CALL CENTER
    02-408-1377 (อัตโนมัติ 10 คู่สาย)

    blog

    ความแตกต่าง ระหว่างร่มกันฝน และร่มกันแด

    ร่มนั้นนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่ในหน้าฝน หรือในช่วงที่มีฝนตกบ่อยเพียงเท่านั้น ร่มยังสามารถใช้ในการกันแดด หรือบางคนใช้ในการกันลม หรืออาจเอาไปดัดแปลงทำเป็นอุปกรณ์แบบอื่นยังได้เลย ดังนั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้จึงมีความสำคัญมากกว่าการกันฝน...

    ร่มนั้นนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแค่ในหน้าฝน หรือในช่วงที่มีฝนตกบ่อยเพียงเท่านั้น ร่มยังสามารถใช้ในการกันแดด หรือบางคนใช้ในการกันลม หรืออาจเอาไปดัดแปลงทำเป็นอุปกรณ์แบบอื่นยังได้เลย ดังนั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้จึงมีความสำคัญมากกว่าการกันฝน ไม่เพียงแค่นั้น ร่มยังถูกประดิษฐ์ หรือถูกทำออกมาให้แตกต่างกันมากมายหลากหลายรูปแบบ เช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว หรือร่มสนาม เพื่อตอบรับกับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นเหล่านี้ และเพื่อให้มีความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้นด้วย

     

    ฟังก์ชันการใช้งานหลัก ของร่ม ที่หลายคนมักจะนำไปใช้ น่าจะเป็นการนำมากันฝน และการนำมากันแดดด้วย เป็นสองสิ่งที่เรามักจะใช้กันอยู่เสมอ แต่รู้หรือไม่ ว่ามีร่มที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้สามารถกันแดดได้โดยเฉพาะ แล้วมันแตกต่างจากร่มที่เราใช้ในการกันฝนอย่างไร แล้วแบบที่สามารถกันแดดได้ เรานำมากันฝนได้ด้วยหรือไม่ หรือนำมาทำอย่างอื่นได้ด้วยหรือไม่ วันนี้เราจะมาคุยกัน ในเรื่องของความแตกต่าง ระหว่างร่มที่เรานำมาใช้ในการกันฝน และนำมาใช้ในการกันแดด

     

    แบบที่ใช้สำหรับกันฝน

     

    แบบที่เราใช้สำหรับกันฝนนั้น เป็นแบบที่เราสามารถหาซื้อ และสามารถที่จะพบเจอได้โดยทั่วไปอยู่แล้ว มักจะมีมากในท้องตลาด เกือบจะทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ โดยแบบที่สามารถกันฝนได้ ก็อาจมีฟังก์ชันใช้ในการกันลมได้ แต่เราต้องแน่ใจว่า ร่มของเรามีความแข็งแรงมากพอ และแน่นอนว่า คุณสมบัติเด่นของแบบที่ใช้ในการกันฝน คือเรื่องของความแข็งแรงนี้เอง และขนาดของบริเวณผ้าก็สำคัญเหมือนกัน จำเป็นที่จะต้องมีขนาดใหญ่ บริเวณโครงก็ต้องมีความใหญ่ตามมาในระดับนึงด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถป้องกันเราจากการที่ฝนตกลงมาใส่ได้ ไม่เพียงแค่เรื่องฝนเท่านั้น บางครั้งหากฝนตกหนัก ก็อาจมีลมแรงตามมาด้วย ดังนั้นการออกแบบมาให้มีความแข็งแรงสูง จึงสามารถที่จะกันลม ในวันที่ฝนตกหนักๆ ได้ด้วย เช่น ร่ม 16 ก้าน

     

    ลักษณะการออกแบบและการนำเสนอ หากเป็นแบบที่ใช้ในการกันฝนโดยเฉพาะ เราอาจที่จะทำมันในรูปแบบใดก็ได้ แม้แต่แบบใสก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเราไม่จำเป็นต้องใช้ไปกันแดด การทำออกมาในรูปแบบใสนั้น จะเพิ่มความสวยงามให้อุปกรณ์ของเราเป็นอย่างมาก และเพิ่มความแปลกตา สามารถที่จะใช้ได้ในทุกสถานการณ์เลยทีเดียว นับว่าเป็นอะไรที่ดีและยอดเยี่ยมไม่น้อย

     

    แบบที่ใช้สำหรับกันแดด

     

    มีน้อยในท้องตลาด เพราะเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ และยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าไรนัก โดยปกติแล้วผู้คนทั่วไป หากจะนำไปใช้ในการกันแดด ก็มักจะใช้แบบที่กันฝนนั่นแหละในการกันแดด แต่แท้จริงแล้วมันถูกออกแบบมาให้มีลักษณะ และการใช้งานที่มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แบบที่ใช้สำหรับกันแดดนั้น จะมีคุณสมบัติโดดเด่นที่สำคัญอย่างหนึ่ง ที่แบบที่ใช้สำหรับกันฝนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำได้ นั่นคือการกันแสงแดดและกันรังสียูวี เช่น ร่มพับที่ผลิตจากผ้ายูวี เหตุผลที่สามารถกันรังสียูวีได้นั้น เนื่องจากบริเวณผ้า ที่ได้มีการเคลือบสาร สำหรับกันรังสียูวีไว้ และรังสียูวีนี้เองก็เป็นตัวร้าย พี่อาจจะทำร้ายผิวของเราได้

     

    แน่นอนว่าลักษณะการออกแบบและการนำเสนอ ก็จะมีข้อจำกัด และจะแตกต่างจากแบบที่กันฝนได้โดยสิ้นเชิง คือไม่สามารถทำสี่ใส่ได้แน่นอน ส่วนมากจะออกแบบมาให้มีสีสันสวยงาม เพื่อเป็นการบังแสงแดดไม่ให้เข้ามากระทบกับผิวของผู้ใช้งาน และหากถามว่า นำมากันฝนได้หรือไม่ หากมีความแข็งแรงมากพอก็น่าจะนำมากันได้เช่นเดียวกัน

    ว่าด้วยเรื่องของ การสกรีนร่ม

    ร่มเป็นอุปกรณ์ ที่นอกจากผู้คนจะซื้อมาใช้งานกันจริง แบรนด์ต่างๆ หรือบริษัทผลิตของต่างๆ ต่างใช้ร่มในการนำมาทำเป็นของสัมมนาคุณ ของแจก หรือของพรีเมี่ยมมากมายหลากหลาย ทั้งนี้ก็เนื่องจากการที่คนหยิบมาใช้งานร่มกันมากมายนี่เอง และการที่ผู้คนหยิบร่มมาใช้งาน...

