CALL CENTER
    02-408-1377 (อัตโนมัติ 10 คู่สาย)

    blog

    พาไปดูร่มแฟชั่น สวยงาม ไม่เหมือนใคร

    สำหรับคนที่ชื่นชอบและหลงรักของประดับตกแต่งต่าง ๆ หรือคนที่สนใจใช้ของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใครและไม่อยากซ้ำกับใคร ร่มก็นับเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยม ที่สามารถหาแบบที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใครได้ หรือที่เรียกกันว่าร่มแฟชั่นนั่นเองไม่ว่าจะสำหรับคนที่ซื้อมาใช้งานเอง...

    สำหรับคนที่ชื่นชอบและหลงรักของประดับตกแต่งต่าง ๆ หรือคนที่สนใจใช้ของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใครและไม่อยากซ้ำกับใคร ร่มก็นับเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ยอดนิยมอย่างเช่น ร่มใส ร่มพับ แต่ที่สามารถหาแบบที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใครได้ หรือที่เรียกกันว่าร่มแฟชั่นนั่นเอง

    ไม่ว่าจะสำหรับคนที่ซื้อมาใช้งานเอง หรือสำหรับองค์กรและบริษัท ที่นำมาใช้ในการจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม และนำมาผลิตเป็นจำนวนมาก ร่มแฟชั่นก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีความน่าสนใจ หน้าเลือกหามาใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยความมีเอกลักษณ์ และเรามั่นใจว่ามันจะไม่ซ้ำกับใครอย่างแน่นอน เมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว ลูกค้าจะสามารถจดจำแบรนด์ของเราได้เป็นอย่างดี

    ในวันนี้เราจะพาคุณไปดูร่มแฟชั่น แบบที่มีความสวยงามและไม่เหมือนใคร เรามีวิธีการในการเลือกใช้งานอย่างไร นอกจากนี้มันยังมีแบบไหนบ้าง ที่มีความน่าสนใจและน่าหามาใช้ นี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือกร่มแฟชั่นที่เราอยากจะนำเสนอ อันที่จริงแล้วมันมีอยู่อีกมากเลยทีเดียวที่คุณสามารถหยิบมาใช้งานได้

    วิธีการเลือกร่มแฟชั่นและการเลือกใช้งาน

    ถึงแม้จะเป็นร่มแฟชั่นก็ตาม แต่หลักการเลือกก็น่าจะมีความคล้ายกับรูปแบบปกติ หากเป็นแบบที่เรานำมาใช้ในการประดับตกแต่งแล้ว เราก็อาจจะไม่ต้องเลือกอะไรมากมายนัก แต่หากเป็นแบบที่เราหยิบมาใช้งานจริง มันเป็นอะไรที่เราต้องนำมาพิจารณา และเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    ยกตัวอย่างเช่นแบบแรกคือแบบกันแดด แน่นอนว่าเราจำเป็นที่จะต้องเน้นไปที่ค่าการปกป้องรังสี UV เรียกว่าค่า UPF คือจะต้องสูงกว่า 50 + หากเป็นแบบนั้นจะสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 98% เลยทีเดียว หรือหากเราจะเลือกใช้สำหรับกันฝน อาจเลือกร่มแบบ ร่มตอนเดียว ร่ม2ตอน ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการพกพาและการหยิบออกมาใช้งานอย่างรวดเร็วและไม่เกะกะอีกด้วย หรือหากใครนำมันมาใช้งานหนัก เลือกเป็นแบบที่กันพายุได้เลย อาจจะต้องต้านทานต่อกระแสลมแรงได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังคงมีรูปทรงสวยงามและมีความแฟชั่น อาจจะเลือกแบบที่มีวัสดุแข็งแรงและมีขนาดใหญ่สักนิด

    ร่มแฟชั่นที่อยากแนะนำ

    แบบแรกที่อยากจะมานำเสนอ คือรูปหัวใจ ลักษณะก็ตรงตามชื่อเลย เป็นแบบที่มีรูปทรงเป็นรูปหัวใจ เป็นแบบนี้จะค่อนข้างมีความแข็งแรงเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงเหมาะสมสำหรับการใช้งานป้องกันคุณจากลมแรง ๆ ลักษณะที่โดดเด่นคือมีความสวยงาม และถึงจะมีความใหญ่และความแข็งแรง แต่ก็ยังมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา เพราะส่วนมากแล้วมักจะเลือกวัสดุเป็นไฟเบอร์กลาส และบริเวณด้ามจับมักจะใช้อลูมิเนียมหรือโลหะในการทำ

    แบบต่อไปคือแบบที่เรียกว่า Laces and Ruffles เป็นอีกหนึ่งแบบที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยบริเวณลวดลายและรูปทรงจะมีเอกลักษณ์ และนิยมนำมาใช้งานในงานต่าง ๆ ที่ค่อนข้างดูมีความไฮโซสักเล็กน้อย จะได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากจุดเด่นในเรื่องของลวดลายแล้ว มันยังทนต่อกระแสลมได้เป็นอย่างดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    แบบต่อไปคือแบบดอกไม้ เราอาจจะเคยเห็นกันตามอินเทอร์เน็ตอยู่บ้าง ที่มักจะมาพร้อมกับลวดลายที่เป็นดอกไม้ แล้วตกแต่งให้มีสีสันต่าง ๆ เพื่อความสวยงามให้ดูเหมาะสมกับฤดูร้อนเป็นอย่างมาก โดยสามารถเลือกดอกไม้ที่ต้องการตกแต่งได้ หากอยากสั่งทำเป็นของพรีเมี่ยมจากโรงงานต่าง ๆ แต่ในเรื่องของการใช้งานอาจจะไม่ได้สมบุกสมบันเหมือนกับอีกหลายแบบ จะเน้นไปที่เรื่องของความสวยงามมากกว่า ไม่ได้แข็งแรงหรือสามารถป้องกันรังสี UV ได้เหมือนกับแบบอื่น ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจ และน่าหามาใช้งานเป็นอย่างมาก

    ร่มราคาต่างกัน มีอะไรที่ต่างกันบ้าง

    หากเราต้องการซื้ออุปกรณ์สามารถประจำบ้านอย่างร่ม สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนหยิบมาพิจารณา นอกจากเรื่องของลักษณะการใช้งานที่เราจะนำไปใช้ รูปแบบหรือรูปทรงของร่ม อีกปัจจัยหนึ่งที่ อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าเราจะซื้อหรือไม่ซื้อดีคือเรื่องของราคา...

