนกประสงค์ทั่วไป โดยเมื่อผึ่งร่มได้แห้งดีแล้ว
    ให้ใช้ผ้าแห้ง เช็ดร่มเบา ๆ เช็ดทั่วโครงสร้างทั้ง กิ่งก้านของร่มรวมถึงคันล่ม และซอกมุมต่าง ๆ ที่เป็นโลหะ ให้แห้งสะอาดเรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงใช้น้ำมันอเนกประสงค์สำหรับถนอมโลหะ เข้าชโลมหรือฉีดพ่น ให้ทั่วถึงในซอกมุมต่าง ๆ

    หากมีจุดใดที่เกิดคราบ ใช้แปรงสีฟันเก่าขัดเบา ๆ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดออก โดยไม่ต้องล้างด้วยน้ำเปล่า

     

    อย่าลืม ทำขั้นตอนนี้กับส่วนโลหะที่เป็นส่วนย่อยอาทิเช่นกระดุมสำหรับที่รัดร่มด้วย โดยหากมีวัสดุที่เป็นเนื้อไม้ก็ให้ใช้ น้ำยาสำหรับการถนอมเนื้อไม้โดยเฉพาะ เมื่อเสร็จเรียบร้อยให้ทำการตรวจสอบผ้าใบของร่มว่าอยู่ในสภาพที่ยังคงทนสมบูรณ์ดีหรือไม่ และมีร่องรอยการฉีกขาด หรือร่องรอยการเปื่อยยุ่ยหรือไม่

    หากมีให้ทำการซ่อมตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่ร่องรอยเหล่านั้นจะลุกลาม โดยการซ่อมทำได้ทั้งการเย็บ หรือการปิดเทป
    อีกทั้งยังควรสังเกตลักษณะของร่ม ว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ โดยสภาพที่ดีนั้นหมายถึงไม่ควรจะมีการบิดงอโก่งหรือสึกกร่อนด้วยคราบสนิม

    เมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว ให้ลองทำการ เก็บร่มสลับกางออก สัก 2-3 ครั้ง เพื่อตรวจสอบว่าการทำงานของกลไกลมีการขับเคลื่อนที่เรียบรื่นดีหรือไม่ หากพบจุดติดขัดให้ทำการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
    เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ นั่นอาจกระทบในวันข้างหน้าหากคุณเผชิญกับสถานการณ์จำเป็นต้องใช้งานอย่างเร่งด่วน ก็อาจจะมีการชำรุดเกิดขึ้นกะทันหันได้ หรือแม้แต่การกางไม่ออกหรือพับเก็บไม่ได้

     

    โดยการบำรุงรักษาและตรวจสอบ นั้นควรกระทำทุกเมื่อที่มีการใช้งานหนัก
    เพราะการชำรุดเสียหายของร่ม มักจะเกิดขึ้นจากสาเหตุ ที่ผู้ใช้นั้นเมื่อเผชิญกับสภาพดินฟ้าอากาศที่รุนแรงก็มักจะสนใจในประเด็นอื่น ๆ ก่อน แล้วละเลยลืมการบำรุงรักษาร่มไป
    ซึ่งแน่นอนว่าการสนใจในประเด็นอื่น ๆ ก่อนนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกันในหลายประเด็น ไม่ว่าการชำระล้างร่างกายรีบเข้าไปอาบน้ำหรือรีบดูแลทรัพย์สินอื่น ๆ รวมถึงดูแลบุคคลรอบข้าง
    แต่ขอเพียงแค่เมื่อคุณเสร็จสิ้นจากภาระหน้าที่เหล่านั้น ก็อย่าลืมเหลียวมองดู ร่มที่ช่วย ลดผลกระทบต่าง ๆ เป็นของคู่ใจที่ลุยด้วยกันมา ดูแลร่มที่แสนรักอย่างดีในลำดับต่อไป ทั้งนี้ก็ควรมีที่เก็บร่ม เพื่อการเก็บรักษาที่ดียิ่งกว่าเดิม

     

     

     

    5 ความลับเกี่ยวกับร่มกันยูวี ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน

    อย่างที่ทราบกันดีว่าด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดแทบตลอดทั้งปีในบ้านเรานั้น ทำให้ไอเทมตัวช่วยป้องกันความร้อน และอันตรายจากรังสียูวีอย่าง"ร่มกันยูวี" นั้นเป็นไอเทมที่มีค่อนข้างมีความสำคัญกับวิถีชีวิตประจำวันใครหลายคนไปด้วย...