    ร่มเป็นอุปกรณ์ ที่นอกจากผู้คนจะซื้อมาใช้งานกันจริง เช่น ร่มกลับด้าน ร่มพับ แบรนด์ต่างๆ หรือบริษัทผลิตของต่างๆ ต่างใช้ร่มในการนำมาทำเป็นของสัมมนาคุณ ของแจก หรือของพรีเมี่ยมมากมายหลากหลาย ทั้งนี้ก็เนื่องจากการที่คนหยิบมาใช้งานร่มกันมากมายนี่เอง และการที่ผู้คนหยิบร่มมาใช้งาน ไอเดียการนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมจึงดีมาก สามารถที่จะสร้างการมองเห็นให้กับคนจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากบนร่มพรีเมี่ยมเหล่านี้ จะมีการสกรีนชื่อบริษัท โลโก้ หรือสัญลักษณ์แสดงความเป็นองค์กร หรือแบรนด์นั้นอยู่

     

    แล้วการสกรีนร่มนั้น เขาทำกันอย่างไร มีอยู่ด้วยกันกี่แบบ วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของ เทคนิคในการสกรีนร่ม ว่าเราจะสกรีนร่มออกมาอย่างไร และแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร

     

    เทคนิคการสกรีน

     

    แค่การสกรีนนั้น ก็มีวิธีการในการทำมากมายหลากหลายเทคนิคแล้ว เช่นเดียวกับการสกรีนวัสดุอื่นๆ อย่างเสื้อผ้าหรือกระเป๋า แต่ละแบบก็จะให้ผลลัพธ์ ที่มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป หลักๆ จะมีวิธีการอยู่ประมาณ 3 แบบ ดังนี้

     

    เทคนิคการสกรีนด้วยบล็อกสกรีน หรือเรียกอีกชื่อว่า เทคนิคซิลค์สกรีน เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีความสะดวกสบายมากที่สุด มีการสกรีนได้ครั้งละจำนวนมากๆ อีกทั้งสีที่สกรีนออกมามีคุณภาพ และจะไม่หลุดลอกไปด้วย วิธีการเป็นการปาดสี โดยเริ่มจากการใช้บล็อกที่ขึงด้วยผ้าหรือฟิล์ม สำหรับสกรีนนั้นให้ตึง จากนั้นจะทำการใช้ไม้ปาดสี เพื่อให้ซึมผ่านลงไปในวัสดุที่เราต้องการ และทำการป่าวให้แห้ง วิธีการนี้เป็นวิธีการที่จำเป็นที่จะต้องใช้ความละเอียดเป็นอย่างสูง และเหมาะสำหรับการสกรีนที่ใช้สีไม่เกิน 3 สี

     

    เทคนิคการสกรีนด้วยระบบรีดร้อน ระบบนี้เป็นเทคนิคการสกรีนโดยจะเพิ่มลวดลายจากเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ต หรือเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ลงบนกระดาษ transfer ซึ่งจะสามารถนำไปรีดร้อน เพื่อให้หมึกติดลงบนวัสดุได้ จากนั้นก็จะทำการเคลือบด้วยแผ่นฟิล์ม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรักษาสีสันให้อยู่ได้ยาวนานคงทน เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับทำลวดลายที่มีความละเอียดอ่อน เพราะจะใช้สีได้ไม่จำกัด แต่มีค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ค่อนข้างสูง

     

    เทคนิคการสกรีนด้วยเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดยการพ่นหมึก เทคนิคนี้เป็นเทคนิคการสกรีนโดยจะใช้เครื่องพิมพ์ โดยเครื่องพิมพ์นั้นจะทำการพ่นหมึกลงบนวัสดุ ให้ออกมาได้รูปร่าง หรือลักษณะตามที่ต้องการ แน่นอนว่าเป็นเครื่องพิมพ์ ดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะใช้สำหรับงานที่มีลวดลายค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะการสกรีนโลโก้ เนื่องจากเครื่องพิมพ์จะทำงานตามคำสั่งอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสียังไม่ได้มีการผิดเพี้ยนไปมาก แต่การสกรีนรูปแบบนี้จะมีต้นทุนค่อนข้างสูงที่สุด กว่ารูปแบบอื่นๆ

     

    ประเภทของสีที่ใช้

     

    สีน้ำมัน เป็นสีที่มีคุณสมบัติทนทาน และมีการติดแน่น เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันเป็นหลัก ทำให้สีนั้นแห้งง่ายตามอุณหภูมิห้อง อีกทั้งยังสามารถที่จะปรับความเข้มข้นของสี เพียงแค่การเติมน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัสดุที่สีติดยาก โดยจะทำการใช้ร่วมกับสารเคลือบอื่นๆ เพื่อเพิ่มความเงาด้วยก็ได้

     

    สียาง เป็นสีที่มีคุณสมบัติโดดเด่น จะมีสีสันสดใส และมีความยืดหยุ่นสูง แต่จะทึบแสง เมื่อสกรีนลงบนวัสดุแล้ว จะมีลักษณะนูนขึ้นมา ทำให้เราสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่นูนขึ้นมาได้ และเหนือสิ่งนี้มักจะยืดหยุ่นตามวัสดุ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสกรีนลงบนผ้าโพลีเอสเตอร์

     

    สีจม เป็นสีที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของเนื้อสีที่มีความละเอียดสูง เมื่อสกรีนลงบนผ้า สีจะซึมลงไปในเส้นใยผ้าด้วย เนื้อสีจะมีลักษณะมีความโปร่งใส เมื่อสกรีนไปแล้วจะดูกลมกลืนเรียบเหรียญเป็นเนื้อเดียวกันกับวัสดุ เหมาะสำหรับวัสดุที่มีสีอ่อน อย่างวัสดุสีขาว หรือสีครีม

     

    สีลอย จะเป็นสิ่งที่มีความละเอียดน้อยกว่าสีจม เมื่อนำไปสกรีนแล้วจะสัมผัสได้ถึงเนื้อสีที่นูนขึ้นมา และมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า เมื่อดึงเนื้อผ้าที่สกรีนจะเห็นรอยแยกของสี ทำให้เหมาะจะสกรีนลงบนวัสดุสีเข้ม

     

    สีนูน เป็นสีที่มีคุณสมบัติที่ผิวสัมผัสค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากในกระบวนการ จะนำสีไปผสมกับ สารที่ทำให้เนื้อสีฟู และจะนำไปอบด้วยความร้อน เราจะสามารถสัมผัสได้ถึงเนื้อสีที่นูนขึ้นมาแบบ 3 มิติเลยทีเดียว

     

    ร่มที่นำมาสกรีนนั้น สามารถทำได้ทุกร่ม ไม่ว่าจะเป็น ร่มสนาม ร่มกอล์ฟ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

    เรื่องควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อร่มสนาม

    ร่มสนามนั้น เป็นร่มที่ค่อนข้างมีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยเหมาะสมอย่างยิ่งกับการใช้งานสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ หรืออาจเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ท หรือแม้กระทั่งใช้ในการออกบูธ หรือนำไปใช้ในการกางเต็นท์ นอนอาบแดดที่ชายหาดก็ยังได้เหมือนกัน...