    หากเราต้องการซื้ออุปกรณ์สามัญประจำบ้านอย่างร่ม สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนหยิบมาพิจารณา เช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว เป็นต้น นอกจากเรื่องของลักษณะการใช้งานที่เราจะนำไปใช้ รูปแบบหรือรูปทรงของร่ม อีกปัจจัยหนึ่งที่ อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าเราจะซื้อหรือไม่ซื้อดีคือเรื่องของราคา แน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นของใช้ทั่วไป มีอยู่ด้วยกันหลายเกรด ดังนั้นราคาจึงแตกต่างกันออกไปด้วย

    คำถามต่อมาก็คือ ปัจจัยใดที่ทำให้ราคาของอุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้นั้นแตกต่างกัน จะแค่เรื่องขนาด หรือลักษณะการใช้งานหรือไม่ หรือมีปัจจัยใดที่ทำให้มันแตกต่างกันอีก วันนี้เราจะมาดูกัน ว่าร่มราคาแตกต่างกัน มีปัจจัยใดที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาสำหรับใครที่อยากจะซื้อหามาไว้ใช้เอง หรือสำหรับบริษัท หรือองค์กรที่อยากจะนำร่มมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม

    รูปแบบและลักษณะ

    เราน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าร่มมีลักษณะที่แตกต่างกันมากมายในท้องตลาด ทั้งในเรื่องของขนาดที่แตกต่างกัน วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำที่แตกต่างกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ค่อนข้างส่งผลต่อราคา ยกตัวอย่างให้เห็นอย่างเด่นชัด ยกตัวอย่างเช่นบริเวณก้าน แบบที่มีก้านน้อยกว่า วัสดุที่ใช้ในการทำก็จะน้อยกว่าตามไปด้วย ทำให้มีราคาที่ถูกกว่า หรือบางอันอาจจะมีออพชั่นเสริมบางอย่าง อย่างเช่นพลาสติกสำหรับใช้หุ้มนั้นมีเกรดที่มีคุณภาพแตกต่างกัน หากคุณภาพดีกว่าก็ย่อมที่จะมีราคาแพงกว่าเป็นธรรมดา

    ขนาดที่แตกต่างกัน

    เรื่องของขนาดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาด้วยเช่นเดียวกัน หากยิ่งเป็นขนาดที่ใหญ่อย่างร่มสนามก็ต้องใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง และมีความทนทานมากกว่า นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ร่มขนาดเล็กนั้นจะมีราคาถูกกว่า แต่อย่างว่าวัสดุที่มีราคาแพงกว่าและแข็งแรงกว่า ก็ย่อมทำให้อุปกรณ์ของเรานั้นมีความแข็งแรงมากกว่าตามไปด้วย อีกทั้งขนาดที่ใหญ่กว่า เรายังนำไปใช้งานได้ ในลักษณะที่กว้างกว่า ยกตัวอย่างเช่นหากแบบ 14 นิ้ว ก็จะมีราคาถูกกว่าร่มสนามแบบ 38 นิ้ว อะไรแบบนี้เป็นต้น

    ปริมาณการสั่งผลิต

    อันนี้จะเป็นในกรณีของบริษัทหรือองค์กร สำหรับการนำอุปกรณ์ชิ้นนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม ซึ่งสิ่งนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว สำหรับใครที่สั่งโรงงานผลิต หรือแม้แต่การสั่งซื้อ หากเป็นในปริมาณที่มากหรือสูงกว่า แน่นอนว่าย่อมมีค่าใช้จ่ายต่อตัว หรือต่ออันที่จะถูกลง กลับกันหากซื้อในปริมาณที่น้อยกว่า อาจจะต้องจ่ายราคาแพงกว่า อีกอย่างหากสั่งในปริมาณที่มาก ถึงแม้จะใช้วัสดุที่ใช้ในการทำค่อนข้างดีและมีคุณภาพ แต่ค่าเฉลี่ยออกมาก็อาจจะราคาถูกกว่าก็ได้

    ของพรีเมี่ยม กับการสกรีนโลโก้

    นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณี สำหรับบริษัทหรือองค์กร ที่จะนำสิ่งนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมด้วยเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าการจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมนั้น สิ่งสำคัญคือจำเป็นที่จะต้องใส่ชื่อแบรนด์ หรือโลโก้ลงไปในของของเราด้วย ตัวโลโก้นี้เองทำให้ราคาแตกต่างกันได้ด้วยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ขนาดของโลโก้ที่แตกต่างกันก็ทำให้ราคาแตกต่างกันด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ในเรื่องของการกำหนดจุดที่ต้องการนำโลโก้ไปวาง หรือจำนวนสีที่ใช้ในการสกรีน หรืออาจมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยทำให้ราคาแตกต่างกัน เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องนำมาคิดด้วยเช่นเดียวกัน

    และเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ส่งผล และมีส่วนเกี่ยวข้องให้ราคาของอุปกรณ์ชิ้นนี้มีความแตกต่างกันออกไป หากบริษัทหรือองค์กรใด อยากจะนำสิ่งนี้นำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม ก็ควรที่จะหยิบข้อเหล่านี้มาพิจารณา และลองดูต้นทุนว่าเราไหวเท่าไหร่ เพื่อที่จะไม่เกินงบ และได้ของตามที่เราต้องการได้ด้วย

    ร่มลายไทย ซื้อใช้ก็ได้ ซื้อฝากก็ดี

    หากเราจะกล่าวถึงร่ม ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านสำหรับใครหลายคน บางคนถึงกับพกติดรถหรือติดตัวไว้อยู่เสมอเลยด้วยซ้ำ หากจะพูดถึงอุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ หลายคนก็มักจะนึกถึงจุดเด่นอย่างการกันฝน กันลม หรือการกันแดดกันใช่ไหม ซึ่งโดยมากมักจะนึกถึงแบบธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ...

    หากเราจะกล่าวถึงร่ม ซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ประจำบ้านสำหรับใครหลายคน บางคนถึงกับพกติดรถหรือติดตัวไว้อยู่เสมอเลยด้วยซ้ำ หากจะพูดถึงอุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ หลายคนก็มักจะนึกถึงจุดเด่นอย่างการกันฝน กันลม หรือการกันแดดกันใช่ไหม ซึ่งโดยมากมักจะนึกถึงแบบธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีร่มแบบพิเศษอีกมากมายหลากหลายชนิด ที่น่าสนใจ และน่าหามาเก็บสะสมไว้ อย่างร่มใส ร่มLED 

    และในวันนี้เอง เราจะมานำเสนออุปกรณ์ร่มแบบพิเศษอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือแบบที่เป็นร่มลายไทย ซึ่งนับว่ามีเอกลักษณ์ มีความน่าสนใจ มีความสวยงามซึ่งใครๆ ก็อยากที่จะซื้อไว้เป็นของสะสม ไม่ว่าจะเป็นคนไทยอย่างเรา รวมถึงชาวต่างชาติที่พบเห็น ก็อยากที่จะจับจองเป็นเจ้าของอยู่เสมอ วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักให้มากขึ้น รวมถึงความน่าสนใจของอุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ด้วย