    อย่างที่ทราบกันดีว่าด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัดแทบตลอดทั้งปีในบ้านเรานั้น ทำให้ไอเทมตัวช่วยป้องกันความร้อน และอันตรายจากรังสียูวีอย่าง”ร่มกันยูวี” นั้นเป็นไอเทมที่มีค่อนข้างมีความสำคัญกับวิถีชีวิตประจำวันใครหลายคนไปด้วย เพราะการพกพาไอเทมชิ้นนี้ติดตัวไว้และกางใช้งานขณะอยู่กลางแจ้งนั้น จะช่วยลดทอนระดับความร้อนจากแสงแดดที่ส่งมาถึงตัวเราไปได้พอสมควร และยังจะช่วยลดอันตรายจากรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับแสงแดดได้ด้วย การพกพาร่มกันยูวีติดตัวจึงนับเป็นหนึ่งในเทรนด์ไลฟ์สไตล์ดูแลสุขภาพที่สำคัญเทรนด์นึงในบ้านเราไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งนึงที่หลายคนไม่ทราบมาก่อนก็คือ ร่มกันยูวีที่มีวางขายอยู่ทั่วไปในบ้านเราแต่ละคันไม่ได้มีคุณสมบัติที่เหมือนกันซะทีเดียว แม้ว่าจะมีการเขียนคำอธิบายในฉลากว่าเป็นร่มป้องกันรังสียูวีเหมือนกันก็ตาม ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอา 5 ความลับเกี่ยวกับร่มกันยูวีที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน และผู้ขายก็ไม่เคยบอกเราบอกเปิดเผยให้ได้ทราบกัน

    ร่มทุกคันสามารถป้องกันรังสียูวีได้อยู่แล้ว ข้อเท็จจริงประการแรกที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนก็คือร่มที่มีวางขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาดนั้นสามารถป้องกันรังสียูวีได้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ร่มกอล์ฟ ร่มพับ โดยไม่จำเป็นต้องระบุว่าเป็นร่มกันยูวี หรือก็คือไม่จำเป็นต้องผ่านการเคลือบสารป้องกันยูวี ผ้า หรือใบร่มนั้น ๆ ก็สามารถป้องกันยูวีได้ เพียงแต่ประสิทธิภาพจะแตกต่างกันออกไปนั่นเอง โดยมีงานวิจัยที่ทำการทดสอบความสามารถในการป้องกันยูวีของผ้าที่ยังไม่ผ่านการเคลือบสารกันยูวี และผ้าที่ผ่านการเคลือบสารแล้ว พบว่า อย่างแรกสามารถป้องกันยูวีได้กว่า 90% ขึ้นไป ขณะที่อย่างหลังสามารถป้องกันยูวีได้กว่า 95% ขึ้นไป

    ใบร่มแต่ละสีป้องกันยูวีได้มากน้อยไม่เท่ากัน ปัจจัยต่อมาที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการป้องกันยูวีก็คือ สีของใบร่มนั่นเอง ทั้งนี้แต่ละสีให้ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ได้มากน้อยไม่เท่ากัน โดยการวิจัยทดสอบความสามารถในการป้องกันยูวีของสีชนิดต่าง ๆ พบว่าผ้าสีดำ หรือใบร่มสีดำเป็นสีที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ดีที่สุด รองลงมาก็เป็นสีโทนเข้มอื่น ๆ เช่น แดง น้ำเงิน เป็นต้น ขณะที่โทนสีอ่อน เช่น เขียว เหลือง ชมพู จะให้ความสามารถในการป้องกันยูวีได้น้อยลงมาอีก

    ร่มที่ผ่านการเคลือบสารแล้ว ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันยูวีเท่ากันทุกคัน แม้ว่าการเคลือบสารป้องกันยูวีบนใบร่มจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีชนิดต่าง ๆ ซึ่งสามารถทดสอบและพิสูจน์ได้ชัดเจน แต่ความลับนึงที่หลายคนไม่ทราบมาก่อนก็คือร่มที่ผ่านการเคลือบสารแต่ละคันนั้นไม่ได้ให้ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีได้เท่ากันทุกคัน โดยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนั้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพในระหว่างขั้นตอนการเคลือบสารด้วย เช่น ระดับความเข้มข้น ความสม่ำเสมอในการกระจายตัวของสาร ความเหนียวแน่นในการยึดเกาะกับตัวผ้า เป็นต้น

