หลายคนอาจจะคิดว่า ร่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันฝนตกเท่านั้น จึงเหมาะที่จะนำมาใช้งานในช่วงฤดูกาลฝนเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องมากนัก เพราะปัจจุบันนี้ฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า วันนี้จะฝนตกหรือแดดแรง เพราะสภาพอากาศไม่คงที่ โดยเฉพาะประเทศไทยของเราที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศสูงมาก ตอนเช้าฝนตก ตอนเย็นแดดออก ไม่สามารถเดาได้ เพราะฉะนั้นการที่คุณมีร่มติดตัวไว้ เป็นการป้องกันที่ดีที่สุด เพราะหากคุณเป็นคนออกไปทำงานนอกบ้าน การมีร่มไว้เพื่อป้องกันฝนตกยามเดินทางกลับบ้าน ป้องกันฝนตกใส่ของใช้และเสื้อผ้าไม่ให้เปียกได้ดีด้วย นอกจากนี้หากฝนไม่ตกก็สามารถนำร่มไปใช้ในการป้องกันแสงแดดที่มีรังสีต่างๆมากมาย ส่งผลเสียต่อร่างกายและสภาพผิวได้ดีอีกด้วย

ร่มจึงไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในได้ในฤดูฝนเท่านั้น แต่เหมาะที่จะใช้ในทุกฤดูกาล ทั้งฤดูฝน ที่ไว้ใช้เพื่อป้องกันร่างกายเปียก และสิ่งของเครื่องใช้เสียหายจากการโดนฝนตกใส่ ซึ่งการตากฝนนานๆจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันและเป็นหวัดได้ สิ่งของอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายเมื่อโนฝนก็จะเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้นั้นเอง ส่วนในช่วงฤดูร้อนนั้น ปกติแสงแดดที่ร้อนมากในช่วงปกติ แต่ยิ่งเข้าสู่ฤดูร้อนแบบเต็มขั้นก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปหลายเท่าเลยหากมีร่มติดตัวไปด้วยก็สามารถใช้ร่มในการป้องกันแสงแดดที่เต็มไปด้วยสารอันตราย รังสีอันตรายทั้งหลายที่หากอยู่ท่ามกลางแสงแดดนานๆอาจจะทำให้เป็นไข้แดด เป็นลมแดด และเกิดปัญหาต่อผิวพรรณได้ ซึ่งการตากแดดนานๆจะทำให้เกิดการสะสมจนเป็นมะเร็งผิวหนังได้ แต่หากคุณไม่มีร่มติดตัวไปก็ต้องทนรับกับปัญหาเหล่านี้

ซึ่งร่มเองก็มีหลายแบบ หลายขนาด ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม และความชอบส่วนตัว เช่นหากคุณขับรถส่วนตัวไปทำงานก็สามารถพกร่มติดรถไปด้วยได้ เพื่อใช้ในการเดินซื้อของ ไปรับลูกหรือเดินเข้าบ้านเวลาฝนตก ซึ่งเมื่อมีที่เก็บของขนาดใหญ่ก็สามารถเลือกร่มได้หลายขนาดมากขึ้นตามความเหมาะสม แต่หากคุณไปทำงานโดยการโดยสารรถประจำทาง หรือรถไฟฟ้า จะพกพาร่มขนาดใหญ่คงไม่สะดวกนัก แต่ก็สามารถเลือกใช้ร่มประเภทพับได้ ซึ่งมีขนาดเล็กและราคาไม่สูงมาก แต่ความทนทานค่อนข้างน้อยพอสมควร ซึ่งร่มแบบพับได้นี่สามารถพับเก็บใส่กระเป๋าสะพายส่วนตัวได้ง่ายๆ แถมพกพาสะดวกอีกด้วย ร่มมีหลายราคาหลายขนาด ความทนทานแตกต่างกัน เวลาเลือกซื้อควรเลือกตามความเหมาะสมกับงานของตัวเองกันด้วยนะครับ[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

อุปกรณ์ของใช้ไม่ว่าจะเป็นอะไรเราก็ควรตรวจสอบ และระวังไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือเมื่อเสียหายแล้วก็ไม่ควรนำมาใช้งาน ซึ่งหนึ่งในของใช้ที่เราใช้บ่อยๆ และมีความสำคัญ จำเป็นต้องตรวจสอบคุณภาพอยู่เสมอนั้นก็คือร่มนั้นเอง ซึ่งร่มเป็นของใช้สำคัญ ที่ใช้ในเวลาแดดออก และเวลาฝนตก ซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า ร่มที่ออกวางขายตามท้องตลาดนั้นก็มีทั้งร่มที่ได้ค่ามาตรฐานโรงงาน มีการรับรองความปลอดภัย แล้วก็ยังมีร่มที่ไม่ได้ค่ามาตรฐาน ไม่มีความปลอดภัย ออกมาวางขายปะปนกันไป ซึ่งจำเป็นต้องเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม หากท่านเลือกซื้อร่มได้แบบที่มีคุณภาพก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จากการใช้งานร่มไม่มีคุณภาพ ซึ่งทุกท่านควรรู้ว่า ร่มที่ไม่ได้ค่ามาตรฐานนั้นแฝงอันตรายมาด้วย อย่าสนใจว่าร่มราคาถูกแล้วซื้อเลย ควรดูจากคุณภาพของร่มมากกว่า ซึ่งวันนี้เราไปดูอันตรายจากร่มที่ไม่มีคุณภาพที่อาจจะเกิดขึ้นได้กันเลย