    ร่มลายไทย

    ร่มลายไทยนั้น เป็นอีกชนิด หนึ่ง ที่ได้รับความนิยมของทั้งคนไทยเราและชาวต่างชาติ เป็นแบบที่มีลวดลายสวยงามและมีจุดเด่นที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก มีเสน่ห์และบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี โดยส่วนมากเราจะเห็นได้ทางภาคเหนือของบ้านเรา มีทั้งแบบที่เป็นร่มเชียงใหม่ หรือที่เราน่าจะเคยได้ยินคือมาจากบ่อสร้าง

    ปกติแล้ว จะใช้ผ้าไทยในการถักทอ จะทำการตัด และมาประกอบเพื่อทำเป็นร่ม ซึ่งลายไทยเหล่านี้เอง คือลักษณะที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของอุปกรณ์ชนิดนี้ มีทั้งแบบที่เป็นผ้าไทยเลยแบบดั้งเดิม และแบบที่มีการพิมพ์ลายออกมา เพื่อเลียนแบบผ้าไทย ที่เป็นเอกลักษณ์และมีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเหล่านี้มักจะนำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยม เพื่อไว้ใช้สำหรับแจกจ่าย ซึ่งก็นับว่าเป็นอะไรที่เหมาะสม และค่อนข้างมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    ประเภทและขนาดที่แตกต่างกัน

    ก็เหมือนกับอุปกรณ์กันแดดทั่วไป ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือลายไทยที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก แต่เดิมแล้วเราจะมีแค่ร่มตอนเดียว ซึ่งเป็นแบบทั่วไป และพบเห็นได้ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม แต่ทุกวันนี้เราสามารถเห็นแบบพับได้ และแบบที่เป็นสนามขนาดใหญ่สามารถที่จะใช้กางเพื่อขายของ หรือใช้ในการเป็นเครื่องประดับตกแต่งสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านค้า หรือสถานที่ที่ต้องการบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ขอบอกเลยว่า มันถูกใจชาวต่างชาติเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    การนำไปใช้งาน

    แน่นอนว่าสามารถนำไปใช้งานได้มากมายหลากหลายประการ แล้วแต่ผู้ที่ซื้อไปจะเลือกนำไปใช้ แต่หากจะให้แนะนำว่านำไปใช้งานแบบไหนได้บ้าง โดยทั่วไปแล้ว เรามักจะนิยมนำไปตกแต่ง สถานที่ใดก็ตามที่ต้องการบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย หรืออาจจะนำไปตกแต่งร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือร้านอาหารที่มีความไทย นอกจากนี้อาจจะนำไปตั้งไว้ในสตูดิโอสำหรับการถ่ายรูป หรือใครจะนำไปใช้งานก็ยอดเยี่ยมไม่น้อยเลย

    นอกจากนี้ส่วนหนึ่ง อาจจะนำมาเก็บไว้เป็นของสะสม ไม่ใช่แค่คนไทยของเรา ที่นิยมชมชอบความเป็นลายไทยที่มีความสวยสดงดงามถึงขนาดนี้ แต่ชาวต่างชาติเอง หลายคนก็นิยมชมชอบลายไทยของเรา และซื้อเก็บไว้ที่บ้าน หรืออาจจะซื้อไปฝากคนที่บ้านก็มีให้เห็นอยู่มากเลย

    นอกจากนี้แล้ว ยังมีข้อแนะนำที่อยากจะแนะนำบางประการอยู่ หากเราอยากจะเลือกมา ไม่ว่าจะนำมาใช้งานในลักษณะใดก็ตาม ต้องดูลักษณะการใช้งานด้วย มีแบบที่บริเวณโครงสร้างทำจากไม้ไผ่ หรืออาจจะเป็นไม้อ่อน ซึ่งเหล่านี้มีความสวยงามมากกว่า แต่ก็ต้องแลกมาซึ่งความไม่ค่อยมีความคงทนแข็งแรงมากนัก เหมาะแก่การประดับตกแต่งบ้านของเรามากกว่า หรือหากอยากจะนำไปใช้งานได้จริง ก็อาจจะต้องเลือกที่มีโครงสร้างแข็งแรงมากกว่านี้

    กว่าจะมาเป็น “ร่ม”

    ร่ม ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็จะต้องมีติดบ้านไว้ บางคนถึงกับพกติดรถไว้ หรือบางคนถึงกับพกติดตัวไว้ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงที่ใกล้เข้าหน้าฝนนี้ ใครหลายคนก็มักจะพกร่มไปไหนมาไหนอยู่เสมอ เพราะเราจะได้ใช้ประโยชน์แน่นอน...

    ร่ม ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็จะต้องมีติดบ้านไว้ บางคนถึงกับพกติดรถไว้ หรือบางคนถึงกับพกติดตัวไว้ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงที่ใกล้เข้าหน้าฝนนี้ ใครหลายคนก็มักจะพกร่มไปไหนมาไหนอยู่เสมอ เพราะเราจะได้ใช้ประโยชน์แน่นอน แต่ไม่ใช่แค่เพียงช่วงหน้าฝนเท่านั้นที่เราสามารถหยิบมันมาใช้งานได้ แม้แต่ในช่วงอื่น เราก็สามารถที่จะหยิบอุปกรณ์ชิ้นสำคัญนี้มาใช้งานได้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่มีแดดจัด หรือช่วงที่มีลมแรงเราก็หยิบมาใช้งานได้ด้วยเช่นเดียวกัน ร่มนั้นมีกลากหลายแบบเช่น ร่มพับ ร่มตอนเดียว เป็นต้น ดังนั้นเราจึงกล่าวได้เลยว่าร่ม ถือเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์อีกชิ้นหนึ่ง

    สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราใช้งานกันอยู่ทั่วไปอยู่แล้ว แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ว่าร่มมาจากไหน วิวัฒนาการมาได้อย่างไร กว่าจะมาเป็นอุปกรณ์ให้เราได้ใช้กันในทุกวันนี้ มันได้ผ่านอะไรมาบ้าง มาจากถิ่นฐานได้ แต่เดิมแล้วมาจากชาติไหน ถึงแม้จะไม่มีการศึกษาวิจัยกันอย่างแท้จริง แต่ก็มีบันทึกบางส่วนที่ได้บ่งบอกถึงอุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้

