ถ้าพูดถึงสินค้าพรีเมี่ยมขนาดใหญ่ แน่นอนว่าสินค้ายอดฮิตที่เราพบเห็นได้บ่อยที่สุด เรียกว่าเป็นไอเดียแรกๆ ที่แบรนด์ หรือบริษัทต่างๆ นึกถึงย่อมหนีไม่พ้นร่มประเภทใช้งานกลางแจ้งขนาดใหญ่ เช่น ร่มเต็นท์ ร่มแม่ค้า หรือร่มสนาม เป็นต้น เพราะด้วยธรรมชาติรูปทรงของตัวสินค้าถือว่าเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นตัวช่วยให้การเสริมภาพลักษณ์ให้กับองค์กร สร้างการจดจำแก่กลุ่มลูกค้า กลุ่มผู้บริโภคในวงกว้างให้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามด้วยขนาดสินค้าที่ค่อนข้างแตกต่างไปจากสินค้าพรีเมี่ยมอื่นๆ ที่มักมีขนาดเล็ก ทำให้การเลือกออกแบบและสั่งผลิตสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นนี้มีความแตกต่างกันไปด้วย ซึ่งในบทความนี้เองก็ได้นำเอาข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับร่มพรีเมี่ยมขนาดใหญ่ มาบอกกล่าวให้หลายคนที่อาจจะยังไม่เคยผ่านประสบการณ์สั่งทำสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นนี้มาก่อนได้ทราบกัน
เป็นสินค้าที่เหมาะสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานแบบเจาะจง โดยทั่วไปแล้วสินค้าพรีเมี่ยมที่แต่ละแบรนด์ แต่ละบริษัทนิยมทำออกมาใช้งานในกิจกรรมการตลาดต่างๆ มักมีประโยชน์งานพื้นฐานทั่วไป และเป็นสินค้าขนาดเล็ก จึงมักจะปรับใช้งานได้กับกิจกรรมการตลาดหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับร่มใช้งานการแจ้งขนาดใหญ่นั้น ประโยชน์ใช้งานตัวสินค้าค่อนข้างมีความเฉพาะเจาะจง เช่น ใช้สำหรับกางเป็นร่มร้านค้าฟู้ดสตรีท ใช้กางเป็นซุ้มกิจกรรมสำหรับงานอีเว้นท์กลางแจ้งต่างๆ เป็นต้น การจัดทำสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นนี้จึงต้องคำนึงถึงแพลนการใช้งานสินค้าให้เหมาะสมกับกิจกรรมการตลาดนั้นๆ และความคุ้มค่าในแง่ของการช่วยเริ่มภาพลักษณ์ให้แก่องค์กรด้วย โดยตัวอย่างการใช้งานที่เหมาะสมก็อย่างเช่น ใช้เป็นอุปกรณ์สนับสนุนกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในการเปิดร้านสำหรับเทศกาลต่างๆ ซึ่งเป็นลักษณะของการตั้งร้านแบบชั่วคราวในช่วงระยะเวลาใดเวลานึง การสนับสนุนในลักษณะดังกล่าวนี้ แม้ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท หรือองค์กรเราจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสินค้าโดยตรง แต่การที่กลุ่มลูกค้า ผู้บริโภคจำนวนมากในงานเทศกาลนั้นๆ ได้พบเห็นโลโก้ ชื่อบริษัทที่ถูกพิมพ์อยู่บนสินค้า หรือร่มตัวนั้นๆ ก็ถือเป็นการช่วยกระตุ้นการจดจำในแบรนด์องค์กรได้เป็นอย่างดี
ต้นทุนสั่งผลิตสินค้าที่ค่อนข้างสูง ในการสั่งทำสินค้าพรีเมี่ยมขนาดเล็ก เช่น ร่มพับแบบพกพาหรือร่มตอนเดียว กระเป๋า ถุงผ้า หมวก เราอาจจะคุ้นเคยกับต้นทุนราคาสั่งผลิตหลักสิบบาทต่อชิ้น แต่สำหรับร่มใช้งานกลางแจ้งขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่มีเรทราคาต้นทุนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยจะอยู่ในเรทราคาตั้งแต่หลักหลายร้อยบาทจนถึงหลักพันบาทต่อคัน ขึ้นอยู่กับรายละเอียดการผลิตต่างๆ เช่น ชนิดของผ้าที่เลือกใช้ ความซับซ้อนของดีไซน์รูปทรง เป็นต้น การแพลนจัดสรรงบในการสั่งผลิตสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นนี้จึงต้องใส่ใจในรายละเอียดพอสมควร อย่างไรก็ตามด้วยราคาต้นทุนต่อชิ้นที่ค่อนข้างสูงดังกล่าว ก็ทำให้จำนวนขั้นต่ำในการสั่งผลิตที่โรงงานผู้ผลิตเจ้าต่างๆ กำหนดไว้ต่ำลงไป โดยบางโรงงานมีการกำหนดขั้นต่ำการสั่งผลิตร่มพรีเมี่ยมขนาดใหญ่ไว้ที่ 5 คันเท่านั้น
รูปทรงของโครงร่มมีผลต่อประสิทธิภาพในการสื่อสาร อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าวัตถุประสงค์หลักในการทำร่มพรีเมี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นสักชิ้นก็เพื่อใช้พื้นที่ของตัวสินค้าในการโปรโมท สื่อสารให้ชื่อของบริษัท แบรนด์ หรือองค์กรได้รับการจดจำ ทว่ารูปทรงของโครงร่มนั้นมีอยู่หลายแบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบก็ล้วนมีผลต่อการพบเห็น จดจำชื่อ สัญลักษณ์ ข้อความที่อยู่บนตัวร่มคันนั้นๆ โดยรูปทรงโครงร่มที่เป็นผลดีต่อการกระตุ้นการจดจำ ทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกสะดุดตากับข้อความ สัญลักษณ์ต่างๆ ที่พิมพ์ไว้ได้ง่ายควรจะต้องมีส่วนโค้ง หรือลาดลงพอสมควร เพื่อที่ข้อความ สัญลักษณ์ที่พิมพ์ไว้จะได้ลงมาอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงกับระดับสายตามากขึ้นนั่นเอง