อันตรายจากร่มไม่ได้มาตรฐาน

-มีโครงสร้างไม่แข็งแรง ก้านร่มอ่อนแอ ทำให้ไม่สามารถทนแรงลม และแรงฝนได้นานนัก มีอายุการใช้งานน้อย

-ร่มเหล่านี้มักจะวางขายตามร้านค้า ตลาดนัด ขายในราคาไม่แพง แต่หากซื้อมาก็จะไม่สามารถใช้งานได้นานเท่าร่มแบบมีคุณภาพ

-โครงสร้างของร่มมักจะผลิตมาจากเหล็ก ทำให้ระหว่าการกางร่มระหว่างฝนตกอาจจะทำให้เกิดฟ้าผ่ามาโดนเรา แล้วได้รับอันตรายได้ด้วย

-ร่มแบบนี้ไม่สามารถทนรับแรงกระแทก หรือน้ำหนักมากๆได้ จึงไม่ควรนำไปใช้ในช่วงฝนตกหนักๆ เพราะอาจจะทำให้บาดเจ็บได้นั้นเอง

-ร่มประเภทนี้มักจะไม่สามารถป้องกันน้ำฝนที่รั่วซึมมาได้ ทำให้อาจจะตัวเปียกได้ง่ายเมื่อตากฝนเป็นเวลานาน

-ลายบนร่มทำออกมาได้ไม่สวยมาก เมื่อใช้ไปเป็นเวลานานลายบนร่มก็จะลอก หรือ หายไป ทำให้หมดความสวยงาม

-ก้านที่จับของร่มทำออกมาได้ไม่ดี มีเพียงสีที่ทาไว้บางๆเท่านั้น ทำให้เกิดสนิมได้ง่าย เมื่อไปจับก็อาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ หรือเป็นโรคบาดทะยักได้นั้นเอง

-แม้ร่มจะมีราคาถูกแต่ผลิตขึ้นมาจากวัตถุดิบที่ไม่ได้ค่ามาตรฐาน อาจจะทำให้เกิดอันตรายระหว่างการใช้งานได้ง่าย

-ส่วนตะเข็บที่เย็บผ้าร่มและก้านร่มนั้นขาดง่าย ทำให้ผ้าใบไม่แข็งแรง และหลุดง่ายด้วย

ที่ยกมานั้นเป็นเพียงอันตรายเบื้องต้นที่อาจจะเกิดจากการใช้งานร่มไม่ได้มาตรฐาน เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อร่มควรตรวจดู สัญลักษณ์ มอก. ก่อนว่ามีหรือไม่ และไม่ควรคำนึงถึงราคาเป็นหลัก ควรดูจากคุณภาพของสินค้าเท่านั้น สุดท้ายนี้หากท่านใดมีคำถามหรือข้อสงสัยก็สามารถเข้ามาสอบถามพูดคุยกันได้นะครับ

[/vc_column_text]

[/vc_column][/vc_row]

ร่มนั้นมีหลายประเภทมาก ซึ่งนอกจากจะมีหน้าที่ในการป้องกัน แสงแดด รังสีอันตราย ฝน และสารเคมีต่างๆที่มาจากฝน นอกจากนี้แล้วร่มยังมีหลากหลายประเภทแตกต่างกันไป แต่ประเภทที่มีการทำงานมาโดยเฉพาะคือ ร่มกอล์ฟ ซึ่งเป็นร่มที่ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะในการใช้งานในสนามกอล์ฟ มีโครงสร้าง และลักษณะเฉพาะ แต่ร่มประเภทนี้ก็สามารถนำมาใช้งานภายนอกได้เช่นเดียวกัน ซึ่งร่มประเภทนี้มีข้อดี ข้อเสียอีกด้วย ความจริงแล้วร่มกอล์ฟนั้นมีทั้งแบบชั้นเดียว และแบบสองชั้น ซึ่งทั้ง 2 แบบมีคุณสมบัติแตกต่างกัน แต่ที่เราจะมาคุยกันคือ ทำไมร่มกอล์ฟถึงมี 2 ชั้น นั้นเอง

ร่มธรรมดาทำไมใช้ในสนามกอล์ฟไม่ได้

เนื่องจากในสนามกอล์ฟนั้นมีลมค่อนข้างแรงกว่าปกติ ทำให้ไม่เหมาะที่จะใช้งานร่มธรรมดาที่มีขนาดกลาง เพราะเมื่อร่มธรรมดาโดนลมแรงๆ จะทำให้ไม่สามารถต้านลมได้ ส่งผลทำให้โครงสร้างของร่มบาน และเสียทรง และเสียหายจนไม่สามารถใช้งานต่อได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แต่หากเป็นร่มธรรมดาที่มีขนาดใหญ่ก็ไม่สะดวกที่จะกางร่มแล้วเดินไปมาในสนามกอล์ฟเนื่องจากร่มขนาดใหญ่นั้นคงมีน้ำหนักมาก และอาจจะทำให้โดนแรงลมพัดไปจนชนสิ่งของส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บได้นั้นเอง ทำให้ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้งานในสถานที่ลมแรงๆนั้นเอง แต่สามารถใช้งานได้ในสถานที่ปกติได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาความคงทน อีกด้วย