    ที่มาของชื่อ

    ร่มนั้นในภาษาอังกฤษเราเรียกว่า umbrella มีรากศัพท์มาจากคำว่า umbra ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่า บังแดด ดังนั้นแต่เดิมมันจึงเป็นอุปกรณ์บังแดด เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 3400 ปีก่อน ในดินแดนเมโสโปเตเมีย สถานที่ซึ่งมีอากาศร้อนตลอดทั้งปี ดังนั้นผู้คนจึงได้นิยมใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการบังแดด

    ไม่นานมันก็ถูกแพร่หลาย และส่งต่อมายังอารยธรรมอียิปต์ ต่อมาชาวกรีก ได้รับเอาวัฒนธรรมนี้มาจากอียิปต์อีกที ซึ่งชาวอียิปต์เชื่อกันว่า ท้องฟ้านั่นคือร่างกายของเทพธิดาองค์ หนึ่ง ซึ่งปกคลุมโลกดุจร่มอันมหึมา ในตอนแรกสิ่งนี้ใช้ในการทดแทน หรือเป็นตัวแทนของเทพธิดาองค์นี้ เพื่อให้สำหรับปกป้องคุ้มครองผู้ที่อยู่ใต้ร่มเงา ดังนั้นแต่เดิมในอดีตสมัยกรีก ผู้ที่กางร่ม จะต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจเท่านั้น

    บริบทที่เปลี่ยนไป

    แต่ในยุคหนึ่ง ความหมายของสิ่งนี้ก็เปลี่ยนไป การใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ได้กลับถูกมองว่ามีอำนาจ มันกลับกันด้วยซ้ำ อย่างเช่นในช่วงประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 18 ผู้ที่กางร่ม ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นเป็นผู้หญิงเท่านั้น เพราะเนื่องจากผู้ชาย อาจจะถูกมองว่าอ่อนแอ จึงไม่ค่อยมีใครนิยมใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้กันเท่าไหร่ จนกระทั่งในปี 1750 ก็ได้มีชายชาวอังกฤษคน หนึ่ง ลุกขึ้นมาพบอุปกรณ์ชิ้นนี้ เขาไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง และไม่นาน อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ได้รับความนิยมในอังกฤษ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรือผู้ชายเท่านั้น แต่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ทั้งนั้น

    ไม่ได้ใช้เพียงแค่การกันแดดกันฝนแล้ว

    จนกระทั่งทุกวันนี้ อุปกรณ์ชิ้นสำคัญชิ้นนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์สำหรับการกันแดดหรือกันฝนเพียงเท่านั้น หลายคนยังใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับแฟชั่น เช่น ร่มใส หรือใช้เพิ่มแมตช์กับเสื้อผ้า และแต่งตัวหลากหลายรูปแบบด้วยกัน นอกจากนี้แล้ว หลายคนยังใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการเป็นเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ตกแต่งร้านอาหารหรือร้านกาแฟ หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกมากมายหลากหลายอย่างด้วยกัน จากแต่เดิมที่อาจจะเคยใช้เพื่อเป็นตัวแทนของเทพเจ้า หรือใช้ประโยชน์บางอย่างในการบังแดด แต่ทุกวันนี้มันได้เปลี่ยนไป และมีการนำมาใช้งานด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งถือเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

    และเรื่องราวที่กล่าวมานี้ เป็นประวัติความเป็นมา ของอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็อาจมีติดบ้านด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ เราอาจจะไม่ต้องรู้เรื่องราวนี้ก็ได้ แต่การรู้ไว้ก็เป็นอะไรที่ดีเหมือนกัน หากใครต้องการที่จะหาของพรีเมี่ยมที่น่าสนใจ อุปกรณ์ชิ้นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลย

    ร่มพลาสติกใส มาจากไหน

    มีร่มประเภทหนึ่ง ที่มีความเท่และความสวยงามไม่เหมือนใคร ถึงแม้ว่าจะออกมานานแล้ว และเราก็มีโอกาสได้เห็นคนใช้งานกันทั่วไปแล้วก็ตาม แต่ในทุกวันนี้ รวมประเภทนี้ก็ยังคงเป็นแบบที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น แฝงไปด้วยความเรียบง่ายอยู่...

    มีร่มประเภทหนึ่ง ที่มีความเท่และความสวยงามไม่เหมือนใคร ถึงแม้ว่าจะออกมานานแล้ว และเราก็มีโอกาสได้เห็นคนใช้งานกันทั่วไปแล้วก็ตาม แต่ในทุกวันนี้ รวมประเภทนี้ก็ยังคงเป็นแบบที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น แฝงไปด้วยความเรียบง่ายอยู่ นั่นก็คือร่มแบบใส

    สิ่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งในประเทศไทยเอง และในต่างประเทศบางประเทศอย่างประเทศญี่ปุ่น ผู้คนใช้กันทั่วไป ด้วยเอกลักษณ์ที่มีความโดดเด่น มีความเรียบง่ายและสวยงามในตัวเอง เราจะเห็นได้มาก ว่ามันถูกวางขายในร้านขายของญี่ปุ่น และในวันนี้เอง เราจะคุยในเรื่องของที่มา ของร่มพลาสติกใส มันมาจากไหน และใครเป็นผู้ผลิต จุดเริ่มต้นคือที่ใด

    เริ่มต้นจากประเทศญี่ปุ่น

    มีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับร่มแบบใส ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือสิ่งนี้ถูกผลิต คิดค้นและพัฒนาขึ้นมา โดยชาวญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยผู้ที่คิดค้นขึ้นมาครั้งแรก คือบริษัทผลิตร่มเก่าแก่ที่มีชื่อว่า White Rose ที่นอกจากจะมีประสบการณ์ในการผลิตมาอย่างยาวนานแล้ว ยังเป็นผู้ผลิต ให้กับอดีตจักรพรรดินีมิชิโกะ ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

    แม้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ จะกลายเป็นอุปกรณ์ประจำวันในชีวิตของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว ด้วยความที่ในประเทศญี่ปุ่นมีฝนตกค่อนข้างบ่อย เรียกได้ว่าแทบจะตลอดทั้งปีเลย แต่รู้หรือไม่ว่าในอดีต ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ได้ใช้แบบพลาสติกใสเหมือนในทุกวันนี้ แล้วเหตุใด แบบที่เป็นพลาสติกใสแบบที่เราใช้กันอยู่ จึงกลายเป็นส่วน หนึ่ง ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น เหมือนกับในปัจจุบัน ที่ผู้คนใช้กันมากมาย