    ใบร่มหนา ๆ สามารถป้องกันยูวีได้ดีกว่า แต่ก็สะสมความร้อนไว้กับตัวมากกว่า ความลับต่อมาที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนเช่นกันก็คือ ขนาดความหนาของใบร่ม ซึ่งแน่นอนว่าขนาดที่หนาย่อมป้องกันรังสียูวีได้ดีกว่าใบร่มบาง ๆ หรือก็คือรังสียูวีมีโอกาสเล็ดลอดผ่านได้น้อยกว่านั่นเอง แต่ขณะเดียวกันปัญหาที่ตามมาก็คือ การสะสมความร้อนไว้กับตัวมีมากกว่าตามไปด้วย การใช้ร่มที่ใบร่มหนา ๆ จึงมักจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกร้อนมากกว่าด้วย

    การเคลือบสารไม่จำเป็นต้องเคลือบด้านในของใบร่ม อีกหนึ่งความลับที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ สารเคลือบป้องกันยูวีสีเงินที่เรามักจะเห็นด้านในของใบร่ม หรือก็คือด้านที่ไม่ได้สัมผัสแสงแดดโดยตรงนั้น ความเป็นจริงมันไม่ได้จำเป็นต้องจะต้องเคลือบที่ด้านในเท่านั้น มันสามารถเคลือบด้านนอก หรือด้านที่สัมผัสแสงแดดโดยตรงได้ด้วย แต่สาเหตุที่ผู้ผลิตร่มส่วนใหญ่เลือกที่จะเคลือบไว้ที่ด้านในก็เพราะเหตุผลเรื่องความสวยงามของตัวสินค้านั่นเอง เพราะด้านนอกมักจะเป็นส่วนที่โชว์สีสัน และพิมพ์ลวดลายต่าง ๆ ลงไป เนื่องจากหลาย ๆ บ้านก็มีร่มทั้งนี้ควรใช้ที่เก็บร่มในการเก็บรักษาร่มเพื่อป้องกันร่มเสียหายจากการวางไม่เป็นที่เป็นทาง

    วิธีตรวจสอบร่ม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาร่มพัง หัก งอ

    ร่มมีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว เป็นต้น เป็นสิ่งที่หลาย ๆ บ้านมี แต่หลาย ๆ คนก็คงพบเจอปัญหาร่มหักงอ ปัญหาร่มหักงอ ถือเป็นประเด็นที่น่าปวดหัวซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้งานร่มไปสักพักหนึ่งแล้ว โดยถึงแม้ว่ามันจะฟังดูเป็นเรื่องธรรมดาที่...

    ร่มมีหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว เป็นต้น เป็นสิ่งที่หลาย ๆ บ้านมี แต่หลาย ๆ คนก็คงพบเจอปัญหาร่มหักงอ ปัญหาร่มหักงอ ถือเป็นประเด็นที่น่าปวดหัวซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้งานร่มไปสักพักหนึ่งแล้ว โดยถึงแม้ว่ามันจะฟังดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะต้องเสียเวลาไปหาซื้อร่มใหม่มาใช้แทนเป็นแน่ ทั้งนี้หากอยากจะรักษาร่มให้อยู่กับเราไปนาน ๆ มันก็ต้องเริ่มกันตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพก่อนซื้อใช้ตั้งแต่แรก เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดโดยไม่ต้องมานั่งซ่อมบ่อย ๆ กันทีหลัง

     

    ร่มพังมักมีสาเหตุเกิดจากอะไร ?

    ร่มพังมักจะมีสาเหตุมาจากการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะต้องการลดต้นทุนทางการผลิต จึงทำให้เมื่อใช้งานไปสักพักความแข็งแรงของวัสดุก็จะถึงจุดต่ำลง นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของคุณภาพงานประกอบ ซึ่งมีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง  นั่นจึงทำให้เมื่อมีการกระแทกหรือโดนลมพัดแรง ๆ ร่มก็จะเสียหาย ทำให้เจ้าของต้องซ่อมแซมหรือซื้อใหม่

     

    เพราะเหตุนี้การเลือกร่มจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ก่อนซื้อทุกครั้งเราควรจะมีการตรวจสอบสินค้าให้ดีเสียก่อน แล้วจะมีวิธีการสังเกตอย่างไร ว่าร่มไหนมีความแข็งแรงน่าใช้ วันนี้เราจะพาไปดูเทคนิคการตรวจสอบร่มกัน