ร่มกอล์ฟแบบ 2 ชั้นนั้นดีอย่างไร

ร่มกอล์ฟแบบ 2 ชั้นนั้นถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในสนามกอล์ฟ ทำให้มีความสามารถในการต้านทานแรงลมได้ดี ทำให้เวลาโดนลมแรงๆแล้วโครงร่มจะไม่เสียหาย และยังมีมีการวิจัยออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นร่ม 2 ชั้น และปรับปรุงในส่วนโครงสร้างร่มให้แข็งแรงทนทานมากขึ้น และปรับปรุงส่วนผ้าร่มให้มีความคงทน และเหนี่ยวกว่าเดิมขึ้น 2 เท่า ซึ่งร่ม 2 ชั้นนั้นจะสามารถต้านทานแรงลมลงได้ดี มีน้ำหนักเบา สามารถพกพาได้ หรือเดินกางร่มเดินไปทั่วสนามได้อย่างสบายๆ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันรังสี UV และป้องกันน้ำซึมได้แบบ 100% มีการออกแบบระบบการระบายลมแบบสะท้อนกลับ ต่อให้ลมแรงขนาดไหน ก็ไม่สามารถทำให้โครงสร้างของร่มเสียหาย และบานออกด้านหลังได้ และร่มกอล์ฟยังได้รับความนิยมนำไปใช้ในสนามแข่งรถอีกด้วยนะ เพราะเนื่องจากในสนามแข่งนั้นมีลมแรงมากจากการขับรถแข่งนั้นเอง พริตตี้หรือคนดูแลสนามจึงใช้ร่มประเภทนี้นั้นเอง

ร่มกอล์ฟนี้สามารถสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษได้ และมักจะเป็นผลิตขึ้นมาเป็นสินค้าพรีเมี่ยมเพื่อมอบให้นักกีฬาอีกด้วย หากลูกค้าท่านใดมีคำถามหรือข้อสงสัย ก็สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ

ตัวอย่าง ร่มกอล์ฟ 2 ชั้น

ผลงาน ร่มกอล์ฟ พร้อมทำโลโก้

ร่มเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันแสงแดด และฝน แต่หลายท่านอาจจะไม่ได้สังเกตแต่คงเคยได้เห็นกันมาบ้างแล้ว นั้นก็คือ ร่มของนักกีฬาชื่อดัง หรือร่มที่แถมมาตอนปีใหม่ หรือโอกาสสำคัญต่างๆนั้น บนผ้าใบของร่มจะมีการสกรีนลายหรือแบรนด์สินค้า ชื่อบริษัทแฝงมาด้วย นี่จึงถือว่าเป็นการผลิตร่มเพื่อใช้งานตามปกติแล้วยังแฝงการโฆษณาไปด้วยในตัวนั้นเอง เพราะร่มเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานภายนอก กลางแดด กลางแจ้ง นั้นเองทำให้กลายเป็นจุดเด่นที่หลายคนมอง จึงช่วยให้บริษัทหรือร้านได้ลูกค้ามากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ร่มที่มีสัญลักษณ์สกรีนบนผ้าใบ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นร่มประเภท ร่มตอนเดี่ยว ร่มพับได้ ที่สั่งทำขึ้นมาพิเศษนั้นเอง แต่หลายบริษัทอาจจะทำร่มแบบอื่นๆขึ้นมาด้วย ซึ่งร่มประเภทที่มีลายสกรีนบนผ้าใบ ที่ได้รับความนิยมในการสั่งทำขึ้นมาเรียกว่า ร่มแบบพรีเมี่ยม ซึ่งมีข้อดี ข้อเสีย ดังนี้

ร่มแบบพรีเมี่ยม เป็นร่มที่บริษัท หน่วยงานต่างๆ สั่งทำขึ้นมาเพื่อแจกหรือมอบให้ลูกค้าเนื่องในโอกาสต่างๆ ซึ่งร่มจะมีการสกรีนชื่อหรือสัญลักษณ์ลงไปเพื่อแฝงการโฆษณาไปในตัว ซึ่งการออกแบบ และเลือกโครงสร้างได้เอง ร่มประเภทนี้มักมีความแข็งแรงมาก ราคาปานกลาง แต่เมื่อสั่งผลิตจำนวนมาก ราคาก็จะลดลงไปด้วย ซึ่งร่มแบบพรีเมี่ยมมีข้อดี ข้อเสียดังนี้

ข้อดีของร่มแบบพรีเมี่ยม

-มีโครงสร้างที่แข็งแรง สามารถออกแบบโครงสร้าง และลายบนผ้าใบได้เองตามที่ต้องการ

-มีความแข็งแรง ทนทานสูงมาก สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

-สามารถกันแดด และฝนได้อย่างดี

-ลดต้นทุนในการโฆษณาแบรนด์สินค้า ลงไปหลายเท่า

-ช่วยเพิ่มชื่อแบรนด์ให้เป็นที่จดจำมากขึ้น และยังช่วยส่งเสริมให้แบรนด์สินค้าได้รับความนิยมมากขึ้น