    กว่าจะกลายมาเป็น ร่มใสกันฝน

    เรื่องนี้เราอาจจะต้องย้อนกลับไปเป็นระยะเวลายาวนานสักนิด ในประเทศญี่ปุ่นราวช่วงยุคปี 1940 หากเรากล่าวถึงร่ม ชาวญี่ปุ่นจะนึกถึงแบบที่ทำมาจากผ้าไหม ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง หรือเป็นแบบที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน ก็อาจจะนึกถึงแบบที่ทำมาจากป่านหรือฝ้าย ซึ่งแบบนี้ถือเป็นแบบทั่วไป แม้ว่าหน้าที่ของมันจะเอาไว้สำหรับกันฝน แต่วัสดุที่ใช้ในการทำในยุคสมัยนั้น ซึ่งเป็นวัสดุเส้นใยธรรมชาติ ถูกย้อมสีสันเพื่อความสวยงาม เมื่อนำมาใช้ในการกันฝนเอง ก็จะเกิดปัญหาสีตกเมื่อโดนน้ำ ซึ่งเป็นปัญหากวนใจสำหรับการใช้งานเป็นอย่างมาก

    จากนั้นบริษัทที่กล่าวมาข้างต้น จึงพยายามที่จะแก้ปัญหานี้ ทำให้สีไม่ตกใส่เสื้อผ้าของผู้ใช้งาน สิ่งที่ถือกำเนิดและเกิดขึ้น คือการทดลองนำเอาพลาสติก มาเป็นที่คลุม โดยนำแผ่นพลาสติกมาตัดเป็นทรง 8 เหลี่ยม และนำมาคลุมลงบนด้านบนของร่ม ซึ่งเป็นการออกแบบแบบง่ายๆ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมาย แต่กลับทำให้อุปกรณ์การฝนไม่เปียก และแก้ปัญหาสีตกได้เป็นอย่างดี ทำให้พลาสติกดังกล่าวนี้ กลายมาเป็นสินค้ายอดนิยมในยุคนั้นเลยทีเดียว

    แต่แล้วในช่วงปี 1955 ด้วยอิทธิพลจากยุโรป มีการใช้ไนลอนในการผลิต ซึ่งคุณสมบัติโดดเด่นของไนลอน คือสามารถที่จะกันน้ำได้ ดังนั้น ผ้าไนลอนจึงถูกนำมาใช้ในการประดิษฐ์ของชิ้นนี้ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย พลาสติกซึ่งแต่เดิมใช้สำหรับคลุม จึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ดังนั้นทางบริษัทจึงได้เกิดไอเดียใหม่ขึ้นมา คือเอามันมารวมกันเสียเลย และตรงนี้เองคือจุดเริ่มต้น ของการผลิตร่มพลาสติกใสคันแรกของโลก มีการทดลองถูกผิดมากมาย เป็นระยะเวลาค่อนข้างยาวนาน โดยใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 3 ปีจนในที่สุด แบบเสร็จสมบูรณ์ชิ้นแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และได้ออกสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกในปี 1958 ถึงแม้ว่าในช่วงแรกนั้น มันจะยังไม่ได้มีสีใสเหมือนกับในปัจจุบัน โดยสีที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะเป็นสีขาวขุ่น ก่อนจะถูกพัฒนามาเป็นแบบที่เราใช้งานกันในทุกวันนี้ แต่นอกจากร่มใสแล้วยังมี ร่มพับ  ร่มตอนเดียว ที่คนไทยนิยมใช้ด้วยเช่นกัน

    แนะนำร่มไม้เท้า สำหรับผู้สูงวัย

    ร่มนั้นมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบรับกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ลักษณะการพกพาที่ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นร่มพับ ออกแบบมาเพื่อที่จะให้เก็บได้อย่างง่ายดาย ใส่กระเป๋าได้อย่างสะดวกและพกพาไปไหนมาไหนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น...

    ร่มนั้นมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบรับกับการใช้งานที่แตกต่างกันเช่น ร่มใส ร่มตอนเดียว ลักษณะการพกพาที่ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นร่มพับ ออกแบบมาเพื่อที่จะให้เก็บได้อย่างง่ายดาย ใส่กระเป๋าได้อย่างสะดวกและพกพาไปไหนมาไหนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีอีกมากมายหลายรูปแบบด้วยกัน ที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเฉพาะ และเหมาะสมกับการใช้งานอื่นควบคู่กันไปด้วย

    ในที่นี้ เราจะขอยกร่มไม้เท้ามาคุยกัน ซึ่งเป็นอีกประเภท หนึ่ง ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะการใช้งานที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง และเหมาะสมเป็นอย่างมากสำหรับผู้สูงอายุ ที่นอกจากจะใช้ในการกาง เพื่อป้องกันลมแรง ฝนตกหนัก หรือในวันที่แดดจัดแล้ว ยังสามารถมีฟังก์ชั่นการเป็นไม้เท้าได้ สามารถที่จะใช้ค้ำยันและทดแทนไม้เท้าจริงได้เลย สิ่งนี้มีลักษณะโดดเด่นอย่างไร และการใช้งานมีประโยชน์ใดๆบ้าง วันนี้เรามาดูกัน

    จุดเด่นที่สำคัญของร่มไม้เท้า

    ส่วนมากแล้ว รวมประเภทนี้มักถูกออกแบบให้มีดีไซน์ด้ามจับ ที่อาจจะเหมือนไม้เท้าจริง จะต้องมีความแข็งแกร่งทนทาน ซึ่งจุดนี้เป็นจุดเด่นที่เห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อที่จะต้องใช้ในการพยุง และการค้ำยันได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร ของร่มไม้เท้าเลย แต่ก็ยังมีแบบที่ออกแบบด้ามจับมาให้เป็นรูปแบบธรรมดา ซึ่งแบบนี้ก็ดีคือไม่เกะกะเทอะทะ แต่อย่างว่าเรื่องของความสะดวกในการจับ ไม่ว่าอย่างไรแบบที่มีด้ามจับเหมือนกับไม้เท้า ก็น่าจะจับได้ดีกว่า

    และแน่นอนว่าใช้ในการค้ำยัน หรือพยุงทั้งร่างกาย ดังนั้นลักษณะที่โดดเด่นอีกอย่าง ที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากคือเรื่องของความแข็งแรงทนทาน คือบริเวณของโครง ที่อาจจะต้องทำมาจากวัสดุที่ได้คุณภาพสักนิด จะต้องมีการใช้งานอย่างคุ้มค่าและยาวนาน โดยไม่เกิดการชำรุดเสียหายได้อย่างง่าย อาจจะต้องมีฟังก์ชั่นอื่น ทุกอย่างการเคลือบกันสนิม แบบนี้เป็นต้น