    ร่มสนามนั้น เป็นร่มที่ค่อนข้างมีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยเหมาะสมอย่างยิ่งกับการใช้งานสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ หรืออาจเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ท หรือแม้กระทั่งใช้ในการออกบูธ หรือนำไปใช้ในการกางเต็นท์ นอนอาบแดดที่ชายหาดก็ยังได้เหมือนกัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยคุ้นชินกับร่มชนิดนี้มากนัก แต่อย่างที่เห็นว่า ประโยชน์ของเขามากมายเลยทีเดียว

     

    ก่อนหน้านี้เราเคยพูดถึง ร่มพับ หรือ ร่มตอนเดียว ดังนั้นวันนี้เราจะมาชวนคุยกัน ว่าถ้าหากเรานั้น อยากจะซื้อร่มสนามสักคัน เราจะมีวิธีการเลือกอย่างไร เพื่อที่จะสามารถซื้อมาแล้วได้ใช้งานจริง และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

     

    รู้จักแต่ละประเภทก่อน

     

    ถึงแม้จะเป็นร่มสนามเหมือนกัน แต่รู้หรือไม่ว่า อุปกรณ์ชนิดนี้มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายประเภท โดยอุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดอยู่ 3 ประเภท นั่นคือร่มสนามทรงกลม 8 ช่อง ร่มสนามทรงสี่เหลี่ยม 4 ช่อง และร่มสนามทรงสี่เหลี่ยม 8 ช่อง โดยทั้งสามชนิดนี้ ก็มีขนาดแตกต่างกันอยู่อีก โดยจะมีด้วยกันตั้งแต่ขนาดเล็ก ซึ่งมีความกว้างอยู่ที่ 36 นิ้ว ขนาดกลาง ความกว้างอยู่ที่ 40-45 นิ้ว และขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีความกว้างอยู่ที่ 60 นิ้ว นอกจากนี้แล้ว เรายังต้องรู้ด้วยว่า อุปกรณ์แต่ละแบบนั้น มีที่ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกันมากมาย อย่างเช่นผลิตจากไม้ หรือผลิตจากเหล็ก ซึ่งทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปอีก

     

    เราจะนำไปใช้งานกับขาตั้งแบบใด

     

    เราน่าจะรู้กันว่า เนื่องจากอุปกรณ์ชนิดนี้เป็นอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องใช้งานร่วมกับขาตั้งเสมอ ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะซื้อพร้อมกันเป็นเซ็ตไปเลย แต่หากเราไม่ได้ซื้อมาพร้อมกัน เราจำเป็นต้องรู้ก่อนว่า อุปกรณ์ชนิดนี้ที่เราซื้อนั้น เราจะนำไปใช้งานกับขาตั้งแบบใด โดยปกติแล้ว ขาตั้งนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ๆ นั่นคือขาตั้งแบบพับเก็บได้ และขาตั้งแบบที่ไม่สามารถพับเก็บได้ โดยทั้งสองประเภทนี้ ก็จะมีแบบขาตั้งที่แยกย่อยออกไปอีกมากมาย

     

    ขาตั้งแบบพับเก็บได้นั้น สามารถแบ่งแยกย่อยไปได้อีก 3 แบบ ได้แก่ ขาตั้งแบบ 4 ขาชุบซิงค์แบบบาง ขาตั้งแบบ 4 ขาชุบซิงค์แบบหนา และขาตั้งแบบ 4 ขาชุบโครเมี่ยม ขาตั้งแบบไม่สามารถพับเก็บได้ ก็จะสามารถแบ่งแยกย่อยออกไปได้ 2 แบบ นั่นคือ ขาตั้งแบบแพขนาดเล็ก และขาตั้งแบบแพขนาดใหญ่

     

    การเลือกขาตั้งให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ของเรา เราควรพิจารณาจากขนาด หากอุปกรณ์ของเรามีขนาดเล็ก เราสามารถเลือกใช้งานร่วมกับขาตั้งแบบใดก็ได้ แต่หากเป็นอุปกรณ์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ เราก็จะต้องมาดูกันอีกที

     

    เราจำเป็นต้องรู้ว่า เราจะนำอุปกรณ์ไปใช้งานแบบใด

     

    สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้แน่ชัดเลยเกี่ยวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์สนามพร้อมขาตั้งของเรานั่นก็คือ เราจะนำอุปกรณ์นี้ไปใช้งานในลักษณะใด และมีจุดประสงค์การใช้งานแบบ ยกตัวอย่างเช่น หากเรานำอุปกรณ์ของเรามาใช้ในงานกิจกรรม ที่จัดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หรือเป็นงานชั่วคราวเพียงเท่านั้น และอาจใช้สถานที่ไม่กว้างมาก หรือมีจำนวนคนมาร่วมงานไม่มาก เราอาจเลือกเป็นแบบขนาดเล็กหรือขนาดกลางได้ และอาจดูเป็นขาตั้งแบบพับเก็บได้ เพื่อที่จะสามารถที่จะขนย้ายได้อย่างสะดวกสบาย แต่หากกิจกรรมที่เราจะนำไปใช้นั้น เป็นกิจกรรมที่เราไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายอะไรไป ต้องการที่จะตั้งอยู่กับที่ อาจเลือกอุปกรณ์สนาม คู่กับขาตั้งแบบแพ เพราะสามารถที่จะรับน้ำหนักได้ และมีความมั่นคงแข็งแรงมากกว่า จะเห็นได้ชัดเลยว่าร่มสนาม ก็มีความสำคัญไม่แพ้พวก ร่มตอนเดียว หรือ ร่มพับ เพียงแต่แค่นำไปใช้ต่างกัน

     

    เรื่องงบประมาณก็สำคัญ

     

    สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณาเป็นอันดับแรกๆ ในการเลือกซื้อเลย นั่นคือเรื่องของงบประมาณที่เรามี สำหรับใช้ในการลงทุนกับอุปกรณ์สนามต่อคัน หากเราต้องการซื้อในปริมาณมาก เราจำเป็นต้องดูงบประมาณในกระเป๋าของเราด้วย เพื่อที่จะได้จัดสรรจำนวนตามความเหมาะสมในการใช้งาน

    ร่มกันยูวี ตัวเลือกที่ดีกว่าในการกันแดด

    อุปกรณ์สำคัญอย่างร่มนั้น มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ใช้กันปกติ แบบที่สามารถพับเก็บได้ หรือแบบที่มีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้ และก็มีร่มชนิดหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ที่จะนำมาใช้งาน หรือไม่ก็อาจนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยม...