-ราคาในการสั่งผลิตไม่แพงมาก เมื่อสั่งมากต้นทุนยิ่งลดลงไปด้วย

-สามารถออกแบบร่มในแบบที่ต้องการได้ เลือกขนาด สีสัน ลวดลายได้ตามความต้องการ

ข้อเสียของร่มแบบพรีเมี่ยม

-จำเป็นต้องสั่งผลิตในปริมาณขั้นต่ำที่กำหนด

-ต้องหาโรงงานที่ทำร่มพรีเมี่ยมแบบมีมาตรฐาน

หลายท่านคงเห็นแล้วว่าร่มแบบพรีเมี่ยมนั้นสามารถแฝงการโฆษณาไปด้วย แถมช่วยลดต้นทุนในการโฆษณาลงได้ สามารถนำงบที่เหลือไปจัดทำอย่างอื่นต่อได้ นอกจากนี้ร่มแบบพรีเมี่ยมยังเหมาะสำหรับกิจการหรือบริษัทที่ต้องการโฆษณาให้ลูกค้าได้รู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้น อาจจะเป็นชื่อแบรนด์ หรือชื่อสินค้า หรือกำลังจัดทำของขวัญพิเศษให้ลูกค้าเนื่องในโอกาสต่างๆก็สามารถเลือกสั่งผลิตร่มประเภทพรีเมี่ยมได้ หากท่านใดมีคำถามหรือข้อสงสัยก็สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาพูดคุยกันได้เลยครับ ทางเรายินดีให้บริการตอบคำถามตลอดเวลาเลยทีเดียว

ผลงาน ร่มพรีเมี่ยม ร่มโฆษณา พร้อมทำโลโก้

ร่มเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันแสงแดด และฝน ซึ่งหลายท่านอาจจะทราบอยู่แล้ว แต่ร่มเองก็มีหลากหลายประเภทมาก ซึ่งสามารถจำแนกได้หลายแบบ เช่นจำแนกตามการใช้งาน จำแนกตามขนาด จำแนกตามราคา จำแนกตามรูปร่าง และอื่นๆมากมาย ซึ่งลูกค้าหลายท่านที่สอบถามเข้ามา ว่าชนิดของร่มมีกี่ประเภทกันแน่ ผมเลยไม่สามารถตอบได้ แต่วันนี้เราจะมาแยกชนิดของร่ม ตามการใช้งาน ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ ชนิดแรก ร่มเล็ก และชนิดที่สอง ร่มใหญ่ ซึ่งทั้งสองชนิดเองก็สามารถแยกย่อยได้อีกหลายแบบเลยทีเดียว เราไปทำความรู้จักชนิดของร่มที่แบ่งตามการใช้งานกันเลย

แบ่งประเภทของร่มตามการใช้งาน สามารถแบ่งได้ดังนี้

ร่มชนิดที่ 1 ร่มเล็ก เป็นร่มประเภทที่ใช้งานทั่วไป เราสามารถถือร่มประเภทนี้ดีได้ มีความคงทนไม่มากนัก มีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถพกพาสะดวก มีน้ำหนักเบา ราคาไม่สูงนัก ซึ่งร่มชนิดเล็กก็สามารถแบ่งย่อยได้อีกหลายขนาดดังนี้ คือ ร่มแบบพับได้  ซึ่งมีขนาดเล็กมาก สามารถเก็บใส่กระเป๋าได้ มีน้ำหนักเบา และราคาไม่สูง  ร่มแบบตอนเดี่ยว เป็นร่มขนาดกลาง นิยมใช้ทั่วไป ไม่มีลวดลาย และร่มแฟชั่น ซึ่งเน้นความสวยงาม มีหลายขนาดให้เลือกใช้งาน ราคาไม่สูงมาก มักเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง ร่มสำหรับพระสงฆ์ เป็นร่มที่ทำมาเพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้งาน มี 2 สี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วประชาชนมักจะซื้อถวายในช่วงเข้าพรรษานั้นเอง และร่มแบบอื่นๆที่มีขนาดเล็ก เราสามารถถือเพื่อใช้งานได้ก็จัดว่าเป็นร่มในหมวดนี้ทั้งหมด

ร่มชนิดที่ 2 ร่มใหญ่ เป็นร่มประเภทที่นิยมใช้ในงาน อีเว้นท์ เป็นร่มขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ไม่สามารถถือเพื่อใช้งานได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะนำไปใช้งานตามที่ร้านค้ากลางแจ้ง ที่ใช้ร่มใหญ่ไว้เพื่อป้องกันแสงแดด และใช้ที่ชายหาดเพื่อบังแสงให้นักท่องเที่ยวได้นอนหรือนั่งพักผ่อน ร่มใหญ่มีราคาแพง และมีความคงทนสูงมาก วิธีการใช้งานก็ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร ซึ่งร่มประเภทนี้ก็มีแบ่งย่อยออกมาได้ดังนี้ คือ  ร่มชายหาด มีฐานที่ต้องมั่นคง นิยมนำไปกางบริเวณชายหาด หรือเปิดให้นักท่องเที่ยวเช่า มีความคงทนสูง เพราะต้องทนรับแรงลมทะเลตลอดเวลา มีโครงสร้างที่แข็งแรงมาก ต่อมาร่มแม่ค้า มักพบเห็นได้ตามตลาดนัด มีหลายขนาดให้เลือกใช้ มีสีสันไม่มากนัก จำเป็นต้องหาก้อนหินหรือฐานที่หนักมาตั้งทับเพื่อป้องกัน ร่มเสียหายด้วย โครงสร้างความแข็งแรงอยู่ในระดับปานกลาง ราคาไม่สูงมาก ผ้าใบมักจะเป็นจุดที่ชำรุดได้ง่ายที่สุด และสุดท้าย ร่มพรีเมี่ยม เป็นร่มที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ มีความแข็งแรงสูง โครงสร้างแข็งแรง ส่วนใหญ่จะเป็นร่มที่บริษัทต่างๆสั่งผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อใช้งานในโอกาสต่างๆ[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