    อีกคุณสมบัติที่โดดเด่นคือบริเวณอื่น ไม่ว่าจะเป็นบริเวณโครงหรือบริเวณผ้า จะต้องสามารถกันรังสียูวี และกันน้ำได้ด้วย การสามารถกันรังสียูวีได้นั้น อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละเจ้า ที่จะออกแบบและผลิตออกมาใช้งาน แต่หากเป็นแบบไม้เท้าที่ใช้สำหรับผู้สูงวัยแล้ว ส่วนมากมักจะถูกออกแบบมาให้มีลักษณะโดดเด่นเหล่านี้ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้สูงอายุ

    ประโยชน์ที่สามารถใช้งานได้

    แน่นอนว่าประโยชน์อย่างแรก คือการใช้ในการกันฝน กันแดด แต่อีกหนึ่งร่มที่กันแดดได้ดีมาก ๆ เช่นกันคือ ร่มสนาม เราสามารถที่จะพกพา ร่มไม้เท้า ไปไหนมาไหนในวันที่อากาศเป็นแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะวันที่มีแดดแรงแค่ไหนก็ไร้กังวล หรือในช่วงนี้ที่ใกล้เข้าหน้าฝนเต็มที่ ก็สามารถที่จะกันฝนได้ด้วย นอกจากนี้ ในเรื่องของความแข็งแรงทนทานที่มีอยู่สูง ดังนั้นคุณสมบัติที่โดดเด่นนี้ จึงสามารถทำให้ร่มไม้เท้า ยังจะกันลมได้อีกด้วย ดังนั้นในแง่ของการใช้งาน จึงถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่า และน่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

    นอกจากคุณสมบัติที่ร่มทั่วไป ทำได้แล้ว การที่มีฟังก์ชั่นการเป็นไม้เท้า ยังสามารถใช้ในการค้ำยันและการพยุงตัวได้ ด้วยความแข็งแกร่ง การถูกออกแบบมาให้ใช้งานในลักษณะนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นจึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับผู้สูงวัย ที่มีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างง่ายดาย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเป็นต้น ทั้งนี้ด้ามจับ อาจจำเป็นต้องเลือกแบบที่มีความแข็งแรงสักนิด เพื่อที่จะให้จับได้อย่างถนัดมือ และรับน้ำหนักจากการค้ำยันได้เป็นอย่างดี

    ไอเดียการใช้ร่ม ในการตกแต่งร้านค้า

    ในปัจจุบัน ร่มนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับใครหลายคนที่จะพกพาอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปไหนมาไหนอยู่เสมอแล้ว เนื่องจากเราใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ง่ายดาย ใช้ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่เป็นหน้าฝน...

    ในปัจจุบัน ร่มนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับใครหลายคนที่จะพกพาอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปไหนมาไหนอยู่เสมอแล้ว เนื่องจากเราใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ง่ายดาย ร่มพับ ใช้ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่เป็นหน้าฝน เราสามารถหยิบอุปกรณ์ชิ้นนี้มาใช้งานได้อย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้น ในวันที่มีแดดร้อนจัด หรือในวันที่มีลมแรง เราก็ยังจะหยิบร่มมาใช้งานได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้เพียงมีประโยชน์แค่นั้น เรายังสามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการตกแต่งร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อให้ดูมีความสวยงาม อีกทั้งยังอาจมีมุมถ่ายรูปที่น่าสนใจอีกด้วย

    ทุกวันนี้ร่มไม่ใช่เพียงแค่สำหรับการกันฝนเท่านั้น แต่สำหรับใครหลายคนยังนำมาตกแต่ง สำหรับใครก็ตามที่มองหาไอเดียการตกแต่งร้านขาย วันนี้เราจะมานำเสนอไอเดียการใช้ร่ม ในการตกแต่งร้านค้าให้ออกมาสีสันสวยงาม มีความสะดุดตาและน่าสนใจด้วย ตัวอย่างเช่น ร่มสนาม

    แขวนไว้ข้างบนตามปกติ

    วิธีการแรกคือการแขวนร่มไว้ตามปกติ โดยอาจทำให้มันห้อยลงมา ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากเลยทีเดียว เรามักจะเห็นแบบนี้ได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่มักจะนำร่มมาห้อยไว้เหนือทางเดิน ซึ่งทำให้บริเวณนั้นมีสีสันสวยสะดุดตา แถมยังช่วยบังแดดและกันฝนได้ในระดับ หนึ่ง ด้วย นับว่าเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมกันเลยทีเดียว

    แต่อาจจะต้องเลือกสีสันที่จะนำมาใช้ ในการเลือกพิจารณาด้วย รวมถึงรูปแบบในการจัดวาง อยากที่จะจัดวางอย่างเป็นระเบียบ หรืออยากที่จะจัดวางสลับไปมา ซึ่งให้อารมณ์แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ การที่แขวนไว้ข้างบน ยังไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เฉพาะพื้นที่ที่เป็นสวนกลางแจ้งเท่านั้น แต่เรายังสามารถนำมาแขวนไว้ในลานโล่ง ที่เป็นพื้นที่ปิด หรือในร้านอาหารเพื่อดึงดูดความสนใจได้ด้วย

    ทำเป็นโคมไฟ

    อันนี้จะคล้ายกับวิธีการแรก แต่ที่จะเพิ่มเติมมา คือการเพิ่มหลอดไฟใส่เข้าไปข้างในเช่น ร่ม Led เปรียบเสมือนใช้ร่มเป็นโคมไฟ มันจะสวยงามเป็นอย่างมาก หากเราใช้ตกแต่ง และเพิ่มสีสันกับแสงไฟได้ในยามค่ำคืน นอกจากจะมีสีสันที่สวยงามมากมายแล้ว การมีไฟทำให้บรรยากาศดูมีความโรแมนติก และเหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างมาก

    ทำติดผนัง

    อีกวิธีการนึงจะมีความคล้ายคลึงกัน นั่นก็คือ การวางร่มติดผนังเอาไว้ ส่วนมากแล้วจะใช้แบบที่มีสีสัน หรืออาจจะแบบที่มีลวดลายเพิ่มเติม โดยการนำมาเรียงต่อกันแล้วทำเป็นฉาก ให้นักท่องเที่ยวได้สามารถที่จะแวะมาถ่ายรูป ไม่ว่าจะถ่ายภาพออกมามุมไหน ไม่ว่าอย่างไรก็ออกมาสวยงามชัดเจน และมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากที่อยากให้หามาใช้งานกันมากเลยทีเดียว

    อ้อยกลับหัวไว้ข้างบน

    นี่ก็เป็นอีกวิธีการ หนึ่ง ที่ค่อนข้างน่าสนใจ และได้รับความนิยมอยู่ในระดับ หนึ่ง เช่นเดียวกัน นั่นคือการห้อยร่มกลับหัว แทนที่จะนำตั้งไว้แล้วนำไปไว้ข้างบน ถึงจะมีความคล้ายคลึงกันกับแบบแรก แต่ก็ยังคงให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน โดยปกติหากเรานำมาห้อยกลับหัวไว้ จะเป็นการโชว์สีสันและลวดลายของอุปกรณ์ของเรา