    อุปกรณ์สำคัญอย่างร่มนั้น มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ใช้กันปกติ แบบที่สามารถพับเก็บได้ หรือแบบที่มีขนาดใหญ่ สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้ และก็มีร่มชนิดหนึ่ง นอกจาก ร่มใส ร่มพัดลม ร่มกลับด้าน ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ที่จะนำมาใช้งาน หรือไม่ก็อาจนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยม หรือของแจกได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ร่มกันยูวี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างมาแรงในการกันแดดเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาคุยกันถึงร่มชนิดนี้

     

    เหตุใด ร่มกันยูวีจึงเป็นทางเลือกที่ดี

     

    เหตุผลแรกที่ร่มกันยูวีเป็นทางเลือกที่น่าสนใจก็คือ ตรงตามชื่อเลย มันสามารถที่จะกันรังสียูวีจากแสงแดด อยู่ที่มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ และแน่นอนว่าป้องกันมะเร็งผิวหนังได้ด้วย ร่มแบบธรรมดา ก็อาจที่จะสามารถกันรังสียูวีได้ในระดับหนึ่ง แต่หากเป็นร่มที่ใช้สำหรับกันยูวีโดยเฉพาะแล้ว มีตัวเลขที่น่าสนใจคือ  สามารถที่จะกันรังสียูวีได้มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งอย่างที่เรารู้ ถึงความอันตรายของรังสียูวี เป็นสาเหตุที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ นอกจากนี้แล้ว ยังไปทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้อาจเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือจุดด่างดำของผิวหนังได้ นอกจากนี้ ร่มกันยูวียังลดความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายต่อดวงตาของผู้ใช้ได้ เนื่องจากยูวีในแสงแดดนั้น อาจทำให้เกิดความเสี่ยงกระจกตาอักเสบ ต้อกระจก ต้อเนื้อ หรือต้อลมได้

     

    และที่สำคัญ สามารถที่จะกันความร้อนได้ดีกว่าแบบทั่วไปอีกด้วย โดยได้มีการนำทดลอง ได้นำแบบที่สามารถกันรังสียูวีได้ มาตากแดด พบว่า อุณหภูมิที่อยู่ภายใต้ จะต่ำกว่าอุปกรณ์กันแดดแบบทั่วไปที่ไม่ได้เคลือบกันยูวี อยู่ที่ประมาณ 2-4 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

     

    นอกจากนี้ยังมีอีกประโยชน์ที่น่าสนใจ คือสามารถที่จะนำไปดัดแปลงทำอย่างอื่นได้ นอกจากจะสามารถกันแดดกันฝนได้แล้ว สำหรับช่างภาพมืออาชีพ ยังสามารถนำไปใช้ในการเป็นรีเฟล็กซ์ถ่ายรูปได้ โดยไม่ต้องใช้รีเฟล็กซ์ที่ใช้ในสตูดิโอ เรียกว่าเป็นการดัดแปลงที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก

     

    ไม่ใช่แค่สามารถกันยูวีได้

     

    อัตราการกันรังสียูวี สามารถที่จะกันรังสีได้ถึงระดับ UPF99 หรือก็คือคิดเป็น SPF120 เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังสามารถที่จะกันรังสีจากแสงแดดอื่นๆ รวมถึงสามารถที่จะกันความร้อนได้ในระดับที่มากกว่าปกติ อีกทั้งยังสามารถที่จะช่วยลดอุณหภูมิภายใต้ได้อีกด้วย สามารถที่จะลดอุณหภูมิภายใต้ได้มากถึง 2-4 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว

     

    วิธีการเลือก อุปกรณ์กันแดดแบบกันรังสียูวีและความร้อน

     

    ต่อไปจะเป็นวิธีการในการเลือก ในขั้นต้นนั้น การเลือกจะไม่ได้แตกต่างจากแบบปกติมากเท่าไหร่นัก คือ ดูวัสดุที่ใช้ในการทำก่อนเป็นอันดับแรก ให้มั่นใจว่า วัสดุที่นำมาใช้ในการทำ จะมีความแข็งแรง และไม่เกิดสนิมหรือผุพังได้ง่าย และเลือกขนาดที่พอเหมาะพอดีกับตัวเรา หรืองานที่เราจะนำไปใช้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก

     

    และที่มีความสำคัญที่สุด ในการเลือกอุปกรณ์กันแดดแบบกันรังสียูวี คือส่วนของผ้า ที่นำมาใช้ในการทำ สำคัญที่สุดคือ ต้องมีการเคลือบกันรังสียูวีไว้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าผ้านั้นมีการเคลือบกันรังสียูวี อย่างง่ายที่สุด ให้นำไปทดลองกลางดูเลย หากมีเวลามากพอ ให้นำน้ำใส่ลงไปในแก้ว โดยน้ำนั้นเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง แล้วนำไปตั้งไว้กลางแดด จากนั้นนำอุปกรณ์กันแดดมากาง ทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง ให้นำเทอร์โมมิเตอร์มาวัด หรือหากไม่มี อาจใช้วิธีการ เอามือไปจุ่ม หากอุณหภูมิยังคงคงที่เหมือนเดิม หรืออาจมีการลดลง แปลว่าอุปกรณ์กันแดดนี้ได้คุณภาพ

    ร่มที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น อันตรายกว่าที่คุณคิด

    ร่มเป็นอุปกรณ์ของใช้ที่สำคัญ ที่แทบจะทุกบ้านต้องมีติดไว้เสมอ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้เราหยิบมาใช้งานกันบ่อยมาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ที่ฝนตกบ่อย เราจึงจำเป็นจะต้องพกร่มออกจากบ้านอยู่เสมอ แต่ไม่ใช่ในเพียงแค่วันฝนตกเท่านั้น...

    ร่มเป็นอุปกรณ์ของใช้ที่สำคัญ ที่แทบจะทุกบ้านต้องมีติดไว้เสมอ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้เราหยิบมาใช้งานกันบ่อยมาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ที่ฝนตกบ่อย เราจึงจำเป็นจะต้องพกร่มออกจากบ้านอยู่เสมอ แต่ไม่ใช่ในเพียงแค่วันฝนตกเท่านั้น หลายคนยังพกร่มออกไปนอกบ้านทุกวัน ในวันที่มีแดดแรง หรืออาจใช้ในการกันลมก็ได้ด้วยและร่มก็ยังมีหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกใช้ได้ตามสถานการณ์หรือว่าตมที่เราต้องการก็จะมีอย่างเช่น ร่มพับ ร่มกอล์ฟ ร่มตอนเดียว และร่มอีกหลายประเภท

     

    อุปกรณ์สุดแสนสำคัญชิ้นนี้ก็เหมือนอุปกรณ์ของใช้อื่นๆ ที่เราควรจะตรวจสอบการใช้งานอยู่สม่ำเสมอ อีกทั้งจำเป็นต้องระวังไม่ให้เกิดความเสียหายของของใช้ของเราด้วย หรือเมื่อเสียหายแล้ว เราก็ไม่ควรหยิบร่มของเราเอามาใช้งาน หรือไม่ก็ควรที่จะซ่อมแซมเสียก่อน เนื่องจากเราหยิบสิ่งนี้มาใช้งานกันอยู่บ่อยๆ ดังนั้นร่มจึงเป็นของที่มักจะเสียหายได้ง่าย

     

    วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของร่มที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งไม่ได้มาตรฐานอันเกิดจากการที่เราซื้อมาแบบที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่แล้ว หรืออาจจะเป็นการไม่ได้มาตรฐานเนื่องจากเราหยิบมาใช้งานจนพังเสียหาย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การที่เราหยิบร่มไม่ได้มาตรฐานมาใช้งานนั้นส่งผลเสียมากกว่าที่เราคิด และอาจเกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานด้วย