ร่มเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องใช้เพื่อเป็นที่บังแดด บังลม และฝน  หลายๆคนคงสงสัยว่าอันที่จริงแล้วร่มถูกผลิตขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์หลักอะไรกันแน่  เพราะจะว่าไปแล้วร่มที่เราพบเจอโดยทั่วไปมักจะมีคุณสมบัติหลักในการกันฝนซะเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันเป็นอะไรได้มากว่านั้น  และมันมีประโยชน์มากว่าแค่กันไม่ให้หัวเปียกท่านั้น

ความแตกต่างของของร่มนอกจากขนาดที่เล็กใหญ่ต่างกันแล้ว  ร่มยังมีความแตกต่างกันในแง่คุณสมบัติของการใช้ประโยชน์  ซึ่งวิธีการแยกแบบนี้   มักจะแยกประเภทของร่มออกจากันโดยใช้ในส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ทำตัวร่มเป็นหลักในการแยก  เพื่อให้เห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน  เราลองมาทำความรู้จักกับผ้าชนิดต่างๆกันให้มากว่านี้ดีกว่า

ลักษณะของผ้าที่ใช้ทำร่มโดยส่วนใหญ่ได้แก่  ผ้า SUNBRELLA ซึ่งเป็นผ้าที่เรานำเข้าจากอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่จะผผลิตขึ้นาเพื่อใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ทั้งในบ้านและนอกบ้าน จึงมีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือความทนทาน  อายุการใช้งานยืนยาวกว่าผ้าแบบอื่นๆ  สีไม่ซีด  และป้องกันเชื้อราได้ดี  และจากงานวิจัยสามารถบอกได้ว่าผ้าชนิดนี้สามารถกันแดดได้ดีมาก  จนกล่าวได้ว่ามันเป็นวัตถุดิบที่ใช้ผลิตร่มเพื่อกันแดด  สามารถกัน UVA และ UVB ได้มากถึง 84%  และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย   ผ้าชนิดต่อมา เรียกว่าผ้าSOLARIS หรือผ้าSUNTEX  ซึ่งจัดเป็นผ้าที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งโดยเฉพาะ ทำมาเส้นใยสังเคราะห์ผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ด้วยการย้อมสีที่เรียกว่าระบบ Solution-dying    ที่มีส่วนช่วยลดการเกิดน้ำเสียจากกระบวนการย้อมสีบนผ้าดังกล่าว และได้รับการยอมรับว่าเป็นผ้าที่ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ดูดซับสิ่งสกปรก   ไม่เกิดกลิ่นอับ ทำความสะอาดง่าย และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ  จึงจัดว่าเป็นร่มสีเขียวทั้งตัวและหัวใจ สามารถกันยูวีได้ถึง 97%     ผ้าชนิดต่อมาคือผผ้าใบโพลีอ๊อกฟอร์ด เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ ที่ทออย่างเหนียวแน่น  ทำให้น้ำซึมผ่านไม่ได้  และป้องกันแสงแดดได้ดีเยี่ยม  ต่อมาคือผ้านาโนซึ่งจะคล้ายกับผ้าดิบของเรา  แต่กันน้ำและแดดได้ดีและยังกันการเกิดกันเชื้อราได้ดีเยี่ยม  แต่มีเพียงแค่สีเดียวคือสีธรรมชาติของเนื้อผ้า

ต่อมาเรียกว่าผ้าดิบ  ซึ่งแท้จริงมันคือ ผ้าทอที่ยังไม่ผ่านกรรมวิธีฟอกสี    มีคุณสมบัติในเรื่องของความยืดหยุ่นดี  และกันแดดได้ดีในระดับหนึ่ง แต่กันน้ำไม่ได้   ผ้าโทเรเป็นผ้าเนื้อบางเบา ระบายอากาศดี กันแดดได้แต่กันน้ำไม่ได้  มีหลากสีสันให้ได้เลือกใช้กัน   ผ้าเคลือบน้ำมัน ส่วนใหญ่เนื้อผ้าเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าสาลู แล้วทำการเคลือบด้วยสีน้ำมันเพื่อให้มีคุณสมบัติที่ดีในการกันแดดและน้ำได้

จากข้อมูลเรื่องผ้าที่ใช้ทำร่ม  ทำให้เราพอจะแยกแยะประเภทของร่มจากชนิดของเนื้อผ้าได้บ้าง  และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้เพื่อการตัดสินใจเลือกซื้อร่มมาใช้งานตามความเหมาะสมของเนื้อผ้าแต่ละชนิด  ว่างานแบบไหน  ควรเลือกใช้ร่มที่ทำจากเนื้อผ้าชนิดใด   ให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากร่มได้อย่างเต็มที่ คุ้มค่าเงิน  อีกกทั้งรายังได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในแง่ของประสิทธิภาพของเนื้อผ้า  แช่นเราต้องการจุดประสงค์หลักในการกันแดดเราก็ควรเลือกใช้ผ้าที่กันแดดและUV ได้สูงในระดับหนึ่ง  หรือเราอาจจะมองออกว่าถ้าเราจะใช้ร่มในงานกลางแจ้งที่ใช้งานแบบถาวรหรือระยะเวลายาวนานพอสมควร  เราก็ไม่ควรเลือกใช้ผ้าดิบเพราะมันไม่กันฝน