    วิธีการนี้ถึงจะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างน่าสนใจ แต่ก็มีข้อควรระวังบางอย่างอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ อาจจะต้องเลือกพื้นที่สำหรับการใช้งานสักเล็กน้อย แนะนำให้เป็นพื้นที่ปิด หรือพื้นที่ที่ไม่ได้มีฝนตกบ่อยมากนัก เพราะหากเรานำอุปกรณ์ชนิดนี้มาห้อยกลับหัว แน่นอนว่ามันง่ายต่อการที่จะเกิดน้ำขังภายในได้ และหากมันเป็นเช่นนั้นแล้ว แทนที่จะเป็นของประดับตกแต่งและช่วยเพิ่มความน่าสนใจกับความสวยงาม มันกลับจะไล่ลูกค้าของเราไป

    ร่มกอล์ฟ กับร่มกันฝนทั่วไป ต่างกันอย่างไร?

    เมื่อพูดถึงร่มก็แน่นอนว่า หลายคนพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นสินค้ายอดฮิตชิ้นนึงที่นิยมนำมาใช้ทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมเพื่อประโยชน์ทางการตลาด ใช้เป็นพื้นที่ในการโปรโมทชื่อแบรนด์ องค์กร หรือใจความในแคมเปญต่างๆ ให้กลุ่มลูกค้า และคนทั่วไปได้พบเห็น...

    เมื่อพูดถึงร่มก็แน่นอนว่า หลายคนพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นสินค้ายอดฮิตชิ้นนึงที่นิยมนำมาใช้ทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมเพื่อประโยชน์ทางการตลาด ใช้เป็นพื้นที่ในการโปรโมทชื่อแบรนด์ องค์กร หรือใจความในแคมเปญต่างๆ ให้กลุ่มลูกค้า และคนทั่วไปได้พบเห็น ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ร่มเป็นสินค้ายอดฮิตในแวดวงการตลาดนั้นก็เพราะตัวสินค้ามีประโยชน์ใช้สอยพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตประจำวันสำหรับทุกคน เรียกว่าทุกคนต่างก็ต้องใช้สอยร่มเพื่อกางกันฝน หรือกันแดดในบางช่วงเวลานั่นเอง อย่างไรก็ตามนอกจากร่มสำหรับกันฝนกันแดดทั่วไปแล้ว เช่น ร่มกลับด้าน ร่มพับ ก็ยังมีร่มประเภทอื่นอีกเช่นกันที่ถูกเลือกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดสำหรับแคมเปญต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือร่มกอล์ฟ ตัวช่วยสื่อสารภาพลักษณ์แบรนด์ยอดนิยมในหมู่แบรนด์ชื่อดัง และองค์กรขนาดใหญ่
    ทั้งนี้กีฬากอล์ฟถือได้ว่าเป็นกีฬายอดนิยมในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้อสูงของแบรนด์ และธุรกิจต่างๆ การได้สื่อสารชื่อ โลโก้ หรือกระทั่งใจความในแคมเปญต่างๆ ผ่านร่มกอล์ฟจึงถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยเสริมภาพลักษณ์ชั้นดีให้กับแบรนด์ และองค์กรของเรา ในบทความนี้จึงจะมากล่าวแนะนำถึงความแตกต่างระหว่างร่มกอล์ฟ และร่มกันฝนทั่วไปว่ามีความแตกต่างกันที่ตรงจุดไหน อย่างไรบ้าง เพื่อให้หลายคนที่วางแผนจะทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในแคมเปญการตลาดขององค์กร บริษัทตัวเองสามารถเลือกออกแบบ กำหนดสเปค และสั่งผลิตได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ได้สินค้าที่ออกมามีคุณภาพ และเหมาะกับการใช้งานจริง
    ขนาด และดีไซน์ ความแตกต่างอย่างแรกเลยที่แยกระหว่างร่มกอล์ฟ กับร่มกันแดดกันฝันทั่วไปก็คือ ดีไซน์และขนาด โดยดีไซน์ของร่มกอล์ฟนั้นจะเน้นความเรียบหรู นิยมเลือกใช้สีเข้ม เช่น สีกรมท่า สีดำ หรือเฉดสีพื้นที่ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมในตัวเอง เช่น สีเทา สีบรอนซ์ และใช้ลูกเล่นการออกแบบพื้นฐานอย่างการสลับสีตามช่องโครงร่มมาตรฐาน ขาว-ดำ, ขาว-กรมท่า, ขาว-น้ำเงิน เป็นต้น ขณะที่ร่มกันฝนทั่วไปจะมีความยืดหยุ่นในการดีไซน์มากกว่า มีการเลือกใช้เฉดสีต่างๆ และเล่นลวดลายได้อย่างอิสระ ส่วนขนาด ร่มกอล์ฟจะมีขนาดเริ่มต้นใหญ่กว่าชัดเจน โดยจะมีไซส์มาตรฐานที่นิยมใช้ตั้งแต่ 28 นิ้วขึ้นไป เนื่องจากการกางใช้งานนั้นเป็นการกางใช้ตั้งแต่สองคนขึ้นไป(แคดดี้กางให้กับผู้เล่น หรือนักกอล์ฟ) ขณะที่สินค้าสำหรับใช้งานกางกันแดด กันฝนทั่วไปมีขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 21 นิ้วเท่านั้น
    ร่มกอล์ฟนิยมใช้โครงไฟเบอร์ ความแตกต่างจุดต่อมาก็คือวัสดุที่ใช้ในการทำโครง โดยร่มกอล์ฟนั้นนิยมใช้วัสดุไฟเบอร์ทำโครง เนื่องจากมีน้ำหนักที่เบากว่า และมีความยืดหยุ่นสูงกว่าอลูมิเนียม ซึ่งเป็นผลดีทั้งในแง่ของการถือใช้งาน เนื่องจากตัวสินค้ามีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และยังสามารถลู่ลมได้ดี กล่าวคือสามารถลดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหาย หรือโครงหักพับจากแรงลมภายในสนามกอล์ฟได้ดีกว่าโครงอลูมิเนียมด้วยนั่นเอง
    ร่มกอล์ฟอาจออกแบบให้มีโครงสองชั้น แม้ว่าโดยลักษณะพื้นฐานโครงร่มกอล์ฟ กับร่มกันฝนทั่วไปจะดูไม่แตกต่างกัน โดยมีรูปแบบการกาง และหุบเก็บ รวมถึงตัวยึดผ้าคล้ายๆ กัน แต่เนื่องจากลักษณะการใช้งานของร่มกอล์ฟที่ต้องใช้งานในสนามกอล์ฟ ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง มีแรงลมสูงกว่าพื้นที่ลักษณะอื่นๆ ที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน จึงมีการคิดค้นดีไซน์ที่ช่วยต้านแรงลม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อตัวสินค้าและผู้ใช้งาน โดยเกิดเป็นดีไซน์โครงสองชั้นขึ้นมา ซึ่งเป็นลักษณะของการสร้างชั้นร่มขนาดเล็กบนส่วนหัวมาซ้อนทับอีกที เป็นเสมือนหมวกร่ม ทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆ ระหว่างชั้น ซึ่งจะช่วยต้านแรงลม สะท้อนแรงลมกลับ เวลากางใช้งานผู้ถือจึงจะรู้สึกจับถือใช้งานได้สะดวกกว่าดีไซน์มาตรฐานทั่วไป

    เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้ เกี่ยวกับร่มกันยูวี

    ไม่ว่าบ้านไหน ก็จำเป็นต้องมีร่มติดบ้านกันทั้งนั้นอยู่แล้ว เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจำเป็นมากเลยทีเดียวในตอนที่ฝนตก หรือในวันที่มีแดดจัด หรือบางคนถึงกับพกร่มไว้เพื่อแฟชั่น นำมาแมทช์กับการแต่งตัวมากมายหลากหลายรูปแบบ...

    ไม่ว่าบ้านไหน ก็จำเป็นต้องมีร่มติดบ้านกันทั้งนั้นอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นร่มพับ ร่มตอนเดียว หรือร่มใส เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจำเป็นมากเลยทีเดียวในตอนที่ฝนตก หรือในวันที่มีแดดจัด หรือบางคนถึงกับพกร่มไว้เพื่อแฟชั่น นำมาแมทช์กับการแต่งตัวมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็ค่อนข้างเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

    นอกจากนี้อุปกรณ์สำคัญชนิดนี้ ยังมีออกมาให้เราได้ใช้งานกันมากมายหลากหลายรูปแบบ เพื่อสะดวกแก่การพกพา หรือสะดวกกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วยเช่นเดียวกัน ในวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องร่ม ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เราคุ้นเคย แต่อาจเป็นในมุมที่ใครหลายคนอาจจะมีคำถาม และสงสัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ชนิดนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของร่มกันยูวี รวมถึงเทคนิคอื่นๆ อย่างการเลือกซื้อ และส่วนประกอบด้วย จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย

    ร่มกันยูวี สามารถที่จะกันรังสียูวีได้จริงหรือไม่

    ทุกวันนี้ สำหรับใครหลายคนที่ดูแลผิวพรรณ หรือแม้แต่ใครก็ตามที่อาจจะต้องทำงานกลางแจ้งบ่อยๆ เดินกลางแจ้งบ่อยๆ กับสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนเอามากๆ หลายคนก็น่าจะกังวลกับรังสียูวี ที่อาจทำให้เราเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น หรืออาจมีฝ้ากระ หรือผิวไหม้แดด จนท้ายที่สุดแล้ว อาจเป็นสาเหตุ หนึ่ง ของการก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังก็ได้ อาจจะสนใจและหันมาเลือกร่มยูวีสำหรับการใช้งาน

    สำหรับใครหลายคน ก็อาจจะเกิดข้อกังวลอยู่บ้าง ว่าที่บอกว่ากันยูวีนั้น มันกันยูวีได้จริงหรือไม่ และนายอัตราการกันยูวีอยู่ที่ขนาดไหน เคยมีการทดลอง โดยการตัดผ้าสำหรับกันยูวีมาวิเคราะห์ดู มีการค้นพบว่า บริเวณผ้า ด้านที่มีสีสันและลวดลาย จะมีการถักสานแบบตั้งฉากกัน ส่วนบริเวณผ้า ด้านที่มีสีเงิน จะมีผิวปิดสนิทไว้สำหรับกันยูวี ดังนั้น มันสามารถที่จะกันยูวีได้อย่างแน่นอน

    ร่มสำหรับการยูวี เคลือบด้วยอะไร

    โดยปกติแล้ว ร่มที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้นั้น จะทำออกมาเป็นสีน้ำเงินวาว สิ่งนี้เองเป็นโลหะอะลูมิเนียม ซึ่งคาดว่าเป็นสารสีอะลูมิเนียมในสียอมผ้า ด้วยการที่อลูมิเนียมนั้นเป็นโลหะชนิด หนึ่ง ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติในการสะท้อนแสง และยังสามารถที่จะสะท้อนรังสียูวีได้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น มันยังสะท้อนรังสีอินฟราเรดได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เอง ร่มสำหรับการรังสียูวี จึงป้องกันผิวของเรา จากรังสียูวีได้ดีกว่าแบบธรรมดาทั่วไป แต่มันจะป้องกันผิวเราจากรังสียูวีได้ดีมากน้อยขนาดไหน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมายหลากหลายแตกต่างกันออกไป

    เทคนิคในการเลือกซื้อแบบที่ป้องกันรังสียูวี

    เทคนิคบางประการในการเลือกซื้อแบบที่ป้องกันรังสียูวีได้ นั่นก็คือพยายามที่จะเลือกสีที่เข้ม จะป้องกันรังสียูวีได้ดีกว่าแบบที่มีสีอ่อน และผ้าที่ถักทอจนเนื้อแน่น แน่นอนว่าจะสามารถป้องกันรังสียูวีได้ดีกว่าที่แบบผ้าโปร่ง และด้านที่เป็นสีเงิน ควรจะอยู่ด้านในหรือด้านนอก ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ด้านไหนก็ตาม จะสามารถป้องกันรังสียูวีได้ดีพอกัน หากเราใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้กลางแดดจัดไม่ได้บ่อยมากนัก สีเงินอยู่ด้านในก็ไม่แตกต่างกันมากมาย แต่หากเราใช้กลางแจ้งบ่อย การที่มีสีเงินอยู่ด้านนอก น่าจะช่วยได้มากกว่า อีกทั้งยังยืดอายุของเนื้อผ้าได้ดีกว่าด้วย

    ส่วนประกอบ

    ส่วนประกอบของแบบที่สามารถกันยูวีได้ ก็ไม่ได้ต่างจากแบบทั่วไปมากมายนักมีทั้งแบบ ร่มตอนเดียว หรือร่มพับ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณด้ามจับ หรือบริเวณซี่ แต่ที่จะมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน คือตัวบริเวณของผ้า ซึ่งจะมีคุณสมบัติกันรังสียูวี อย่างที่บอก เนื่องจากบริเวณผ้านั้นมีส่วนประกอบของอลูมิเนียมซึ่งเป็นโลหะนั่นเอง