     

    โครงสร้างที่ไม่แข็งแรง

     

    เรื่องของโครงสร้างเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่เราจำเป็นจะต้องคำนึงถึง หากโครงสร้างของร่มไม่แข็งแรงแล้ว แน่นอนว่าจะใช้งานได้ไม่ทน ใช้งานเดี๋ยวเดียวก็อาจเกิดความเสียหายได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของด้ามจับ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เรานำไว้ใช้จับ หรือนำไว้ใช้เกี่ยวเพื่อเก็บร่ม หากโครงสร้างส่วนนี้ไม่ได้มาตรฐานแล้ว แน่นอนว่าเวลาหยิบจับก็อาจจะไม่สะดวก หรืออาจทำให้เกิดการชำรุดในขณะที่ถือแล้วทำหลุดมือได้ หรืออาจบริเวณโครงที่ไม่แข็งแรง ซึ่งโครงเป็นส่วนที่ค่อนข้างมีความสำคัญ เรียกได้ว่ามีความสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ หากส่วนนี้ไม่แข็งแรงแล้ว อุปกรณ์ของเราจะใช้งานได้อย่างไม่คงทน ไม่สามารถทนต่อฝน หรือลมแรงๆได้เลย ซึ่งน่าจะไม่ดีต่อการหยิบมาใช้งานมากนัก

     

    การชำรุดอันเกิดจากการใช้งาน

     

    อันนี้จะเป็นในกรณีของการที่อุปกรณ์ของเราชำรุดเสียหายอันเกิดจากการที่เราใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งการฝืนทนใช้ต่ออาจจะทำให้อุปกรณ์ของเราเสียหายหนักขึ้นไปอีก ซ้ำร้ายอาจเกิดอันตรายต่อตัวผู้ใช้งานอีกด้วย อย่างบริเวณผ้าที่อาจมีการขาด การชำรุดได้ อาจจะทำให้ฝนตกใส่ตัวผู้ใช้งาน แผนที่ตัวอุปกรณ์จะนำไว้ใช้สำหรับกันฝนได้ หรือหากถึงขั้นเลวร้ายกว่านั้น หากบริเวณโครงเกิดความเสียหาย อาจมีการทิ่มแทง หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ซึ่งสิ่งนี้เป็นอันตรายต่อตัวผู้ใช้งานอย่างแน่นอน ดังนั้นทางที่ดีควรจะซ่อมแซมก่อนที่จะนำมาใช้ซ้ำ หรือหากชำรุดมากๆ การซื้อใหม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

     

    วัสดุที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน

     

    วัสดุที่ใช้ในการทำก็เป็นจุดสังเกตที่สำคัญในขณะที่เราเลือกซื้อ เพราะหากใช้วัสดุที่ไม่แข็งแรง แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือการชำรุดง่าย โดยเฉพาะบริเวณโครง หากวัสดุที่ใช้เป็นวัสดุเกรดต่ำ อาจจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ทน โดนลมแรงนิดหน่อยก็จะชำรุด หรืออาจจะกันฝนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ อีกอย่างอาจจะเกิดการขึ้นสนิมอย่างรวดเร็ว หากชำรุดเราอาจจะต้องเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ ทำให้เสียเงินซ้ำซ้อนได้ หรือหากแย่ไปกว่านั้นอาจเกิดอุบัติเหตุต่อตัวผู้ใช้งานได้ด้วย

     

    ราคาถูกจนเกินไป

     

    ของที่มีราคาถูกนั้นเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งหลายคนก็น่าจะชอบ แต่หากเป็นของที่ถูกมากจนเกินไป เราก็น่ามาตั้งข้อสังเกตเหมือนกัน ว่าเหตุใดจึงถูกได้ขนาดนี้ อาจเกิดจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือวัสดุที่ใช้เป็นวัสดุเกรดต่ำราคาถูก ซึ่งจะส่งผลเสียในขณะที่เราใช้งานอย่างแน่นอน ดังนั้นควรเลือกซื้อในราคาที่สมเหตุสมผลน่าจะดีกว่า

     

    ข้อดีข้อเสียและวิธีเลือกใช้งานร่มพับแต่ละแบบ

    แม้ว่าลักษณะพื้นฐานของตัวสินค้า ร่มดูจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้มีลักษณะที่ซับซ้อนอะไร อีกทั้งประโยชน์ใช้งานก็เรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่มีประโยชน์ใช้งานแสนธรรมดา คือกางใช้งานเพื่อกันฝน หรือกันแดด แต่หากมองในแง่การผลิต และแนวคิดการออกแบบ...

    แม้ว่าลักษณะพื้นฐานของตัวสินค้า ร่มดูจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้มีลักษณะที่ซับซ้อนอะไร อีกทั้งประโยชน์ใช้งานก็เรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่มีประโยชน์ใช้งานแสนธรรมดา คือกางใช้งานเพื่อกันฝน หรือกันแดด แต่หากมองในแง่การผลิต และแนวคิดการออกแบบ ซึ่งมีความสัมพันธ์กันกับการพับเก็บตัวสินค้าหลังการใช้งานก็ต้องถือว่าเป็นสินค้าอีกชิ้นที่มีความซับซ้อนในส่วนโครงสร้าง และยืดหยุ่นในเรื่องของขนาดสินค้ามากทีเดียว โดยขณะกางใช้งานสินค้าแต่ละแบบ แต่ละรุ่นอาจมีรูปทรงที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่เมื่อพับเก็บกลับมีขนาดที่แตกต่างกันไปตามรูปทรงและรูปแบบการพับเก็บของโครงร่ม

    ทั้งนี้รูปแบบการพับเก็บโครงร่มที่ผู้ผลิตนิยมใช้เป็นต้นแบบในการออกแบบและผลิตสินค้าในปัจจุบันก็มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน โดยหลักๆจะแบ่งตามจำนวนตอนในการพับเก็บ ซึ่งจำนวนตอนในการพับเก็บที่มากน้อยต่างกันนั้นก็ทำให้ตัวสินค้ามีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันไปด้วย ในบทความนี้จึงจะอธิบายถึงข้อดีข้อเสียของร่มแต่ละแบบที่มีรูปแบบการพับเก็บที่แตกต่างกัน เพื่อให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกหาใช้งานสินค้าชนิดนี้ หรือกระทั่งใช้เป็นแนวทางในการเลือกออกแบบและผลิตสินค้าชิ้นนี้เพื่อใช้งานเป็นสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับบริษัท องค์กรของตัวเอง

    จำนวนตอนในการพับเก็บมีผลต่อความแข็งแรงของตัวร่มตอนเดียว โดยทั่วไปแล้วจำนวนตอนในการพับเก็บถือได้ว่ามีผลต่อความแข็งแรงของตัวสินค้าโดยตรง ยิ่งจำนวนตอนในการพับเก็บน้อยสินค้าก็มีแนวโน้มที่จะมีความแข็งแรงมั่นคง ตรงกันข้ามหากจำนวนตอนในการพับเก็บมาก สินค้าก็มีแนวโน้มที่จะชำรุด เสียหายได้ง่าย โดยจำนวนตอนในการพับเก็บร่มตามดีไซน์มาตรฐานทั่วไปจะมีดังนี้