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่บอกเล่าไปทั้งหมดนี้  จะเป็นข้อมูลดีดีที่จะช่วยหลายๆคนในการตัดสินใจเลือกซื้อร่มมาใช้ตามความเหมาะสม  เพื่อให้เกิดคุณประโยชน์อันสูงสุดแก่ผู้ใช้ร่ม[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

แดดจัด  ฝนตก  เป็นเวลาที่สาวๆทุกคนจะต้องพกร่มเพื่อที่จะป้องกันตัวเองจากภัยธรรมชาติที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้  แต่เราป้องกันผลกระทบจากมันได้ด้วยร่ม  และร่มยังกลายเป็นเครื่องประทินผิวอย่างหนึ่งไปแล้วสำหรับสาวๆ  เพราะไม่ว่าคลินิกผิวหนังที่ไหนก็แนะนำให้เราอย่าให้ผิวหน้าสัมผัสกับแดดโดยตรง  แม้เราจะฉาบหน้าด้วยครีมของเขาแล้ว  ก็ยังไม่ปลอดภัยเรายังคงต้องกางร่มเวลาที่ต้องการจะออกไปเจอแดดทุกครั้ง

จะเห็นได้ว่าร่มกับผู้หญิงแทบจะผสานกันจนเป็นอวัยวะชิ้นหนึ่งในร่างกาย  ฉะนั้นการที่ร่มจะมีนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นกับตัวมัน  ก็ไม่น่าจะต้องแปลกใจ  เพราะมันล้วนเป็นนวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของสาวๆทั้งสิ้น  เริ่มต้นจาก ร่มที่ไม่มีวันเปียก  แม้จะเป็นวันมามากของสายฝน  แต่ด้วยนวัตกรรมของการผลิตส้นใยและการทอที่หนาแน่นเป็นพิเศษทำให้น้ำไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปในผ้าได้  ลักษณะจะเหมือนกันการที่น้ำกลิ้งอยู่บนใบบอนนั่นเอง  ฉะนั้นเมื่อเราใช้ร่มเสร็จเราเพียงแค่สะบัดน้ำฝนที่เกาะอยู่  ร่มเราก็จะกลับมาแห้งสนิทเหมือนไม่เคยใช้งานมากก่อน  เก็บเข้ากระเป๋าได้ทันที  ไม่เลอะพื้นให้แม้บ้านต้องมองค้อนตามหลัง นวัตกรรมต่อมาคือร่มเปลี่ยนสีและร่มซ่อนลายได้  เมื่อตอนแห้งมันจะกลายเป็นร่มพื้นๆ เรียบๆแสนจะธรรมดา  แต่เมื่อโดนน้ำหรือฝนก็จะปรากฏสีหรือลวดลายสุดแสนจะน่ารักน่าใช้ออกมา  ทำให้คนใช้ร่มต้องบนบานให้ฝนตกทุกวัน  ชนิดที่ต้องเลี้ยงแมวเอาไว้หลายสิบตัว  เพื่อจะได้แห่ขอฝนทุกวัน

อันต่อมาเป็นร่มกันขโมย ความพิเศษของร่มนี้จะอยู่ที่ด้ามถือ มันสามารถถอดออกจากรร่มได้ ประโยชน์แรกคือ คนที่จะขโมยจะไม่สนใจหยิบเพราะคิดว่าเป็นร่มพัง  และประโยชน์ต่อมาคือที่ด้ามจะมีล็อคเหมือนกุญแจ  ต้องเป็นด้ามที่ลงล็อกพอดีกันกับก้านร่มเท่านั้นจึงจะสามารถปลดล็อคและกางร่มออกมาใช้งานได้ ที่สำคัญกุญแจดอกนี้จะมีเพียงแค่ดอกเดียว  มันจะใช้กับร่มแบบเดียวกันแต่คนละคันกันไม่ได้รับรองว่าร่มไม่หายชัวร์  ติดเสียแต่ว่าคนใช้ห้ามวางลืมด้ามจับร่มเท่านั้นเอง

พอหอมปากหอมคอกับความล้ำของคิด  น่าสนใจตรงที่คนทำไม่ได้มองร่มเป็นเพียงแค่เครื่องบังแดดบังฝน  แต่เขากลับมองว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่มนุษย์ทุกคนต้องมี  ต้องใช้และมันจะต้องกลายเป็นของติดตัวทุกคนในอนาคตเหมือนกับการใส่นาฬิกาหรือเครื่องประดับอื่นๆ  เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมสำหรับนักคิดทุกคนที่เป็นกลไกสำคัญ  ทำให้เกิดแรงผลักดันให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง  เพราะไม่งั้นโลกนี้คงเฉาไม่น่าอภิรมณ์อะไรมากนัก  ขออย่างเดียวขอให้เขาอย่าหยุดคิด  เพราะเรารอจะชื่นชมร่มจากมันสมองของเขาอยู่

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]

ความหมายของ ร่ม สำหรับคนไทยแท้  มีความหมายในเชิงบวก เพราะเรามีความเชื่อว่าร่มเป็นของใช้ของเจ้านาย  การให้ร่มแก่ผู้ใหญ่จึงหมายถึงการให้เกียรติยกย่อง การเคารพนับถือว่าท่านอยู่ในระดับที่สูงกว่าเรา  การให้ร่มแก่คนที่อายุน้อยกว่า  หมายถึง การที่เรารักใคร่  ดูแลเอาใจใส่  มีความปรารถนาดีที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเขาได้ ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับคนไทยในการที่เราจะให้ร่มแก่คนที่เรารักและผู้ใหญ่ที่เรานับถือ