     

    วิธีตรวจสังเกตร่มที่แข็งแรงทนทานได้มาตรฐาน

     

    1.วัสดุโครงสร้างร่ม

    เป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้ง่ายที่สุด หากคุณกำลังต้องการร่มที่แข็งแรงซักคัน โดยวัสดุที่ถูกต้องจะต้องเป็นวัสดุอะลูมิเนียม, เหล็ก หรือ ไฟเบอร์กลาส เพราะเป็นวัสดุที่มีความทนทานสูง นอกจากนี้ยังควรสัมผัสเพื่อตรวจสอบความหนาแน่นของวัสดุด้วย

     

    2.ซี่ร่ม

    เพราะเป็นส่วนที่ต้องใช้ชิ้นส่วนค่อนข้างเยอะ อีกทั้งชิ้นส่วนเล็ก ๆ เหล่านี้ยังต้องทำหน้าที่เป็นโครงยึดผ้าใบในการรับมือกับแรงลม ด้วยเหตุนี้ซี่ร่มจึงเป็นส่วนที่ค่อนข้างบอบบางมากกว่าส่วนอื่น ๆ

    การตรวจสอบควรเริ่มจากการสังเกตลักษณะงานประกอบที่จะต้องแน่นไม่หลวมเมื่อขยับ โดยเฉพาะกับบริเวณข้อต่อส่วนต่าง ๆ ด้านวัสดุก็ต้องมีคุณสมบัติยืดหยุ่นไม่แข็งอย่างเดียว ซึ่งจะพบได้ในวัสดุไฟเบอร์ แต่ถ้าหากไม่มี วัสดุอย่าง เหล็ก หรือ อะลูมิเนียม ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่เช่นเดียวกัน

     

    สุดท้ายไม่ควรมองข้ามจำนวนก้านซี่ร่มออกไป เพราะยิ่งมีก้านเยอะ ความแข็งแรงของโครงสร้างเมื่อกางร่มก็จะทนทานต่อลมได้มากยิ่งขึ้น ไม่หักได้ง่าย โดยหากสำรวจดูแล้วรู้สึกว่ามีจำนวนก้านน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ก็ให้ตัดตัวเลือกร่มอันนั้นออกไปได้เลย

     

     

    3.แกนร่ม

    แกนร่มเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่ต้องอาศัยความแข็งแรงในการรับน้ำหนักจากการใช้งาน ซึ่งหากโลกมีความแข็งแรงมันก็จะทนรับแรงตึงเครียดได้เป็นอย่างดี โดยเทคนิคการสังเกตจะเริ่มได้จากดูที่ความยาวของแกนที่ต้องได้สัดส่วนเข้ากับเส้นผ่าศูนย์กลางของผ้าใบ รวมถึงต้องมีองศาความโค้งที่พอดี

     

    และถ้าหากร่มที่คุณเลือกอยู่เป็นร่มประเภทร่มพับ ร่มตอนเดียว, ร่ม2ตอน, หรือ 5 ตอน ก็จะต้องตรวจสอบบริเวณรอยต่อแกนว่าประกอบได้แน่นหนาหรือไม่ ขยับไปมาแล้วต้องไม่รู้สึกถึงความหลวมของชิ้นส่วน ซึ่งมักเป็นส่วนที่พังได้ง่ายของร่มชนิดนี้

     

    นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอีก 2 อย่าง ที่ไม่ควรลืมตรวจสอบด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ ผ้าร่ม ที่ควรจะเลือกผ้าที่ผลิตจากวัสดุ ผ้าผงจี้ หรือ โพลีเอสเตอร์ เพราะเป็นผ้าที่มีความทนทานอีกทั้งยังสามารถเคลือบสารกันแสง UV ได้ด้วย และ ด้ามจับ ที่ถึงแม้จะเป็นส่วนที่พังยากแต่มันก็มักจะมีปัญหาหลุดออกจากด้าม ซึ่งควรตรวจสอบงานประกอบให้ดีว่ามันจะไม่หลุดง่าย เมื่อผ่านการใช้งานไปนาน ๆ รวมถึงลักษณะด้ามจับที่ต้องรับกับสรีระมือของเรา ใช้ไปแล้วไม่ปวดมือ