    แบบพับเก็บ 2 ตอน โดยจะเป็นลักษณะการดึงพับเก็บเข้ามาหาตัวครั้งเดียว ซึ่งร่มลักษณะนี้ถือได้ว่าได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีความมั่นคงแข็งแรงดี โดยเฉพาะการใช้งานเพื่อกางกันฝนนั้นนับว่ามีความทนทานต่อแรงลมได้ดีในระดับนึง แต่ขณะเดียวกันร่มประเภทนี้ก็มีข้อเสียตรงที่เมื่อพับเก็บแล้วสินค้าก็ยังคงมีขนาดที่ใหญ่ เพราะเป็นลักษณะพับเก็บโครงแค่ 2 ตอนตามกล่าว ทำให้หลายคนอาจรู้สึกไม่ค่อยสะดวกในการจัดเก็บหลังการใช้งาน หรือพกติดตัวไปยังสถานที่ต่างๆ

    แบบพับเก็บ 3 ตอน ร่มพับที่มีดีไซน์การพับเก็บโครงแบบ 3 ตอน ถือได้ว่ามีข้อดีเรื่องของขนาดเมื่อพับเก็บหลังการใช้งาน ซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่าแบบ 2 ตอนชัดเจน เพราะโครงร่มถูกออกแบบมาให้พับได้ 3 ตอน จึงเป็นร่มที่สามารถพกพาได้สะดวก สามารถเก็บใส่กระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าผ้าขนาดมาตรฐานทั่วไปได้ แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ความมั่นคงแข็งแรงของตัวสินค้าไม่มากเท่ากับแบบพับ 2 ตอน หากเป็นการใช้งานในลักษณะกางกันฝน ซึ่งอาจปะทะกับลมแรงในเวลาเดียวกันด้วยก็มีความเสี่ยงที่โครงร่มจะหลุดตามรอยต่อการพับได้ ในแง่ความเหมาะสมกับการใช้งานจึงอาจเรียกได้ว่าเป็นร่มที่เหมาะสำหรับใช้กางเพื่อกันแดดมากกว่า

    แบบพับเก็บ 5 ตอนหรือร่มกอล์ฟร่มดีไซน์แบบพับเก็บโครง 5 ตอนนี้ก็ชัดเจนว่าเป็นการออกแบบมาเพื่อเน้นข้อดีเรื่องขนาดและการพกพา ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพับเก็บสินค้าจะมีขนาดที่เล็กกว่าทั้งแบบ 2 ตอน และ 3 ตอน ทำให้พกพาติดตัวไปใช้งานได้อย่างสะดวก แต่ก็มาพร้อมข้อเสียในเรื่องความแข็งแรงของตัวสินค้าที่ดูจะเหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อกันแดดในสภาพอากาศที่นิ่ง ไม่มีลมแรงเท่านั้น

    ประโยชน์อื่นของร่ม ที่มากกว่าแค่กันแดดกันฝน

    ร่มนั้นนับว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราใช้งานกันทั่วไป เราใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการกันแดดกันฝน สิ่งนี้ถูกออกแบบมาให้พกพาได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันมีร่มให้เราเลือกใช้งานกันหลากหลายรูปแบบมาก...

    ร่มนั้นนับว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราใช้งานกันทั่วไป เราใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการกันแดดกันฝน สิ่งนี้ถูกออกแบบมาให้พกพาได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันมีร่มให้เราเลือกใช้งานกันหลากหลายรูปแบบมาก สามารถที่จะใช้งานได้ตามความเหมาะสมและความสะดวกสบายเลย นอกจากแบบที่สามารถพกพาได้แล้ว ยังมีร่มสนามขนาดใหญ่ ที่ใช้ในการตั้งเพื่อออกบูธ หรือออกงานต่างๆ ที่สำคัญอีกด้วย

     

    เรารู้กันดีถึงคุณประโยชน์ของร่ม ที่ใช้ในการกันแดดกันฝน หรือบางครั้งอาจใช้ในการกันลมได้ แต่รู้หรือไม่ว่า อุปกรณ์ชิ้นนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย และวันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของ ประโยชน์อื่นของร่ม ที่มากกว่าการกันแดดและกันฝน อีกครั้งยังเป็นการนำสิ่งนี้มาดัดแปลง เพื่อสามารถนำมาใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกด้วยส่วนมากก็จะเป็นร่มตอนเดียว ร่มกอล์ฟ ร่มกลับด้านเพราะมีขนาดที่ใหญ่และโครงเหล็กแข็งเเรง

     

    สามารถใช้เป็นของตกแต่งหรือของประดับบ้านได้

     

    หลายคนอาจเคยเห็นร้านอาหาร หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายที่ นำร่มมาใช้ในการเป็นเครื่องประดับตกแต่งสถานที่ หรืออาจนำมาตกแต่งร้านอาหารต่างๆ มากมาย ด้วยสีสันที่หลากหลายและมีความสวยงามนี้เอง ทำให้สามารถตกแต่งออกมาดูดีได้ไม่ยาก สามารถที่จะสร้างอารมณ์ต่างๆ ขึ้นมาได้ โดยอาจนำร่มหลายๆ คัน มาประดับตกแต่งไว้บริเวณผนังหรือหลังคา หรืออาจน้ำมันติดไฟเพิ่มเติมก็ดูสวยงามไปอีกแบบเหมือนกัน

     

    นำมาทำเป็นโคมไฟสวยๆ

     

    ร่มยังสามารถนำมาทำเป็นโคมไฟสวยๆ นำมาห้อยเพดานห้องของเราได้ด้วย โดยอาจนำมาทำเป็นโคมไฟได้หลากหลายวิธีด้วยกัน อาจจะนำมาทำการเจาะรู เพื่อให้แสงลอดมาเป็นโคมไฟสวยงาม หรือนำมาเจาะรูเพื่อให้สะท้อนกับสีของตัวร่ม สร้างบรรยากาศก็ดูสวยงามไปอีกแบบ หรืออาจนำบริเวณผ้าออก ให้เหลือแต่โครงแล้วนำมาทำเป็นโคมไฟก็ยังสวยงามอยู่ดี

     

    นำมาทำเป็นกันสาดกันฝนได้

     

    ในเมื่อเราสามารถใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ในการกันฝนได้ ดังนั้นจึงสามารถนำมาดัดแปลง เพื่อทำเป็นกันสาดใช้กันฝนได้ด้วยเช่นกัน โดยการนำบริเวณผ้า มาทำเป็นกันสาด หรือนำมาใช้ในการป้องกันการรั่วซึมเฉพาะจุดของหลังคาบ้านของเราได้

     

    นำมาใช้เป็นไม้แขวนเสื้อ หรือไม้ตากผ้าได้

     