เมื่อร่มสื่อความหมายดีๆเช่นนี้  จึงได้มีการพบเห็นกันอยู่บ่อยๆว่าในงานมงคลต่างๆ  มักให้ร่มเป็นของชำร่วยแทนคำขอบคุณสำหรับแขกหรือญาติมิตรที่เราเชิญมาร่วมงาน  นอกจากนี้ผู้ผลิตสินค้าหลายแบรนด์  ก็ได้จัดร่มเพื่อเป็นของขวัญพรีเมี่ยมสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่ช่วยอุดหนุนสินค้ามาโดยตลอด  และมักใช้เป็นของขวัญล่อใจคนชื้อให้เข้ามาใช้บริการในครั้งแรก เพื่อทำความรู้จักกับตัวสินค้าของเรา  พร้อมกับจะได้รับของกำนัลเป็นร่มแสนสวยสารพัดประโยชน์กลับบ้านไปฟรีๆ เพียงเท่านี้คนรับก็ดีใจยิ่งกว่าได้ไปเที่ยวรอบโลกเพราะร่มเป็นของที่ใช้งานได้จริง  และใช้ได้ทันทีไม่ต้องรอรีเซ็ตระบบแต่อย่างใด  อีกทั้งมันเป็นของคู่บ้านคู่ครัวที่ทุกบ้านควรจะมีเอาไว้ใช้  และมันสามารถใช้ได้ในทุกโอกาสไม่ว่าจะฝนตก แดดออก ยามเช้ายามบ่ายยามค่ำ ร่มจึงเป็นที่ต้องการของทุกคน  และมันก็ใช้ได้ผลทุกครั้งที่สินค้าหลากแบรนด์นำมันมาเล่นรายการเพื่อกระตุ้นยอดขาย

แต่ถ้าในความหมายของชาวจีน ร่มกลับกลายเป็นสิ่งต้องห้ามในการที่จะส่งมอบให้กับคนที่เรารักและหวังดี  เพราะร่มในภาษาของจีน  (伞) ซึ่งอ่านออกเสียงว่า “ส่าน” ซึ่งพ้องสียงกับ  (散) ทีแปลว่าแตกแยก แยกทาง สูญเสีย ซึ่งความหมายเหล่านี้ไม่เป็นมงคลอย่างแรงในความเชื่อของคนจีน  และถือเป็นเรื่องเสียมารยาทอย่างที่สุดถ้าเราจะเอาร่มไปให้เป็นของขวัญกับผู้ใหญ่  เพราะนั่นเท่ากับเป็นการแช่งเขาทางอ้อม ถ้าให้ร่มกับเพื่อนก็แปลว่าเราจะเลิกคบกัน  ยิ่งถ้าให้กับแฟนเป็นการบอกถึงการขอยุติความสัมพันธ์ ทำไมร่มอยู่ในเมืองจีนถึงมีสภาพไม่ต่างกับตัวกาลกินี  ที่เข้าบ้านไหนก็แตกแยกกันไปหมด  คงไม่เลวร้ายขนาดนั้น  แค่คำพ้องเสียง  แต่ความเชื่อนี้ก็ถูกฝังอยู่ในหัวชาวจีนมานานเกินกว่าจะไปปรับเปลี่ยนอะไรได้

ยังไงซะในความเป็นคนไทยของเรา  ร่มก็ยังคงเป็นสิ่งดีๆที่เราจะหยิบยื่นให้กับคนที่เรารักและหวังดีเสมอ  เพราะถึงอย่างไรร่มก็ให้คุณมากกว่าโทษอยู่แล้วในแง่ของการใช้ประโยชน์  ไม่มีใครไม่ต้องการร่มในวันที่ฝนตก  ไม่มีใครอยากเดินตากแดดเปรี้ยงๆในเวลาเที่ยงวัน  ทุกคนต่างมองหาร่มและต้องการร่มกันทั้งนั้น  ฉะนั้นถ้าใครหยิบยื่นร่มให้เราในวันที่ท้องฟ้าอากาศไม่เป็นใจ  เราก็ย่อมต้องตอบรับเขาด้วยความรู้สึกดีและความขอบคุณจากใจ  ที่เขาคนนั้นห่วงใยเราในวันที่สภาพแวดล้อมรอบตัวแย่ไปหมด

หนังไม่รู้ซักกี่เรื่องที่ต้องมีซีน พระเอกนางเอกกางร่มอันเดียวกันเดินแนบชิดกันภายใต้ร่มอันแสนจะกะทัดรัด  และตอนจบของเรื่องเขาทั้งสองรักกันจนชั่วฟ้าดินสลาย  โรแมนติกมาก  แล้วก็ต้องยอมรับกับตัวเองเหมือนกันว่าในชีวิตนี้ขอมีซีนกางร่มกับชายในฝันซัก2 นาทีก็คงจะตายตาหลับ คงต้องซื้อร่มติดตัวไว้ตลอดสักอันละ

ผลงาน ร่มพรีเมี่ยม ร่มของขวัญ ร่มของชำร่วย ร่มที่ระลึก พร้อมทำโลโก้

เกิดมาเป็นร่มทั้งที  ก็ต้องเป็นร่มที่มีคุณค่าที่สุด

ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกล้วนต้องมีหน้าที่หลักสำคัญๆซักหนึ่งอย่าง  มันถึงจะเกิดคุณค่าในตัวของมันเอง  ไม่เว้นแม้กระทั่งร่มที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้  หากมองให้ดีมันก็เกิดมาเพื่อทำหน้ากันแดดกันฝนให้กับผู้ใช้เพียงเท่านั้น  แต่หากมองให้ลึกลงไปถึงแก่นแท้ของมัน  เราก็จะค้นพบเพิ่มเติมอีกว่ามันเกิดมาเพื่อกันแดด หรือว่ากันฝน  ซึ่งทั้งสองอย่างนี้แม้จะเป็นร่มเหมือนกันแต่ก็ให้ผลที่ไม่ท่ากันถ้าใช้ผ้าทำร่มคนละชนิดกัน

ที่จะต้องหยิบยกเรื่องของร่มมาพูด  เพราะความน่าสนใจของเจ้าร่มตัวนี้มันอออยู่ที่ว่าในอดีต มนุษย์ประดิษฐ์ร่มขึ้นมาเพื่อใช้ในการบังแดดเท่านั้น  เพราะหากมองไปที่การตั้งชื่อของร่ม  ร่มในภาษอังกฤษราใช้คำว่า Umbrella  ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษละตินว่า Umbra ซึ่งแปลว่า บังแดด   ร่มเกิดขึ้นในดินแดนแห่งทะเลทราย นามว่าดินแดนเมโสโปเตเมีย ซึ่งพื้นที่เหล่านี้เป็นทะเลทรายเกือบทั้งหมด นานๆทีจึงจะมีฝนตกลงมาให้ชื่นฉ่ำหัวใจ    ฉะนั้นการที่ร่มถือกำเนิดมาจากตรงนั้น  เป็นการยืนยันได้อย่างดีว่า ร่มถือกำเนิดเกิดมาเพื่อกันแดดพียงเท่านั้น     ต่อมาชาวอียิปต์ มีความเชื่อกันว่า ท้องฟ้าที่เราเห็นกันอยู่เป็นร่างกายของเทพธิดาองค์หนึ่ง นามว่า นัต ท้องฟ้านี้ได้ทำหน้าที่ปกคลุมผืนแผ่นดินและชีวิตมนุษย์รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆให้ได้รับร่มเงาของความร่มเงาของความร่มเย็นอันใหญ่ยักษ์  และการประดิษฐ์ร่มขึ้นมาก็เพื่อสร้างให้มันเป็นตัวแทนของเทพธิดาองค์นี้ และส่วนใหญ่คนที่จะได้ถือร่มอันนี้จะต้องเป็นผู้สูงศักดิ์เท่านั้นจึงจะคู่ควร  เช่น กษัตริย์เป็นต้น

ชาวกรีกก็ได้รับเอาวัฒนธรรมการใช้ร่มในชนชั้นสูงมาจากชาวอียิปต์มาเช่นกัน  ซึ่งในยุคแรกๆ คนที่จะได้รับเกียรติให้กางร่มต้องเป็นผู้ทรงอำนาจเท่านั้นนั้น  แต่มาในระยะหลังเริ่มลดดีกรีขอองความเชื่ออันนี้ลงไปมาก  และเริ่มมีคนธรรมดาพกพาร่มเดินไปไหนมาไหนกันบ้าง   แต่ส่วนใหญ่สิ่งเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่เกิดกับผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่  วัสดุที่ใช้ทำร่มในสมัยนั้นส่วนใหญ่จะทำมาจากกระดาษ  และต่อมาชาวกรีกก็ได้ค้นพบว่านอกจากร่มจะกันแดดได้แล้วมันยังช่วยกันฝนได้อีกด้วย   จึงเริ่มทำการทาน้ำมันลงบนตัวร่มที่เป็นกระดาษเพื่อให้มันมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดีอีกด้วย  แม้ผู้ชายส่วนใหญ่จะไม่เห็นความสำคัญของการกางร่ม  เพราะกลัวจะถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอเยี่ยงสตรี  จนในปี ค.ศ.1750 โจนาส แฮนเวย์ ชายหนุ่มชาวอังกฤษ และนับเป็นชายคนแรกที่ลุกขึ้นประกาศตัวว่าเขาจะเป็นผู้ชายแท้ที่พกร่ม ท่ามกลางความขบขันปนเย้ยหยันของชายคนอื่นๆในสังคมตอนนั้น  แต่โจนาสไม่ได้สนใจเอาความใดๆๆยังคงยืนยันพกร่มต่อไป  จนกระทั่งในที่สุดทุกคนต่างเปปิดใจยอมรับพฤติกรรมการกางร่มอันนี้ได้ในเวลาต่อมา  และร่มได้กกลายเป็นส่วนหนึ่งของชาวอังกฤษไปโดยอัตโนมัติ จนถึงทุกวันนี้

ตำนานร่มอันนี้ได้สอนให้เรารู้ว่า แม้ว่าร่มจะเกิดมาเพื่อกันแดด  แต่นัยยะที่แฝงอยู่คือมันสามารถกันฝนได้  เพียงแค่เรารู้จักที่จะเติมคุณค่าลงไป  ไม่ต่างอะไรกับคนที่สักวันอาจค้นพบว่าตัวเองยังทำประโยชน์อะไรได้อีกมากเพียงแค่รู้จักที่จะใส่คุณค่าลงไปให้กับตัวเอง หรือเราจะยอมแพ้ร่ม