    ข้อนี้จะเป็นการนำบริเวณส่วนโครงมาใช้งาน ซึ่งเป็นวิธีการที่สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว โดยจะนำบริเวณผ้าออก แล้วนำบริเวณโครงหนีมาดัดแปลงเป็นไม้แขวนเสื้อ หรือไม้ไว้ใช้สำหรับตากผ้า ด้วยลักษณะของส่วนโครงที่เป็นแฉกอยู่แล้ว จึงสามารถนำมาดัดแปลงทำเป็นอุปกรณ์ตากผ้าได้ไม่ยาก

     

    นำมาเป็นไม้เท้า

     

    อันนี้น่าจะเห็นกันอยู่บ้าง โดยการนำอุปกรณ์ชนิดนี้ที่ค่อนข้างมีความแข็งแรง มาใช้เป็นตัวช่วยในการพยุงเดินของคนแก่ได้ ตี๋อาจนำมาใช้เป็นไม้เท้าเดินก็ยังได้ ด้วยบริเวณส่วนด้ามจับนั้น มีแบบที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้เป็นไม้เท้าพยุงได้เลย หรือไม่ก็มีอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ 2 ฟังก์ชัน สามารถใช้เป็นไม้เท้าได้ในตัวเลยก็มีให้เห็นอยู่เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างมีความแข็งแรงด้วย

     

    นำมามอบเป็นของขวัญ หรือของที่ระลึกได้

     

    ของขวัญหรือของที่ระลึกนั้น ส่วนมากจะมอบเป็นของที่สามารถหยิบมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย อุปกรณ์ชนิดนี้เรียกได้ว่าตอบโจทย์การเป็นของขวัญและของที่ระลึกเป็นอย่างมาก ซึ่งสามารถหยิบมาใช้งานได้ในทันที และไม่ต้องกลัวว่าจะซ้ำกับใคร มีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบให้เราเลือก อยู่ที่เราชอบแบบไหนเลย

     

    บริเวณด้ามจับ นำมาทำเป็นที่ห้อยได้

     

    โดยปกติแล้วบริเวณด้ามจับจะมีลักษณะโค้งงออยู่แล้ว ดังนั้นจึงสามารถนำมาดัดแปลงทำเป็นที่ห้อยได้ อาจนำมาเป็นที่แขวนเสื้อเชิ้ตชั่วคราว หรือนำมาแขวนสิ่งอื่นๆ ได้มากมายหลากหลายเลยทีเดียว

     

    วิธีการในการวัดขนาดของร่ม

    ร่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายขนาดและหลากหลายรูปแบบ การที่เราจะเลือกซื้อร่มแต่ละแบบนั้น แน่นอนว่าลักษณะการใช้งานที่เราจะนำไปใช้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะเลือก แต่อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ที่เราจำเป็นจะต้องดูเมื่อเราต้องการจะเลือกซื้อร่มสักคัน...

    ร่มนั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายขนาดและหลากหลายรูปแบบ การที่เราจะเลือกซื้อร่มแต่ละแบบนั้น แน่นอนว่าลักษณะการใช้งานที่เราจะนำไปใช้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะเลือก แต่อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ที่เราจำเป็นจะต้องดูเมื่อเราต้องการจะเลือกซื้อร่มสักคัน คือในเรื่องของขนาด โดยเฉพาะร่มที่เรามักจะนำมาใช้ในการออกงาน หรือที่เรียกว่าร่มสนาม เพราะหากเราซื้อมามีขนาดไม่พอดี ใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป เราก็อาจที่จะมีปัญหาในการใช้งานได้

     

    ดังนั้นเราจะมาว่ากันด้วยเรื่อง การวัดขนาดร่ม ว่าเราจะสามารถวัดขนาดร่มอย่างไร เพื่อที่สามารถซื้อมาให้ถูกลักษณะการใช้งาน และสะดวกสบายในการพกพาหรือขนย้ายอีกด้วย ในที่นี้จะขอเน้นไปที่แบบสนาม แบบที่นิยมขนย้ายไปไหนมาไหนได้บ่อยๆ เพื่อใช้ในการออกบูธ หรือใช้ในการทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ดีอย่างเช่น ร่มกอล์ฟ ร่มพับ ร่มตอนเดียว และร่มอื่นๆอีกมากมาย

     

    เราจะสังเกตแบบอื่นๆ นั้นจะมีหลากหลายขนาดให้เราเลือกกันอยู่แล้ว แต่แบบสนามนั้น เป็นแบบที่เราจำเป็นต้องวัดอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่เราจะทำการหาซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเราต้องการสั่งทำเป็นพิเศษจากบริษัทมืออาชีพที่เขารับผลิตอยู่

     

    วัดขนาดตามความโค้งของร่ม

     

    อันดับแรกเลยที่เราจะต้องมาให้ความสำคัญคือ เราควรวัดความโค้ง ขั้นตอนแรกให้เราทำการกางร่มเอาไว้ก่อน จากนั้นก็ทำการวางลงบนพื้นโดยที่วางนอนลงไปเลย ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้เราวัดขนาดได้ง่ายขึ้น ใช้สายวัดในการเริ่มวัดจากปลายบนสุด แล้วค่อยๆ ปล่อยให้สายวัดโค้งตามตัวลงมาจนถึงบริเวณปลาย การวัดทุกกรณี อาจจะทำการวัด แล้วออกมาคลาดเคลื่อนได้นิดหน่อย ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขอเพียงให้ได้ขนาดที่ใช่พอสังเขปก็เป็นพอ

     

    วัดจากบริเวณโครงไปถึงปลาย

     

    อันนี้จะใช้ในกรณีของแบบสนามที่มีขนาดใหญ่ ที่เราจะนำมาใช้ออกงาน อย่างแรกคือเราจะประกอบ บริเวณลำตัวเข้ากับแกน จากนั้นก็จะนำไปเสียบเข้ากับขาตั้งพื้น และทำการกางออก จากนั้นเราจะใช้สายวัดขึ้นมาโดยเริ่มจากบริเวณโครง แล้วลากออกมายังบริเวณปลายฝั่งไหนก็ได้ตามแต่ถนัด เพราะรัศมีจะเท่ากันทั้งหมด แต่ข้อสังเกตที่สำคัญของการวัดด้วยวิธีนี้คือ อาจจะต้องใช้ 2 คนในการช่วย เพราะจะต้องมีหนึ่งคนถือสายวัดอยู่ ส่วนอีกคนจะเดินออกมาจากบริเวณโครงไปยังบริเวณปลายนั่นเอง

     

    วัดจากบริเวณบนสุดจนถึงปลายสุด

     

    วิธีนี้เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่ใช้ในการวัดขนาด โดยสามารถที่จะทำได้ด้วยตัวคนเดียวไม่ต้องมีคนช่วยแต่อย่างใด เราไม่จำเป็นต้องการออก หรือมาประกอบให้เสียเวลา หรือแม้แต่การนำมาเสียบกับขาตั้งก็ไม่ต้อง เราเพียงแค่ต้องนำอุปกรณ์ของเราออกมาจากซองพลาสติกเสียก่อน จากนั้นนำมาวางให้มีความระนาบกับพื้น แล้วนำสายวัดออกมาวัดจากบริเวณบนสุด จนถึงบริเวณปลายสุดด้านล่าง เพียงเท่านี้เราก็จะได้ผลลัพธ์ของการวัดขนาดกันเรียบร้อยแล้ว โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลามากมายเลย เป็นวิธีการที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดที่เราจะวัดขนาดได้

     

    สรุปแล้ว การวัดขนาดก็มีอยู่มากมายหลากหลายวิธี และการรู้การวัดขนาดนี้เรารู้ไปเพื่ออะไร หากเราจะซื้อนำมาใช้งานภายในบ้านก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่หากความต้องการใช้งานอย่างจริงจัง ใช้งานภายในองค์กร หรือซื้อทีละมากๆ และต้องการให้โรงงานผลิตออกมาอย่างตรงตามที่เราต้องการ การวัดขนาดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้เราได้ของที่ถูกใจและมีคุณภาพด้วย

     

    หน้าฝน ร่มชนิดไหนเหมาะ หรือไม่เหมาะจะพกไว้ใช้งาน

    ในช่วงหน้าฝนทีไร เราก็จำเป็นต้องพกอุปกรณ์สำคัญติดตัวไปอยู่เสมอ อุปกรณ์สำคัญที่ว่านั้นก็คือ ร่ม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันฝนตก ในขณะที่เราจำเป็นต้องไปทำธุระสำคัญข้างนอก เลี่ยงไม่ได้ที่ไหนบางวันเราจะต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสายฝน การมีร่มติดตัวไว้อาจทำให้เรารู้สึกสบายใจกว่า...

    ในช่วงหน้าฝนทีไร เราก็จำเป็นต้องพกอุปกรณ์สำคัญติดตัวไปอยู่เสมอ อุปกรณ์สำคัญที่ว่านั้นก็คือ ร่ม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันฝนตก ในขณะที่เราจำเป็นต้องไปทำธุระสำคัญข้างนอก เลี่ยงไม่ได้ที่ไหนบางวันเราจะต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสายฝน การมีร่มติดตัวไว้อาจทำให้เรารู้สึกสบายใจกว่า และในปัจจุบันนี้เอง อุปกรณ์ชนิดนี้ก็มีให้เราเลือกซื้อมากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบที่มีสีสันสวยงาม แบบที่สามารถพับเก็บได้อย่างสะดวก มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มีไปจนถึงร่มกอล์ฟ ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และใช้ได้กับหลายสถานการณ์

     

    แต่ในสถานการณ์นี้ล่ะ ในหน้าฝน เราสามารถพกร่มชนิดใดออกไปข้างนอกได้บ้าง แล้วแบบไหนที่เหมาะสม หรือไม่เหมาะสมจะพกไปในสถานการณ์ใดบ้าง วันนี้เรามาดูกัน

     

    ร่มใส

     

    แบบแรกที่อยากจะชวนคุยเป็นแบบใส ลักษณะก็ตรงตามชื่อ จะมีลักษณะใส และเราสามารถมองเห็นสิ่งอื่นๆ ที่อยู่รอบนอกได้อย่างสะดวกสบาย ค่อนข้างเป็นที่นิยมของหลายคน เนื่องจากมีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว สามารถที่จะกันฝนได้จริง นอกจากนี้ยังสามารถนำมาถ่ายรูปได้อีกด้วย ซึ่งความใสนี่เองถือว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญมาก

     

    ส่วนมากแล้ว อุปกรณ์ชนิดนี้จะมีความแข็งแรงทนทานมาก ถึงบางส่วนจะทำมาจากพลาสติกใสก็ตาม อีกทั้งยังมีความหนา ทำให้สามารถกันฝนที่ตกหนักๆ ได้ สามารถที่จะทนแรงลมได้ดี นอกจากนี้อย่างที่บอก นำมาพกพาเป็นแบบแฟชั่นก็ยังได้ และยังมีความสวยงามอยู่ด้วย ที่สำคัญคือหาซื้อได้ง่าย และราคาไม่แรงมาก

     

    ร่มพับ

     

    ลักษณะเด่นของอุปกรณ์แบบนี้คือ จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก และสามารถที่จะพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย สามารถที่จะหยิบใส่กระเป๋าไปได้ในทุกที่ และที่สำคัญคือ เป็นที่นิยมไม่ว่าจะในยุคสมัยไหนก็ตาม ยิ่งในช่วงหน้าฝน คนจะพกค่อนข้างมาก พกง่าย พกสบาย และยังเหมาะกับทุกเพศทุกวัยด้วย

     

    และที่สำคัญคือ ราคาค่อนข้างที่จะถูก จึงเป็นที่นิยมอย่างมากของคนส่วนใหญ่ อีกทั้งยังมีสีสันให้เราได้เลือกหามากมาย แต่ก็ควรจะเลือกในแบบที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ให้ดูจากวัสดุที่นำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณโครง บริเวณผ้า หรือบริเวณด้ามจับ

     

    ร่มกอล์ฟ

     

    ลักษณะของอุปกรณ์ชนิดนี้ แน่นอนว่ามีขนาดใหญ่ และสามารถที่จะกันฝนได้ (กันฝนได้ดีมากเลยทีเดียว) แต่ข้อสังเกตของอุปกรณ์ชนิดนี้คือ อาจไม่ค่อยเหมาะสมที่จะพกไปยังที่ต่างๆ สักเท่าไหร่นัก เนื่องจากขนาดใหญ่ที่เป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งนี่เอง ถึงจะชื่อแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้จำกัดการใช้งานแค่ในสนามกอล์ฟเท่านั้น เรายังสามารถหยิบมาใช้งานได้ทั่วไปเหมือนกับชนิดอื่น แค่เรามักจะเห็นที่สนามกอล์ฟเป็นส่วนใหญ่ และผู้คนส่วนใหญ่นำมาใช้กันแดดเพียงเท่านั้น

     

    นอกจากกันฝนแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการกันความร้อนจากแสงแดดได้มากถึง 2 เท่าจากแบบปกติ ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นอีกจุด รวมถึงดีไซน์ก็สวยงามน่าหยิบมาใช้งานมาก จุดเด่นอีกอย่างก็คือ สามารถที่จะทนต่อแรงลมได้ดีมาก มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถใช้งานได้ระยะยาว

     

    ร่มกลับด้าน

     

    แบบนี้นับว่าเหมาะสมมากที่จะนำมาใช้ในหน้าฝน เพราะในระหว่างที่เราพับเก็บ น้ำที่เปียกอยู่บริเวณด้านนอกจะแห้งเร็ว ด้วยเนื้อผ้าที่มีความลื่นกว่า จึงทำให้น้ำแห้งเร็วกว่าแบบอื่น อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรานำไปใช้ในรถ ยางเบาะรถเปียก เอกสารเกิดความเสียหาย เรียกได้ว่าแบบนี้สามารถที่จะตอบโจทย์ทุกปัญหาของเราได้อย่างแน่นอน